รีเซต

ยลโฉมเครื่องประดับนำโชค อัลลองบรา (Alhambra) จาก Van Cleef & Arpels

ยลโฉมเครื่องประดับนำโชค อัลลองบรา (Alhambra) จาก Van Cleef & Arpels
pommypom
22 พฤศจิกายน 2565 ( 17:35 )
327

เครื่องประดับอัลลองบรา (Alhambra collection) ผลงานสร้างชื่อ หนึ่งในสัญลักษณ์ตัวแทน Van Cleef & Arpels มาตั้งแต่ปีค.ศ. 1968 ได้จรัสประกายสุกสว่างสะกดสายตาอีกครั้งด้วยห้าผลงานรังสรรค์ใหม่โดยอาศัยทองคําาขาวสลักลายรัศมีตะวัน “กวิโญเช” (guilloché) เป็นจุดเด่น นอกจากนั้น ยังมีนาฬิกาข้อมือตัวเรือนทองคําาสีกุหลาบบนสายคาดร้อยลูกปัดสําาหรับเป็นบทเติมเต็มให้แก่บรรดางานออกแบบ “เครื่องประดับนําาโชค” อันอยู่เหนือกระแสความนิยมของยุคสมัย

 

 

ประกายสว่างสกาวแสงแห่งทองคําขาวสลักลาย GUILLOCHÉ

เป็นเวลากว่าหลายปีที่โมทิฟแผ่นลายอัลลองบราได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นนวัตกรรมรังสรรค์ความสดใหม่ร่วมกับการใช้วัสดุเลอค่านานาชนิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างต่อเนื่องอย่างเช่นในปีนี้ ที่คอลเลคชันผลงานอันทรงแบบฉบับได้ทําาการต้อนรับสมาชิกใหม่อันประกอบไปด้วยหนึ่งสร้อยคอยาว, หนึ่งสร้อยข้อมือ, หนึ่งแหวน กับต่างหูอีกหนึ่งคู่ทั้งหมดนี้ล้วนโดดเด่นสะดุดตาด้วยงานฝีมือทองคําาขาวสลักลายเส้นรัศมีตะวัน “กวิโญเช” (guilloché) เทคนิคอันให้ความสําาคัญกับเวลา และความพิถีพิถันเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเมซงได้เริ่มนําามาใช้หัตถศิลป์สุดวิจิตรบรรจงนี้มาใช้เป็นครั้งแรกกับหน้าปัดนาฬิกาข้อมือในระหว่างทศวรรษ1910 ก่อนขยายผลไปสู่ราย ละเอียดตกแต่งบนพื้นผิวโลหะเลอค่ารองรับงานประดับรงคศิลานานาชนิดของบรรดาประดิษฐกรรมยอดนิยมในทศวรรษ 1930 อาทิเช่นกล่องเครื่อง ประดับ หรือกล่องเก็บของใช้จุกจิก,ตลับแป้ง และกระเป๋าถือทรงกล่องสี่เหลี่ยมที่เรียกว่า “มิโนดิเอร” (Minaudière)

 

 

สําหรับผลงานเครื่องประดับทองคําาขาวรุ่นใหม่เหล่านี้ งานสลักลายเส้นจําาลองแบบลําาแสงสาดส่องของวงรัศมีจากดวงอาทิตย์เรียงริ้วเป็นร่องลึกลดหลั่นบนพื้นผิวเนื้อทองรองรับแถวไข่มุกลูกปัดทองเดินขอบล้อมกรอบรอบรูปทรงใบโคลเวอร์สี่แฉกของแผ่นโมทิฟอัลลองบรา ทวีความครบครันตามธรรมเนียมแห่งความกลมกลืนทางการออกแบบด้วยงานฝังลูกปัดทองคําาขาวเม็ดเดี่ยวตรงกึ่งกลาง

 

 

 

ความอ่อนช้อย ละมุนละไมของลูกปัดทอง

Van Cleef & Arpels ทวีความโดดเด่นเป็นหนึ่งของอัลลองบราในฐานะเครื่องประดับนําาโชคผ่านผลงานใหม่ ซึ่งสรรค์สร้างขึ้นจากการหลอมรวมไหวพริบพลิกแพลงทักษะความชําานาญด้านงานผลิตนาฬิกาเข้ากับแรงบันดาลใจอันได้จากเครื่องประดับอัญมณี นาฬิกาข้อมือ Sweet Alhambra รุ่นใหม่ จรัสประกายอบอุ่นละมุนละไมของทองคําาสีกุหลาบ นี่คืองานออกแบบ ซึ่งถือกําาเนิดขึ้นบนจุดบรรจบระหว่างเทคนิคงานฝีมือลูกปัดทองอันทรงเอกลักษณ์ กับทักษะความชําานาญด้านการผลิตนาฬิกาข้อมือ

ความเป็นผู้หญิงถูกถ่ายทอดผ่านงานออกแบบเครื่องประดับอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นกรอบตัวเรือนเดินขอบด้วยลูกปัดทองสองแถวล้อมรอบผืนหน้าปัดทําาจากแผ่นแม่มุก หรือมาเธอร์-ออฟ-เพิร์ลขาวกระจ่าง หรือความอ่อนช้อยของสายคาดข้อมือประกอบลูกปัดทองสุดประณีตตามโค้งสรีระของข้อมือ มอบความสบายยามสวมใส่ในทุกอากัปการเคลื่อนไหว

สายคาดสร้อยข้อมือยังง่ายต่อการปลดออกจากตัวเรือนนาฬิกาเพื่ออําานวยความสะดวกในการสลับสับเปลี่ยนกับสายคาดทําาจากผ้าเนื้อริบบินลายเกล็ด“กรอส-เกรน”หรือสายหนังจระเข้ ด้วยเหตุนั้น นาฬิการุ่นนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งในฐานะเครื่องประดับบอกเวลา เติมความงามสง่าให้แก่ทุกลุคการแต่งกายประจําาวัน พร้อมกับเป็นสื่อสะท้อนถึงความรู้สึก และอารมณ์ของผู้สวมใส่ในแต่ละวัน

 

 

ไหวพริบพลิกแพลงแห่ง THE ALHAMBRA COLLECTION

คอลเลคชันอัลลองบรา (Alhambra collection) ครองตําาแหน่งหนึ่งในงานออกแบบเครื่องประดับอันเป็นสัญลักษณ์ตัวแทน Van Cleef & Arpels ด้วยงานสร้างสรรค์ที่เปรียบเสมือนบทสะท้อนถึงทักษะหลากแขนงแห่งเมซง จากงานเจียระไนไปจนถึงงานขึ้นโครงสร้างเครื่องประดับ และจากงานฝังรัตนชาติขึ้นตัวเรือน ไปจนถึงขั้นตอนของการขัดผิว แต่ละชิ้นล้วนต้องอาศัยความชําานาญด้านต่างๆ มากมาย ดังจะเห็นได้จากโมทิฟทองคําาขาวสลักลายกวิโญเชท่ามกลางแถวลูกปัดทองล้อมกรอบอย่างงามสง่า ซึ่งถือเป็นสไตล์เฉพาะตัวของเครื่องประดับกลุ่ม “วินเทจ อัลลองบรา” (Vintage Alhambra)

กรอบตัวเรือนเลอค่าจะได้รับการตรวจตรา และปรับแต่งโดยช่างหัตถศิลป์ชั้นสูงด้านงานโครงสร้างตัวเรือน ก่อนดําาเนินการดัดโค้งก้านหนามเตยให้ลูกปัดส่วนปลายลงมาทําาหน้าที่ยึดแผ่นโมทิฟ ซึ่งถูกฝังลงบนหน้าตัวเรือนให้ลงตําาแหน่งเข้าที่อย่างแน่นหนา จากนั้นจึงเป็นขั้นตอนของการขัดผิวชิ้นงานเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อขับประกายสุกสว่างเป็นเงางามของแต่ละองค์ประกอบ อาจกล่าวได้ว่า ตั้งแต่เริ่มต้นเลือกสรรวัสดุ ไปจนถึงการหล่อแบบตัวเรือนเครื่อง ประดับ มาสู่งานตกแต่งรายละเอียดทางรูปทรง จนจบลงที่งานตรวจสอบควบคุมคุณภาพ ความใส่ใจในรายละเอียดของทั้งกระบวนการผลิตไม่น้อยกว่าสิบห้าขั้นตอนล้วนจําาเป็นอย่างยิ่งในการผลิตผลงานอันทรงแบบฉบับ ที่คงทน และครองความงดงามอยู่เหนือกระแสความนิยมของยุคสมัย

ALHAMBRA เครื่องประดับนําโชคตั้งแต่ปี1968

“ถ้าอยากมีโชค เราต้องเชื่อในโชค” คือคําากล่าวของฌาคส์ อารเปลส์ หลานชายของเอสแต็ลล์ อารเปลส์ ในฐานะค่านิยมอันเป็นที่รักของเมซง โชคลาง และบรรดาสัญลักษณ์นําาโชคทั้งหลายกลายเป็นแรงบันดาลใจ และปูหนทางสู่การออกแบบผลงานอันทรงแบบฉบับเฉพาะตัวขึ้นอย่างหลายหลากมากมาย ดังจะเห็นได้ในปีค.ศ. 1968 ที่เมซงได้สรรค์สร้างสร้อยคอยาวอัลลองบราเส้นแรกขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของใบโคลเวอร์สี่แฉก สัญลักษณ์นําาโชคตามความเชื่อของวัฒนธรรมสากล ใบโคลเวอร์ทั่วไปจะมีเพียงสามแฉก และเป็นที่เชื่อกันว่า ทุกหนึ่งพันต้น จะมีใบโคลเวอร์สี่แฉกเพียงหนึ่ง จึงถือว่าการค้นพบใบไม้หายากเช่นนี้ย่อมนําาโชคมงคลมาสู่อีกทั้งยังถือกันว่าแต่ละแฉกของใบโคลเวอร์ล้วนสื่อความหมาย นั่นก็คือแฉกแรกเป็นตัวแทนแห่งความหวัง, แฉกที่สองคือศรัทธา, แฉกที่สามสื่อถึงความรัก และแฉกที่สี่คือโชคดี สําาหรับสร้อยคอยาวอัลลองบรารุ่นต้นแบบเส้นแรก หาได้ต่างอะไรจากการร้อยเรียงแผ่นโมทิฟจําาลองรูปทรงใบโคลเวอร์สี่แฉกตัวแทนแห่งโชคมงคลเข้าไว้ร่วมกัน 20 ชิ้น โดยที่แต่ละชิ้นต่างทําาขึ้นจากทองคําาสีเหลืองหล่อแบบเล่นลายริ้วย่นบนผิวสัมผัสท่ามกลางงานล้อมกรอบด้วยลูกปัดไข่มุกทองกลมกลึง สื่อถึงความอ่อนช้อย ละมุนละไม ผลงานการออกแบบนี้ประสบความสําาเร็จในทันที และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะเครื่องประดับนําาโชค สัญลักษณ์แห่ง Van Cleef & Arpels

 

บทความที่เกี่ยวข้อง