ในภาวะที่ข้างนอกเต็มไปด้วยฝุ่นไม่ว่าจะฝุ่นจากการก่อสร้าง ฝุ่นควันจากรถยนตร์หรือฝุ่นpm 2.5 เราเชื่อว่าเพื่อน ๆ ทุกคนก็พยายามป้องกันตัวเองอย่างเต็มที่ด้วยการใส่หน้ากากเพื่อเป็นการกรองสิ่งเหล่านี้ เพราะกลัวจะไม่สบาย ไอ จามหรือเป็นโรคต่าง ๆ แต่เพื่อน ๆ อย่าลืมนะคะว่านอกจากฝุ่นจากนอกบ้านที่เราต้องเฝ้าระวังแล้ว ฝุ่นจากในบ้านก็เป็นอีกสิ่งที่เราต้องระวังและกำจัดเช่นกันค่ะ เพราะอีกสาเหตุที่ทำให้เรามีอาการคัน อาการภูมิแพ้ หรือหายใจไม่โล่งสบาย สาเหตุนั้นก็อาจจะมาจากฝุ่นในบ้านของเราด้วยส่วนหนึ่ง ดังนั้นในบทความนี้เราจึงจะมาแนะนำ 10 วิธีกำจัดฝุ่นในบ้าน ให้สะอาดหายใจโล่งสะดวก ซึ่งมีวิธีดังต่อไปนี้ค่ะ ภาพถ่ายโดย Quang Nguyen Vinh จาก Pexels 1. ตามวงกบหน้าต่าง วงกบประตู และตามหลืบต่าง ๆ ในบ้านที่เรามักจะมองข้ามไปจะมีฝุ่นเยอะเป็นพิเศษค่ะ เพราะฝุ่นที่มาตามลมส่วนมากชอบมาเกาะในบริเวณเหล่านี้ เพื่อน ๆ อาจจะต้องทำความสะอาดในส่วนนี้บ่อยกกว่าที่อื่น ๆ ค่ะโดยเฉพาะเพื่อน ๆ ที่อยู่ใกล้บริเวณที่มีการก่อสร้าง ฝุ่นจะหนักหนาเป็นพิเศษเลยค่ะ 2. เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นผ้าซึ่งจะจับฝุ่นไว้ได้มากกว่าเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นหนังหรือไม้นะคะ วิธีตรวจสอบดูว่าฝุ่นเยอะจริงหรือไม่ให้เพื่อน ๆ ทำการเคาะ หรือใช้มือตบไปที่เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้น ๆ เพื่อน ๆ ก็จะเห็นฝุ่นที่ฟุ้งกระจายออกมาค่ะ 3. หมอนและเครื่องนอนต่าง ๆ แนะนำให้ทำการซักอยู่เสมอ ๆ เพื่อป้องกันเชื้อโรคและไรฝุ่นนะคะ (ตื่นมาแล้วคันตัวยิบ ๆ นี่อาจจะมาจากไรฝุ่นพวกนี้แหละค่ะ) ภาพถ่ายโดย Daria Shevtsova จาก Pexels 4. พัดลมหรือแอร์ หากเพื่อน ๆ จามบ่อย ๆ หรือรู้สึกว่าเป็นหวัดง่ายสาเหตุหนึ่งอาจมาจากฝุ่นที่เกาะอยู่ตามพัดลมหรือในส่วนที่กรองแอร์ บางทีหากละเลยมาก ๆ อาจจะมีฝุ่นเกาะหนาเลยก็เป็นได้ค่ะ แนะนำให้รีบทำความสะอาดนะคะเพราะหากคนเป็นภูมิแพ้นี่แย่เลย 5. สำหรับเพื่อน ๆ ที่พอมีงบหน่อยซื้อเครื่องกรองอากาศมาติดบ้านไว้ก็จะเป็นการดีนะคะ เพราะสามารถช่วยกรองฝุ่นเล็ก ๆ ได้ในเบื้องต้น และจะได้ช่วยเบาแรงคุณแม่บ้านในการทำความสะอาดอีกด้วยค่ะ 6. วิธีทำความสะอาดง่าย ๆ ก็คือการกวาดและการเช็ดนะคะ สำหรับพื้นบ้าน ขอบวงกบต่าง ๆ นอกจากใช้ผ้าชุบน้ำแล้วเพื่อน ๆ สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอื่น ๆ ในการฆ่าเชื้อโรคเพิ่มเติมได้ค่ะ ภาพถ่ายโดย Jens Mahnke จาก Pexels 7. การใช้เครื่องดูดฝุ่นก็จะเป็นอีกตัวช่วยที่ทำให้เบาแรงขึ้นในการทำความสะอาดค่ะ เพื่อน ๆ ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นให้เหมาะกับการใช้งานนะคะเช่น 🔹ดูดฝุ่นที่พื้นก็อาจจะใช้เป็นเครื่องดูดฝุ่นโรบอท เพียงแค่เปิดแล้วเครื่องก็จะทำงานเองอัตโนมัติ 🔹ดูดฝุ่นเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ อาจจะต้องใช้เครื่องที่มีด้ามจับและเป็นเครื่องดูดฝุ่นพลังสูง 🔹ใช้ที่ดูดฝุ่นหัวเล็ก ๆ ช่วยดูดฝุ่นตามซอกต่าง ๆ ที่เข้าไม่ถึงได้ เป็นต้นค่ะ เพื่อน ๆ สามารถเลือกซื้อได้ตามการใช้งานและตามงบที่เพื่อน ๆ มีนะคะ เพราะปัจจุบันมีเครื่องดูดฝุ่นให้เลือกหลายแบบเลยค่ะ แถมราคาก็ไม่แพงด้วย 8. สำหรับการทำความสะอาดสิ่งของส่วนมากจะใช้วิธีการล้างหรือขัดค่ะ เช่นมุ้งลวด พัดลม แอร์หรือที่กรองแอร์ เป็นต้น แต่แนะนำให้ทำการเช็ดสำหรับพัดลมเพดานนะคะ ถ้าจะถอดลงมาล้างน่าจะลำบากอยู่ไม่น้อยเลย เพื่อน ๆ เลือกวิธีทำความสะอาดได้ตามเห็นสมควรเลยค่ะ ภาพถ่ายโดย Jean van der Meulen จาก Pexels 9. ขอวกกลับมาที่พื้นที่ที่มีฝุ่นจับเยอะเป็นพิเศษอีกสักนิดนะคะ นั่นก็คือบริเวณที่สูง ๆ เช่นบริเวณหลังตู้เสื้อผ้า หลังตู้เย็น บริเวณเหล่านี้ก็จะมีฝุ่นจับตัวหนาอยู่เช่นกันค่ะ แนะนำให้ทำความสะอาดอยู่เรื่อย ๆ ก็จะไม่เหนื่อยมากนะคะ เพราะถ้ารอฝุ่นจับหนาแล้วเช็ดทีเดียวจะเหนื่อยเอาได้ง่าย ๆ ค่ะ 10. เพื่อน ๆ อาจจะใช้ผลิตภัณฑ์บางอย่างในการช่วยฆ่าเชื้อโรค และช่วยทำความสะอาดได้นะคะ เพื่อความมั่นใจและปลอดภัยคูณ 2 แต่ถ้าที่บ้านมีเด็กน้อยอยู่ด้วยอาจจะต้องละเอียดในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สักหน่อยค่ะ ภาพถ่ายโดย Nathan Cowley จาก Pexels สุดท้ายนี้ถ้าเพื่อน ๆ ทำตามและไม่ละเลยในบริเวณต่าง ๆ ของบ้าน บ้านเพื่อน ๆ ก็จะสะอาด ไร้ฝุ่น ปลอดโรคกันทุกหลังเลยค่ะ ที่สำคัญมากอีกอย่างคือ ถ้ากลัวจะจามหรือภูมิแพ้กำเริบ ขณะทำความสะอาดให้ใส่หน้ากากกันฝุ่นไว้ด้วยจะดีที่สุดนะคะ ไม่ใช่ทำความสะอาดเสร็จเข้าโรงพยาบาลต่ออันนี้ไม่เอานะ เป็นห่วงจ้า ขอให้สุขภาพแข็งแรงกันทุกคนเลยนะ ดูแลตัวเองดี ๆ ด้วย ขอบคุณภาพปก ภาพถ่ายโดย Nathan Cowley จาก Pexels