สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ทุกคน ผ่านพ้นปีใหม่กันอีกปีแล้วนะคะ เวลาผ่านไปรวดเร็วไม่รอใครเลยจริง ๆ และเมื่อเวลาผ่านไป อายุของเราก็เพิ่มมากขึ้นทุกปีเช่นกัน คิดไปก็ใจหายไม่น้อยค่ะ ยิ่งอายุเพิ่มขึ้น เรารู้สึกได้เลยว่าสภาพผิวของเรานั้นก็ไม่เหมือนเดิม จากที่เมื่อก่อนไม่ต้องดูแลหรือบำรุงอะไรมากมายนัก ผิวเราก็ยังคงสุขภาพดี แต่ตอนนี้หากไม่บำรุงและดูแลใส่ใจ ผิวฟ้องอายุเราทันทีค่ะ ปีนี้เราเองอายุย่างเข้าเลข 4 แล้ว รู้สึกได้ว่าผิวเราค่อนข้างแห้ง และขาดความชุ่มชื่น ซึ่งการที่ผิวแห้งจะส่งผลกับสภาพผิวตามมามากมาย เช่น มีริ้วรอย ร่องลึก ดูแก่ก่อนวัย เราจึงศึกษาหาข้อมูลหาวิธีหรือการบำรุงที่จะสามารถเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว จึงได้พบกับเอสเซ้นส์บำรุงผิว หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า น้ำตบ ค่ะ ปัจจุบันกระแสการใช้น้ำตบเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก แต่ละยี่ห้อก็จะผลิตน้ำตบออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เพื่อน ๆ สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการผิวเลยค่ะ และสำหรับเรา หลังจากได้ทดลองใช้น้ำตบมาระยะหนึ่ง พบว่าเห็นผลจากการใช้จริง ๆ ซึ่งจะมาแบ่งปันข้อมูลกับเพื่อน ๆ ในวันนี้ค่ะ 1. Hada Labo hydrating Lotion ผลิตภัณฑ์น้ำตบของฮาดะ ลาโบะ เป็นที่รู้จักกันดี และขึ้นชื่อในเรื่องเติมน้ำให้ผิว สำหรับตัวนี้สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว น้ำตบใส บางเบา ไม่เหนอะหนะ ซึมเข้าสู่ผิวได้รวดเร็วมากค่ะ ความรู้สึกของเราหลังใช้คือผิวนุ่ม ชุ่มชื่นขึ้นทันที ตัวนี้เค้าเคลมว่าใช้เทคโนโลยี HPP&M เพิ่มประสิทธิภาพการบำรุง จากไฮยาลูโรนิคที่มีโมเลกุลต่างกัน ทั้ง Small-size Hyaluronic Acid, Medium-Size Hyaluronic และ Super Hyaluronic ที่สามารถที่จะแทรกซึมเข้าเติมเต็มพร้อมทั้งกักเก็บความชุ่มชื่นได้อย่างล้ำลึก และปรับสมดุลผิวพร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป เพื่อน ๆ ที่ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้นะคะ เพราะไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์, น้ำมันแร่, น้ำหอม และสี ค่ะ ราคา 520 บาท เราซื้อมาจากร้านวัตสัน และสามารถซื้อได้ที่ร้านบูทส์, ท้อป ซุปเปอร์มาร์เก็ต, เทสโก โลตัส ก็มีจำหน่ายค่ะ 2. Hada Labo gokujun premium ตัวนี้เป็นน้ำตบตัว Premium ของฮาดะ ลาโบค่ะ เนื้อน้ำตบจะมีความหนึบกว่าตัวแรก แต่เมื่อตบลงบนผิว สามารถซึมลงสู่ผิวได้ดี ไม่เหนอะหนะเลยค่ะ ตัวนี้เราชอบใช้ช่วงที่ผิวหน้าแห้งมาก ๆ ก่อนนอนเราจะเทออกมาในปริมาณเท่าเหรียญสิบบาท และตบแปะ ๆ ลงไปและนอนเลย ตื่นเช้าขึ้นมาผิวหน้านุ่มชุ่มชื่นและฟูมาก ๆ เค้าเคลมว่าตัวนี้มี Hyaluronic Acid ถึง 5 ชนิด เพื่อบำรุงและฟื้นฟูผิวโทรม ผิวแห้งเสียที่ขาดการดูแล ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์, น้ำหอม, สี และน้ำมันแร่ค่ะ ราคา 580 บาท แต่เราโชคดีมากค่ะ ซื้อตัวนี้มาในช่วงโปรโมชั่น 1 แถม 1 จากวัตสัน คุ้มแสนจะคุ้มค่ะ มีขายที่ร้านวัตสัน, ร้านบูทส์, ท้อป ซุปเปอร์มาเก็ต และเทสโก โลตัส และร้านออนไลน์ทั่วไปค่ะ 3. ZA True white essence lotion สำหรับตัวที่ 3 นี้ คือ ZA True white essence lotion เป็นตัวดังของ ZA และเป็นที่นิยมกันมานาน เพราะมีส่วนช่วยให้ผิวขาว กระจ่างใส เรามีวิธีการใช้ 2 แบบสำหรับตัวนี้ค่ะ คือปกติก็เทออกมาประมาณเหรียญ 10 บาท แล้วตบ ๆ แปะ ๆ ให้เอสเซ้นส์ซึมลงไปในผิว กับอีกวิธีที่อยากให้ได้สารบำรุงล้ำลึกมากขึ้นคือ เทเนื้อเอสเซ้นส์ลงบนสำลีหรือเม็ดมาร์คให้ชุ่ม แล้วนำมาแปะลงบนผิวเหมือนเป็นแผ่นมาร์ค เมื่อลอกออกรู้สึกได้เลยค่ะว่าหน้าสว่างใสขึ้นทันที เรามักจะชอบใช้ช่วงที่ผิวหน้าหมอง ไม่สดใส ต้องฟื้นฟูแบบเร่งด่วน ผลลัพธ์เป็นที่พอใจมากค่ะ ราคา 420 บาท หาซื้อได้ง่าย เช่น บูทส์หรือวัตสัน เป็นต้น 4. Premium whitening lotion ตัวนี้เป็นของฮาดะ ลาโบะ เช่นเคยค่ะ นอกเหนือจากช่วยให้ผิวนุ่มแล้ว เหมาะสำหรับผิวที่ต้องการความกระจ่างใสด้วยค่ะ เนื้อเอสเซ้นท์เบา บาง ไม่เหนอะหนะ ซึมเร็ว มีส่วนผสมของวิตามิน E และ C ช่วยปลอบประโลมให้ผิวรู้สึกผ่อนคลายหลังออกแดด ดังนั้นตัวนี้เราจะหยิบมาใช้ในวันที่ต้องเจอแสงแดดแรง ๆ เป็นเวลานาน เมื่อได้มารู้สึกผิวสบายขึ้นจริง ๆ ค่ะ ตัวนี้เป็นไซซ์เล็ก ราคา 129 บาท เราซื้อมาจากร้าน 7-11 ค่ะ พกพาสะดวก โดยเฉพาะเวลาต้องไปทำงานต่างจังหวัด มีตัวนี้ไว้อุ่นใจค่ะ 5. Loreal revitalift สำหรับตัวสุดท้าย เป็นตัวที่ต้องไปหามาใช้เพราะเห็นรีวิวเยอะมาก เป็นน้ำตบจากลอรีอัล มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เนื้อเอสเซ้นส์มีความหนึบและไม่มัน ไม่เหนอะหนะ ทาลงไปไม่ทิ้งความเหนียวใด ๆ บนผิวค่ะ เค้าเคลมว่าตัวนี้ช่วยบำรุงผิวหน้าเพื่อผิวเปล่งปลั่งกระจ่างใสดุจคริสตัล ริ้วรอยดูลดเลือน ผิวแลดูอ่อนเยาว์ กระชับ เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น กระจ่างใสทันทีที่ใช้ แต่ตัวนี้เราเพิ่งใช้ได้ประมาณ 2 อาทิตย์ ซึ่งเราอาจต้องใช้เวลาลองใช้ตัวนี้อีกสักพักค่ะ ว่าได้ผลอย่างไร แต่เท่าที่รู้สึกได้ตอนนี้คือผิวกระชับขึ้นค่ะ เราซื้อมาช่วงโปรโมชั่นลดราคา 50% ที่วัตสัน ขวดเล็ก ราคาเพียง 69 บาท คุ้มราคาและสามารถพกพาไปต่างจังหวัดสะดวกด้วยค่ะ น้ำตบทั้ง 5 ตัว เราใช้สลับกันในช่วงนี้แล้วแต่สภาพผิวในแต่ละวันค่ะ ซึ่งเราใช้ทุกวัน สม่ำเสมอ ไม่สามารถขาดได้เลย เป็นการบำรุงผิวขั้นต้น ก่อนบำรุงตัวอื่น ๆ การใช้น้ำตบทำให้สภาพผิวเราดีขึ้นจริง ๆ ไม่มีความแห้งกร้าน ผิวเนียนนุ่มขึ้นมาก และช่วงไหนที่แผ่นมาร์คเราหมด เราก็นำน้ำตบมาเทใส่สำลีแปะทั่วหน้าใช้แทนแผ่นมาร์คได้ เพื่อน ๆ คนไหนมีปัญหาผิว ลองไปหามาใช้ตามสภาพผิวดูนะคะ รับรองได้ว่าได้ผลลัพธ์เป็นที่พอใจแน่นอนค่ะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้านะคะ สวัสดีค่ะ