กะเพรา พืชที่เป็นทั้งเครื่องเทศและสมุนไพรที่คนไทยคุ้นเคยมายาวนาน เมนู ผัดกะเพราหมูสับ ผัดกะเพราไก่ไข่ดาว ผัดกะเพราทะเล ฯลฯ เป็นอาหารจานโปรดของหลายคน กะเพราเรียกได้ว่าเป็นพืชที่ตลาดขาดไม่ได้ แม่ค้าพ่อค้าต้องมีขายทุกวัน ร้านอาหารตามสั่งหรือแม้แต่ร้านหรูหราก็ต้องมีเมนูจากกะเพรา กะเพรามีทั้งกะเพราขาวและกะเพราแดง กะเพราแดงจะมีกลิ่นหอมแรงกว่ากะเพราขาว กะเพรายังอุดมไปด้วยแร่ธาตุ วิตามิน และสารอาหารที่มีประโยชน์ อาทิ คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ไนอาซิน วิตามินซี ใยอาหาร เบตาแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระ แอนโทไซยานิน ฟลาโวนอยด์ น้ำมันหอมระเหย ฯลฯ กะเพรายังมีสรรพคุณทางยาหลายอย่าง อาทิ แก้ปวดท้อง ขับลม จุกเสียด แน่นในท้อง ขับเสมหะ ขับเหงื่อ บำรุงธาตุ แก้คลื่นไส้อาเจียน ลดระดับน้ำตาลในเลือด เพิ่มน้ำนม กระตุ้นระบบประสาทและภูมิคุ้มกันของร่างกาย แก้โรคผิวหนัง กลากเกลื้อน ฯลฯ วิธีกินกะเพราแก้อาการจุกเสียด แน่นท้อง ปวดท้อง ก็จะนำใบกะเพราและยอด มาต้มกับน้ำเปล่าดื่ม กะเพรา มีชื่อวิทยาศาสตร์ Ocimum tenuiflorum L. เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก มีกะเพราขาว กะเพราแดง และพันธุ์ผสมระหว่างกะเพราขาวและกะเพราแดง กะเพราแดงมีต้นสีแดงเลือดหมู ใบมีสีม่วงแดง มีกลิ่นแรงกว่ากะเพราขาว เพราะมีปริมาณน้ำมันหอมระเหยมากกว่า บ้านผู้เขียนปลูกกะเพราไว้ประกอบอาหารเองทั้งกะเพราขาวและกะเพราแดง แรกๆ ผู้เขียนก็ซื้อพันธุ์กะเพราจากร้านขายเมล็ดพันธุ์มาปลูก พอปลูกโตก็เก็บเมล็ดพันธุ์ที่แก่มาตากแดดให้แห้ง แล้วก็ปลูกต่ออีกสัก 2 - 3 รุ่น จึงเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ใหม่ หลายคนเลือกที่จะกินกะเพราเพื่อดูแลร่างกายผ่านการนำมาประกอบอาหาร บ้านผู้เขียนก็เช่นกันเมนูจากกะเพราเมนูโปรดของบ้านผู้เขียน คือ ผัดกะเพราหมูสับ และอีกเมนูที่ชอบกิน คือ ไข่เยี่ยวม้ากะเพรากรอบ เครื่องก็ไม่เยอะนัก เตรียมไข่เยี่ยวม้า ใบกะเพรา พริกสดโขลกละเอียด กระเทียมแกะเปลือกสับ น้ำมันหอย ผงปรุงรส น้ำมันพืช เริ่มก็แกะเปลือกไข่เยี่ยวม้าแล้วผ่าครึ่งนำไปทอดแล้วพักไว้ จากนั้นก็ทอดใบกะเพราให้กรอบ ทอดเสร็จตักใส่จานไว้ ตั้งกระทะต่อใส่น้ำมันพืช กระเทียมสับ พริก ผงปรุงรส น้ำมันหอย ลงไปผัดให้หอม จากนั้นใส่ไข่เยี่ยวม้าทอดและใบกะเพราทอดกรอบ ลงไปผัดอีกสักครู่ก็พร้อมตักเสิร์ฟได้ ลูกๆ ของผู้เขียนชอบกินบอกอร่อยกว่ากินไข่เยี่ยวม้ากับขิงดอง นอกจากนำกะเพรามาประกอบอาหาร ในช่วงที่ผู้เขียนรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัวจะต้มน้ำกะเพรา ใส่ตะไคร้ ใบมะกรูด ใบโหระพา ลงไปต้มด้วย ต้มเสร็จเทเอาแต่น้ำต้มมาผสมน้ำเปล่าอาบ น้ำต้มนี้จะมีกลิ่นหอมมากๆ แค่ดมก็ยังรู้สึกสดชื่น เวลาอาบตักราดตั้งแต่หัวมาได้เลย ผู้เขียนรู้สึกว่าหัวโล่ง อาบแล้วรู้สึกสบายเนื้อตัว ส่วนตัวของผู้เขียนคิดว่าน้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพรที่นำลงไปต้มแต่ละชนิดออกฤทธิ์ทำให้เรารู้สึกดีรู้สึกสบาย ท่านใดสนใจก็ลองนำไปประยุกต์ใช้ดูนะคะ ระวังนิดนึงสำหรับผิวที่แพ้ง่ายประโยชน์ของกะเพรามีเยอะมาก หามาปลูกติดบ้านทั้งกะเพราขาว กะเพราแดง สักอย่างละ 2 - 3 ต้น จะได้ไว้ทำอาหารโดยไม่ต้องไปหาซื้อ ประหยัด และยังเป็นยาสมุนไพรประจำบ้านไว้รักษาโรคได้อีกด้วยนะคะ เครดิตขอบคุณข้อมูลจาก การศึกษาลักษณะทางสัณฐานวิทยาและการจัดกลุ่มของกะเพรา(Ocimum sanctum L.) รัชนีกร นามบุดดี, ภาณุมาศ ฤทธิไชย และ เยาวพา จิระเกียรติกุลขอบคุณข้อมูลจาก กะเพรากับการต้านอนุมูลอิสระ สุกัญญา เขียวสะอาด ขอบคุณข้อมูลจาก ใบกะเพรากับมะเร็ง(1) : "ฤทธิ์การต้านปฏิกิริยาออกซิเดชั่น" ผศ.พรรณี หนูซื่อตรง และ ผศ.ดร.ภญ.รุ้งตะวัน สุภาพผล ภาพปก ภาพประกอบที่ 1, 2 และ 3 ถ่ายโดยผู้เขียนขอบคุณภาพประกอบจาก pixabayภาพประกอบที่ 4 kengkreingkrai / ภาพประกอบที่ 5 kerdkanno*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 11 สิงหาคม 2565