โยเกิร์ต จะว่าเป็นอาหารมื้อหลักก็ไม่แปลก ถ้าเราเพิ่มพวกกราโนล่า ผลไม้ และซีเรียลต่าง ๆ เข้าไปด้วย หรือจะบอกว่าเป็นเครื่องดื่ม หรืออาหารว่าง กินเพื่อรองท้องช่วยคลายความหิว เติมความสดชื่นก็ได้อีกเช่นเดียวกัน ด้วยสัมผัสที่อ่อนนุ่ม ย่อยง่าย รสอมเปรี้ยวอมหวานเล็ก ๆ แถมหลาย ๆ ถ้วยยังมีเนื้อผลไม้ผสมมาด้วย จึงไม่แปลกที่โยเกิร์ตจะกลายเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นอกไปจากความอร่อยแล้วนั้น โยเกิร์ตยังมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายของเราเยอะมากเลยล่ะ จะมีความน่าสนใจแบบไหนบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ โยเกิร์ต นมหมัก ถูกใจคนรักสุขภาพ โยเกิร์ต (Yoghurt) เป็นอาหารที่มีประวัติยาวนานร่วมหลายพันปีค่ะ โดยมีต้นกำเนิดมาจากชาวกรีก ที่ใช้แบคทีเรียเติมลงไปในนม เมื่อเกิดปฏิกิริยาเคมี จนทำให้โปรตีนในนมเกิดการเปลี่ยนรูป โดยจะมีเนื้อที่เหนียวและข้นขึ้นกว่าเก่า กลายเป็นโยเกิร์ตที่เราคุ้นเคยกันนั่นเอง โดยเราสามารถแบ่งเจ้าโยเกิร์ตออกได้เป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ คือโยเกิร์ตแบบคงตัว (Set yogurt) ที่เนื้อของโยเกิร์ตจะข้นและหนืดที่สุด เช่น กรีกโยเกิร์ต หรือโยเกิร์ตบัลแกเรีย โยเกิร์ตกวน (Stirred yogurt) จะเป็นโยเกิร์ตที่เราคุ้นเคยกันดี เนื้อโยเกิร์ตจะออกเหลว (ไม่หนืดเท่าแบบแรก) มีการแต่งกลิ่น แต่งรสชาติและใส่เนื้อผลไม้เพิ่มเติมโยเกิร์ตแบบพร้อมดื่ม (Drink yogurt) จะเป็นโยเกิร์ตพร้อมดื่มที่เนื้อจะเหลวที่สุด หากเทียบก็คล้ายกันกับนมเปรี้ยวเลยค่ะ แต่เนื้อจะเข้มข้นมากกว่านมเปรี้ยว ซึ่งก็จะมีทั้งรสธรรมชาติ และมีการปรุงแต่งรสชาติเพิ่มเติมเช่นเดียวกัน มาดูคุณค่าทางสารอาหารของโยเกิร์ตกันบ้างดีกว่าค่ะ โยเกิร์ต (รสธรรมชาติ) ปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงาน 59 kcalคาร์โบไฮเดรต 3.6 กรัมโปรตีน 10.2 กรัมไขมัน 0.4 กรัม นอกไปจากนี้ในโยเกิร์ตยังอุดมไปด้วยแคลเซียม (เพราะทำมาจากนมวัว) วิตามินบี 12 ฟอสฟอรัส ไรโบฟลาวิน และสารสำคัญอื่น ๆ อีกมากมาย กินโยเกิร์ต 1 ถ้วย ช่วยเรื่องอะไรบ้าง มาดูกันดีกว่าค่ะว่ากินโยเกิร์ต 1 ถ้วย ช่วยเรื่องอะไรบ้างช่วยปรับสมดุลลำไส้ เพราะในโยเกิร์ตเป็นแหล่งของแบคทีเรียและจุลินทรีย์ตัวดีต่อระบบการย่อยอาหาร หรือที่เราอาจเคยได้ยินคำว่า โพรไบโอติกส์ (Probiotics) ซึ่งโยเกิร์ตก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้เช่นเดียวกันค่ะ การกินโยเกิร์ตเป็นประจำจึงมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของแบคทีเรียในลำไส้ ทำให้เราย่อยอาหารได้ดีมากขึ้น ลดอาการท้องอืด แน่นท้อง อย่างเราถ้าช่วงไหนรู้สึกว่าแน่นท้อง ย่อยไม่ค่อยดี เราจะชอบกินโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ร่วมกับพวกผลไม้ที่มีกากใยอาหารดี ๆ เช่น กล้วยหอม แอปเปิล อะโวคาโด จะช่วยทำให้สบายท้องขึ้นนอกไปจากช่วยย่อยแล้วนั้น โยเกิร์ตยังเป็นอาหารที่ดีต่อระบบขับถ่ายของเราเช่นเดียวกันนะ เพราะโยเกิร์ตมีจุลินทรีย์ตัวดีที่กระตุ้นการทำงานของลำไส้ ที่มีชื่อว่า บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. Lactis) ซึ่งจริง ๆ แล้วแบคทีเรียตัวนี้ก็เป็นแบคทีเรียประจำลำไส้ของเราอยู่แล้ว การกินโยเกิร์ตจะช่วยเติมแบคทีเรียชนิดดีตัวนี้เข้ามาด้วย จึงช่วยส่งเสริมให้ขับถ่ายให้ดีขึ้นโยเกิร์ตมีแคลเซียมสูง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการบำรุงความแข็งแรงให้กับกระดูกและฟัน ช่วยลดปัญหาฟันผุ เสริมความแข็งแรงให้กับฟัน ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กระดูก ป้องกันโรคกระดูกพรุน หรือภาวะกระดูกเสื่อมวิตามินบี12 ในโยเกิร์ตมีส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันอาการซีดเพลีย อาการชาตามปลายมือปลายเท้า ทั้งยังเป็นวิตามินที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทและสมองโยเกิร์ตเป็นแหล่งของโปรตีนชั้นดี ช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยคนทั่ว ๆ ไปควรได้รับโปรตีนประมาณ 1 กรัม/น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) เพื่อช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อและทำให้ระบบในร่างกายทำงานปกติโยเกิร์ตเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ ผู้ที่ต้องควบคุมอาหาร หรือต้องการลดน้ำหนักเป็นอย่างดี ด้วยคุณค่าทางสาอาหารที่ครบถ้วน ทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมันดี มีแคลอรีและไขมันต่ำ สามารถทำอาหารได้หลากหลายเมนู อย่างเราชอบกินคู่กับกราโนล่า ผลไม้สด ๆ รสหวานเปรี้ยว เพิ่มดาร์กช็อกโกแลตเล็กน้อย หวานหอมชื่นใจ ได้สุขภาพสุด ๆโยเกิร์ตช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ข้อนี้ก็ต้องยกประโยชน์ให้กับเจ้า Probiotics ในโยเกิร์ตเช่นเดียวกัน เพราะการเข้าไปปรับสมดุลลำไส้ ช่วยลดอาการอักเสบภายในร่างกาย จึงช่วยปรับสมดุลให้กับร่างกายไปด้วยในตัว โยเกิร์ตกับประโยชน์ดี ๆ สำหรับคุณผู้หญิง เพราะในโยเกิร์ตเป็นแหล่งของจุลินทรีย์ตัวดี อย่างจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus ) ช่วยลดปัญหาเชื้อราในช่องคลอด อาการคันและตกขาว ช่วยทำให้สุขภาพภายในช่องคลอดดีขึ้น เราชอบซื้อโยเกิร์ตติดบ้านไว้เสมอเลยค่ะ ช่วงไหนที่ลดน้ำหนัก ก็จะเอาโยเกิร์ตมากินเป็นมื้อเย็น เพิ่มผลไม้ที่มีเนื้อแน่น ๆ กากใยอาหารเยอะ ๆ กินแล้วทำให้อิ่มท้องได้นาน เช่น แคนตาลูป ฝรั่ง แอปเปิล เพิ่มผลไม้ตระกูลเบอร์รีเข้าไปสักหน่อย โรยเมล็ดเจีย เพียงเท่านี้ก็ได้มื้ออาหารเพื่อสุขภาพแบบง่าย ๆ ทั้งยังได้สารอาหารแบบครบถ้วน หรือจะเอาแช่เย็นเพื่อทำเป็นไอศกรีม เอามาปั่นรวมกับผักและผลไม้ก็เป็นเมนูสมูทตี้เพื่อสุขภาพ ข้อควรระวังในการกินโยเกิร์ตโยเกิร์ตจากนมวัวอาจไม่เหมาะกับผู้ที่แพ้นม หรือแพ้น้ำตาลแลกโทส อาจทำให้เกิดอาการแน่นท้อง ปวดท้อง และท้องเสียได้ สำหรับผู้ที่แพ้นมวัวในปัจจุบันมีโยเกิร์ตทางเลือกอื่น ๆ หลายชนิด เช่น โยเกิร์ตถั่วเหลือง โยเกิร์ตจากมะพร้าว โยเกิร์ตอัลมอนด์ เป็นต้น เลือกกินโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ที่มีน้ำตาลน้อยกว่าเพื่อสุขภาพที่ดี และลดแคลอรีที่ได้รับ กินโยเกิร์ตแล้วทำให้อ้วนไหมบอกเลยว่าการกินโยเกิร์ตไม่ทำให้อ้วนอย่างแน่นอนค่ะ แต่เราควรเลิกกินเป็นแบบไม่เติมน้ำตาลและกินในปริมาณที่พอเหมาะ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยสร้างสุขภาพ กินโยเกิร์ตได้โดยที่ไม่อ้วนอย่างแน่นอน ว่าแล้วก็อย่าลืมหาโยเกิร์ตมากินกันเป็นประจำนะคะ รับรองเลยว่าโยเกิร์ต 1 ถ้วย มีประโยชน์มากกว่าที่เราคิดแน่นอนภาพหน้าปก ภาพที่1 โดย Yaroslav Danylchenko จาก canvaภาพเนื้อหา : ภาพที่1 โดย ToscaWhi จาก canva / ภาพที่2 โดย Karolina Grabowska จาก pexels / ภาพที่ 3-4 โดย ผู้เขียนอยากผอมหุ่นดี อยากมีซิกแพค หาอินสปายลดน้ำหนัก เข้าร่วมด่วนที่ฟิตแอนด์เฟิร์มคอมมูนิตี้