ปัจจุบันประเทศไทย มีจำนวนผู้สูงอายุที่มีอายุระหว่าง 80-99 ปี ลดลงกว่าในอดีตมากถึงกว่าครึ่งหนึ่ง หรือเป็นเพราะสมัยอดีตนั้น ประเทศไทยยังขาดแคลนความเจริญทางเทคโนโลยี ประกอบกับสภาพแวดล้อมท่ามกลางธรรมชาติ สามารถบำบัดให้คนมีอายุยืนขึ้นได้จริง เมื่อมีผู้สูงอายุอยู่ในบ้าน หากยังเดินเหินได้อยู่ ยังถือว่าโชคดีกัยลูกหลานยิ่งนัก ควรระวังอย่าให้ผู้สูงอายุทำกิจวัตรประจำวันเพียงลำพัง หากต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตอยู่ในบ้านคนเดียว ลูกหลานควรวางแผนการป้องกันไว้บ้างดังนี้1.ฝากฝังกับเพื่อนบ้านคอยสอดส่องและรายงานสถานการณ์2.ติดกล้องวงจรปิด ที่สามารถดูภาพแบบ Realtime ผ่านสมาร์ทโฟน3.อย่าปล่อยให้อยู่ตามลำพัง4.หลีกเลี่ยงการปิดล็อคกุญแจบ้าน หรือขังไว้ในบ้าน โดยมีาผู้อื่นไม่สามารถเข้าไปดูแลช่วยเหลือ หากเกิดสถานการณ์ไม่คาดคิด5.อย่าขัดใจในการทำสิ่งต่างๆ หากไม่ได้เป็นอันตรายต่อตัวเองและคนรอบข้าง หรทอแม้กระทั่งทรัพย์สินภายในบ้านก็ตามกรณีที่มีผู้สูงอายุและมีโรคสมองเสื่อมร่วมด้วย ให้ทำความเข้าใจว่า โรคสมองเสื่อมไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ซึ่งทุกวัยสามารถเป็นโรคสมองเสื่อมได้เช่นกัน เรียกว่า สมองเสื่อมฉับพลัน หมายถึง อาการลืมหรือสูญเสียความจำชั่วคราว และสามารถจำได้ในภายหลัง ซึ่งแตกต่างจากโรคสมองเสื่อมที่เกิดในผู้สูงอายุที่มีเข้าสู่วัยชรา ผู้สูงอายุในวัยชราที่สมองเสื่อม จะสามารถจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตได้ดี แต่ไม่สามารถจำสถานการณ์ปัจจุบันได้ เราควรใส่ใจคนกลุ่มนี้ให้มาก แม้สมองจะเสื่อมถอยตามวัยที่มากขึ้น แต่ยังคงต้แงการดูแลด้วยรักและเอาใจใส่อยู่เสมอ สังคมปัจจุบันมักจะทิ้งให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านเพียงลำพัง ไม่ว่าผู้สูงอายุประเภทใด เช่น ผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองได้ กับ ผู้ที่นอนติดเตียง ทั้งสองประเภทต้องการการเอาใจใส่ การพูดคุยกับผู้สูงตอนกินข้าว พาเดินเล่น พาออกไปตากอากาศ เป็นต้น หากช่วยให้ผู้สูงอายุปฏิบัติตาม 5อ. จะทำให้มีอายุยืนยาวขึ้น ซึ่งไม่ว่าวัยใดๆ สามารถนำ 5อ.ไปให้ได้เช่นกัน โบราณท่านกล่าวว่า เป็นยาที่ทำให้มีอายุยืน 5อ. ประกอบด้วยอากาศอาหารออกกำลังกายอารมณ์อุจจาระไม่ว่าวัยไหนสามารถป่วยด้วยโรคความจำเสื่อมได้เสมอ หากแต่วันนี้คุณปฏิบัติตาม 5อ. สามารถช่วยชลอโรคนี้ได้บ้างขอบคุณภาพจากtruthseeker08 จาก Pixabay.com