แรงบันดาลใจในการลุกขึ้นมาจัดการสุขภาพ ระหว่างคนโสดกับคนมีครอบครัว หรือ คนที่มีลูกแล้วมันต่างกันอย่างมีนัยสำคัญนะครับ แต่ว่า มันไม่ได้ต่างกันของเป้าหมาย นั่นคือ มีสุขภาพที่ดี ภาษาแรงบันดาลใจ หรือ ที่เราคุ้นเคยแบบศัพท์วัยรุ่นที่จะทำอะไรบางอย่างต้องมีแรงขับ ที่เรียกว่า มี Passion ในภาษาธรรมะเรียกว่า มีฉันทะ หรือความพึงพอใจในสิ่งนั้นจึงจะนำไปสู่การจัดการเพื่อให้บรรลุความสำเร็จ ถ้ากระชับให้เข้ามาถึงการสร้างวินัยในตนเองก็อาจจะเรียกว่า Self-management หรือการจัดการตนเองในด้านสุขภาพก็ได้ ผมร่ายยาวมานี่ ก็มิได้จะบอกว่าเป็นบุคคลต้นแบบด้านสุขภาพเหมือนสายเทรนเนอร์ หรือผู้เข้าโรงยิม ฟิตเนส เขาคุยกันนะครับ แต่เป็นการคุยในฐานะผู้ป่วยเรื้อรังที่อยากจะหยุดยั้งพยาธิสภาพของตนเพื่อเป้าหมาย มีสุขภาพที่ดีเพื่ออยู่กับใครบางคน นั่นก็คือ บักอินดี้ ลูกชายของผมเอง พูดถึงเขาบ่อย เหมือนว่าเป็นกิจวัตรร่วมกัน อย่าได้รำคาญนะครับ เพราะทุกกิจกรรมของชีวิต ตั้งแต่ตื่นเช้า จนเข้านอน ทำไมลมหายใจแบบนี้เพิ่งมาเข้าใจหัวอกของบิดามารดาก็ตอนมีบุตรธิดานี่ล่ะ เย็นวันนี้ ผมได้วางแผนพาลูกชายไปเดินเล่น ผลพลอยได้ก็คือเพื่อจะเอาตัวเองออกไปขยับร่างกายด้วยกันนั่นล่ะ ระหว่างที่ลูกเดินได้ ภรรยาก็เตรียมร้องเท้าไว้สำหรับการออกภาคสนาม ซึ่งนั่นก็คือ เมื่อชุดพร้อม องค์ประกอบพร้อม เราก็ลุยกันเลย ครับ ไปวิ่งทำกิจกรรมยามเย็นกันดีกว่า ลุ้ย!! ระหว่างการผูกเชือกรองเท้า เพื่อพาลูกวิ่งเล่นในสนาม ผมก็นึกขึ้นได้ว่า จริง ๆ แล้วเราควรมีสุขภาพที่ดีเพื่อตัวเราเองเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดแล้ว แต่เพื่อจะดูแลอีกคนซึ่งยังไม่สามารถดูแลตัวเองได้เรายิ่งต้องฟิตอีกหลายเท่าเลย เอาล่ะ! "ลูกนี่ล่ะ คือ แรงบันดาลใจของการออกกำลังกาย" เมื่อนึกได้เช่นนั้น เหมือนอะไรดลใจ ผมวิ่งไปในระยะที่ไกลพอสมควรและทำความเร็วอย่างต่อเนื่องซึ่งไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน แรงขับนั้นมันมาจากไหน บางทีเรารู้สึกว่าเรามีร่างกายที่แข็งแรงแต่ไม่ค่อยอยากจะปะทะกับใคร ขณะที่วันนี้มันเมื่อย ๆ ล้า ๆ แต่ก็ดันจะไป ๆ ให้ได้เลยไอ้ร่างกาย หลังจากที่ผ่านรอบของการวิ่งไปห้ารอบ รอบละ 400 เมตร ผมก็พบว่า จริง ๆ แล้วเราอยากมีสุขภาพแข็งแรงที่ดี ก็เพื่อคนที่เรารัก แน่นอนครับ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา ทว่า ไอ้ตัวป่วยไข้หรือการเจ็บนี่ล่ะ มันบั่นทอนเงินถุงที่เคยออมและอาจจะทำให้เงินถังที่เก็บมาตลอดชีวิตหายวับไปได้ในพริบตาเลยทีเดียว มันไม่ใช่เรื่องน่ากลัวที่เงินหายเพื่อยื้อชีวิตครับ แต่มันเป็นความเสี่ยงที่เราจะสามารถบริหารจัดการตั้งแต่ยังไม่ป่วยได้เช่นกัน เมื่อหลายปีก่อนในการเข้าร่วมสัมมนาทางสุขภาพ ที่ผมมีโอกาสได้ไปร่วมที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง มีท่านผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่ง จากมหาวิทยาลัยมหิดล ท่านบอกว่า ในความเจ็บป่วยของใครสักคนในครอบครัว สมมุติว่าคนนั้นเป็นมะเร็งจะส่งผลให้การดูแล นั้นกระทบกับคนไปสามชั่วชั้นคน นั่นหมายความว่า หากผมป่วยแล้ว ต้องมีคนรุ่นลูกและรุ่นหลานมาร่วมทุ่มเททั้งพลังกาย เวลา และเงินทอง มาที่บุคคลคนเดียวเลยเชียวนะ จากการวิ่งไปประมวลความคิดไปทำให้เกิดความคิดที่สอดแทรกเข้ามาว่า ช่วงจังหวะเวลาที่เราวิ่งเอาพลังทางกายกลับคืนมาหรือสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อไปต่อนั้น มันมีแรงบันดาลใจให้หลังและเดินข้าง ๆ เราคือแรงผลักนั่นก็คือ เจ้าตัวเล็ก ที่เป็นเสมือนเชื้อเพลิงสำคัญที่ทำให้วันนี้ ผมคิดว่า ผมวิ่งออกกำลังกายได้ไกลที่สุดในครั้งหนึ่งของชีวิต และหายใจเข้าออกเต็มปอดได้ลึกกว่าที่ผ่านมา ทำให้เข้าใจเหมือนกันนะที่เขาบอกว่า กีฬาคือยาวิเศษ แต่วิเศษกว่านั้น คือ ปัจจุบันที่เรากำลังมีพลังเต็มเปี่ยมและรู้ชัดว่า แรงบันดาลใจที่มาเป็นพลังขับนั้น คือ ใคร และเป็นใครไปไม่ได้ นั่นก็คือ ลูกชายตัวน้อยของผมเองนั่นล่ะ จริง ๆ แล้ว ชีวิตมันก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรกับการออกมาวิ่งรอบสนาม ผมค้นพบ ความสำคัญสามประการของชีวิต หลังจากออกกำลังกายวันนี้ คือ มันมีการเข้าที่ ระวัง แล้วก็ไป๊...... ภาพถ่ายโดย ภรรยาผู้เขียน เล่าเรื่อง โดย พ่อบักอินดี้ เด็กในตัวเรื่อง คือ ลูกชายของคนเขียนจ้ะ