ทบทวนบทความเดิม ก่อนที่ผมจะลงรายละเอียดว่าการฟื้นฟูอวัยวะที่สูญเสียทักษะไปให้กลับมาใช้ได้เหมือนเดิมนั้น ผมขอทบทวนจากบทความที่ผ่านมา ได้แก่ 1.เปลี่ยนทั้งวิธีคิดและพฤติกรรมเพื่อให้ปาฏิหาริย์เกิด https://cities.trueid.net/post/110968 2.พฤติกรรมเสี่ยงแบบเดิมต้องลดละเลิกให้หมดไปเลย เช่น ความเครียด เพราะถ้าเครียดอีก หลอดเลือดสมองก็จะมาเยือนอีก https://cities.trueid.net/post/103095 3.เลิกคิดโทษตัวเองซ้ำไปซ้ำมาเพราะเราแก้ไขอดีตไม่ได้ https://cities.trueid.net/post/179372 4.เมื่อเราสูญเสียทักษะหนึ่งไปแล้ว นั่นไม่ได้แปลว่าคุณจะเสียมันไปตลอดกาลตราบใดที่คุณฝึกมันซ้ำ ๆ เดี๋ยวมันจะกลับมา เตือนตัวเองเสมอว่า เราแค่ยังใช้มันไม่คล่อง ดังนั้นหน้าที่ตัวเราเองคือฝึกข้างอ่อนแรงไม่ใช่ฝึกข้างดี https://cities.trueid.net/post/82402 5.เมื่อฝึกสุขภาพกายดีแล้วใจก็สำคัญ ส่วนตัวผมพบว่า เรา (ผู้ป่วย) มักไขว่คว้าในสิ่งที่ขาดแต่กลับละเลยสิ่งที่มี/ศักยภาพที่ตัวเองมีอยู่ในปัจจุบัน และคุณ ต้องเลิกคิดเอาตัวคุณเองในปัจจุบันไปเทียบกับตัวเองก่อนป่วย หรือคนอื่น ๆ จงอยู่กับสิ่งมีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด โดยต้องไม่เกินข้อจำกัดของตัวท่านเอง https://cities.trueid.net/post/82402 6.เป็นที่ทราบดีว่าโรคหลอดเลือดสมองปัญหามาจากความเข้มข้นของเลือด ดังนั้นเราจึงมีหน้าที่ที่ต้องทานยาประจำตัว (ยาสลายลิ่มเลือด)เพื่อมิให้เกิดซ้ำ มิใช่รักษา กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ถ้าจะหยุดยาเองหรือเพิ่มปริมาณยา รวมถึงต้องระวังพฤติกรรมการทานอาหารที่อาจมีผลต่อฤทธิ์ยากรุณาปรึกษาแพทย์ ไม่ใช่สื่อออนไลน์ https://cities.trueid.net/post/205011 7. จากข้อ 1-6 ที่กล่าวมามิใช่เพราะอะไร นอกจากคุณจะต้องเรียนรู้ที่จะต้องพึ่งพาตัวเองในอนาคต ไม่ใช่จะหวังยืมมือคนอื่นไว้หายใจ (จมูก-แก้ด้วย ผู้อ่านก็อ่านเพลิน ไม่คิดจะท้วงกันเลย (ใจร้าย)https://cities.trueid.net/post/203440 8.ยิ่งในยุคปัจจุบันที่ข้อมูลข่าวสารหาอ่านได้ง่ายกว่าสมัยก่อนเยอะ ยิ่งเมื่อมองไปทางไหนก็มีแต่เรื่องให้ชวนปวดหัว-> เครียด และคุณต้องไม่ลืมนะครับว่า "เครียด"ถือเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคหลอดเลือดสมองhttps://cities.trueid.net/post/103095 ดังนั้นถ้าเลือกจะเสพสื่อเครียด ๆ ผมแนะนำวันละครั้ง ตอนเย็นพอ แล้วไปหาสิ่งบันเทิงใจฟัง/ดูบ้าง และอย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอ https://cities.trueid.net/post/205420 9.กว่าจะเข้าเนื้อหาก็น้ำสะเยอะ ตั้ง 8 ข้อ จริงๆ เยอะกว่านี้แต่เกรงใจ เข้าเรื่องครับ *ย้ำนะครับ ผมไม่ใช่หมอ ดังนั้น ถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมรบกวนถามคุณหมอนะครับ และโปรดอย่านำบทความนี้ไม่อ้างอิง เพราะผมก็ฟังมา และใช้ประสบการณ์ล้วน ๆ 10. เมื่อคุณเสียทักษะไป การกู้ทักษะจะทำได้ง่ายขึ้น ถ้าคุณเข้าใจว่า ลักษณะ "กล้ามเนื้อ" มัดเล็ก - มัดใหญ่ จะเห็นความสัมฤทธิ์ผลในอนาคตและจะได้ฝึกแบบเน้น ๆ ไปเลยกล้ามเนื้อมัดเล็ก-ใหญ่ อ้างอิงจาก การฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง โดย พญ. สุภาณี ภูริสวัสดิ์พงศ์ รพ. เลยคุณหมอกล่าวว่า "ขามักฟื้นตัวก่อนแขนและมือ" ทั้งนี้เพราะกล้ามเนื้อมัดใหญ่มักฟื้นฟูได้ง่ายกว่าผ่านการทำซ้ำ ๆ https://cities.trueid.net/post/82402 ผมยืนยันครับว่าจริง เพราะทักษะแรกที่ผมได้รับกลับมา คือ การเดินโดยไม่พึ่งเครื่องช่วยใด ๆ แม้แต่ walker สามขา หรือแม้กระทั่งวีลแชร์ แต่ไม่ได้แปลว่าผมไม่ได้ฝึกนะครับ ฝึกทุกอย่างบนโลก ถามเจ้าของเพจ Stroke Fighter Be Smiling ได้ ขออนุญาตย้ำรอบที่ล้านว่าโชค(ดี)จะไม่มีทางเกิดขึ้น ถ้าคุณใช้ความพยายามไม่มากพอประเมินความคุ้มทุนของการกายภาพ ดังนั้นก่อนจะฝึกนะครับ ให้คุณประเมินความคุ้มทุนนิดหนึ่งว่า ถ้าจะลงทุนลงแรง 100% มรรคผลจะเกิดขึ้นเพื่อให้รางวัลตอบแทนแก่ชีวิตใหม่ การฟื้นฟูอวัยวะ ยกตัวอย่าง คุณอาจใช้เวลาเพียง 1 เดือนเพื่อเดิน แต่อาจใช้เวลา 2 เดือน เพื่อฝึกมือ ถามว่า ฝึกมือเพื่อ? เพราะเราสามารถฟื้นฟูการเดิน 100 percent และ 50 percent มือ ภายในระยะเวลา 2 เดือน แต่ถ้าคุณเลือกฝึกมือก่อน คุณจะได้เพียง 100 percent มือ และ 0 percent ขา ดังนั้นวางแผนฝึกด้วยนะครับ แล้วห้ามลืมให้กำลังใจตัวเอง และมีวินัยฝึกกายภาพนะครับ เพราะโรคนี้พัฒนาการต้องดูเป็นเดือน ๆ ไม่ใช่เป็นรายวัน จำไว้นะครับ เป็นได้ก็หายได้ อนึ่ง ลิ้งตามแนบข้างต้นนั้นเป็นบทความเก่า ๆ ที่ผมได้เขียนขึ้นผ่านประสบการณ์ส่วนตัวผมเองตลอดระยะ 3-4 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น อย่านำไปอ้างอิงนะครับ ท้ายนี้ขอบพระคุณภาพ1.ปก โดย pressfoto จาก freepik https://bit.ly/2NT5z632. ภาพที่ 1 โดย rawpixel.com จาก freepik https://bit.ly/2YIhyFT3.ภาพที่ 2 โดย kjpargeter จาก freepik https://bit.ly/3tjRUFx4. ภาพที่ 3 โดย wayhomestudio จาก freepik https://bit.ly/3t8EA6C5. ภาพที่ 4 โดย kjpargeter จาก freepik https://bit.ly/3t8EUlQ