สวัสดีค่ะทุกท่านที่แวะมา บทความนี้ขออนุญาตรีวิวตัวเองเล็กน้อย อยากจะเล่าเรื่องราวของชีวิตที่ตัดสินใจออกจากงานประจำมาเป็นฟรีแลนซ์เซอร์ (Freelancer) เต็มตัว ก็อยู่แบบนี้มานานมากแล้วร่วม 10 ปีเห็นจะได้ ก็ต้องบอกว่าทำงานมาหลากหลายอย่างมาก แทบทุกอย่างเป็นฟรีแลนซ์หมดเลย มันมีข้อดีแน่นอนกับทางเลือกนี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าข้อเสียก็เยอะเหมือนกัน พอทำงานเยอะเข้าทุกวัน ๆ ความล้าทางสภาพจิตใจก็มาเยือนเคยเป็นเหมือนกันไหม มาดูการรับมือในแบบฉบับของอ้ายฉิงกันเหตุผลที่ตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาทำอาชีพอิสระสำหรับอ้ายฉิงเองอาจไม่ได้คิดนานเท่าไหร่ในการตัดสินใจลาออกจากงานประจำ แต่ก็ไม่อยากให้ใครเอาเป็นแบบอย่างถ้ายังไม่ได้มีงานรองรับหรือช่องทางที่ดีกว่า อ้ายฉิงทำงานประจำได้ไม่นาน และทำไปควบคู่กับการรับงานฟรีแลนซ์ด้วย ถ้าจะให้เทียบรายได้ทั้ง 2 ทาง อ้ายฉิงเองได้เงินจากฝั่งงานอิสระมากกว่า เพราะเป็นงานที่เราทำเยอะ เงินก็เยอะตามไปด้วยสำหรับงานบริษัทนั้นอ้ายฉิงทำตำแหน่ง Editor คอยตรวจสอบเนื้อหาบทความให้กับบริษัทหนึ่ง ไปพร้อมกับการผลิตเนื้อหาด้วย ทุกอย่างราบรื่นดีไม่มีปัญหาอะไร เงินเดือนก็ไม่สูงหมื่นนิด ๆ เจ้านายดี เพื่อนร่วมงานดี เข้ากับทุกคนได้หมด แต่ติดปัญหาอย่างเดียวที่ทำให้ไม่อยากไปทำงานคือ อ้ายฉิงเมารถไฟฟ้า เมารถเมล แถมไม่ชอบการตื่นเช้า มันมีเหตุผลแค่นี้จริง ๆ ที่ทำให้ลาออก มาเป็นฟรีแลนซ์เต็มตัวเป็นอย่างไรบ้าง ?อย่างแรกเลยก็นอนตื่นสายเอาเท่าที่ตัวเองพอใจเลย ถ้าไม่มีนัดสำคัญอะไรอ้ายฉิงจะไม่ค่อยออกจากเตียงในตอนเช้าเลย ต่อให้ใครว่าอากาศและแดดเช้ามันดีแค่ไหนก็ตาม พอมาทำอาชีพอิสระงานทุกอย่างก็ต้องควบคุมเวลาด้วยตัวเองทั้งหมด ก็ต้องขอขอบคุณลูกค้ามากมายแต่จ้างอ้ายฉิงมาอย่างไม่ขาดสายจนถึงทุกวันนี้ งานที่อ้ายฉิงทำมีหลายอย่างมาก มีดังนี้Youtuber มีหลายช่องต้องขออนุญาตปิดชื่อช่องไว้ก่อนไม่ค่อยชอบเปิดเผยเท่าไหร่ในส่วนนี้นะคะ แต่อ้ายฉิงอยากจะบอกว่า ใครสนใจทำอาชีพนี้ถ้าตั้งใจจริง ๆ ทำแค่ทางเดียวนี้ก็อยู่ได้สบาย ๆ เลย มีตัวอย่างให้เห็นเยอะมากในปัจจุบันยูทูบเบอร์เมืองไทยเราเก่ง ๆ เยอะ อ้ายฉิงเองก็เป็นยูทูบแต่ไม่เน้นเปิดหน้าตาจะใช้เสียงกับข้อมูลมากกว่าขายสินค้าแบบ Dropship ขายหลายสินค้าตามแต่ชอบ บางอย่างก็ขายสนุก บางอย่างก็ขายยากแล้วแต่สินค้า ซึ่งงานนี้ก็เหมือนกับการขายออนไลน์ทั่วไปเพียงแต่เราไม่มีของ เรามีหน้าที่แค่ขายแล้วส่งยอดให้กับเจ้าของสินค้า เราจะบวกกำไรเพิ่มหรือได้เปอร์เซ็นจากร้าน ขึ้นอยู่กับตกลงกันกับเจ้าของแบรนด์ขายสินค้าแบบทำ Affiliate Marketing ข้อนี้บอกได้คร่าว ๆ เผื่อใครอยากลองทำ อ้ายฉิงทำให้กับทาง LAZADA Shopee Klook Booking จริง ๆ ในไทยเรามีอีกหลายที่เลยที่เราสามารถทำ Affiliate ได้ ข้อนี้ยิ่งง่ายกว่าดรอปชิปเพราะแค่ใช้ลิ้งก์สินค้าไปโปรโมท ถ้ามีคนซื้อสินค้าผ่านลิ้งก์เรา ก็จะได้รับคอมมิชชั่นตามเงื่อนไขรับเขียนบทความ งานนี้อ้ายฉิงชอบมาก ๆ เป็นงานที่ทำได้ตลอดแบบไม่มีเบื่อเลย รับงานได้ทั้งแบบเป็นทางการและเน้น SEO (Search Engine Optimize) ลูกค้าอยากได้แบบไหนจัดไปอย่าให้เสีย ราคาค่าชิ้นงานแล้วแต่บริษัทแล้วแต่ความยากง่ายและการตกลงกันระหว่างเรากับลูกค้าที่มาจ้าง มากน้อยต่างกันไปขายต้นไม้ สำหรับอาชีพสุดท้ายนี้เพิ่งเริ่มได้เพียง 1 ปีกว่า ๆ เท่านั้น ปกติก็ปลูกประดับ ปลูกไปปลูกมาเต็มโรงเรือน ก็เลยเปิดขายด้วย มีลูกค้าแวะเวียนมาบ้างแต่ก็ไม่เยอะ มีขายผ่าน Live สดด้วย แต่ปัจจุบันไลฟ์สดค่อนข้างขายยากสักหน่อยรับงานรีวิว รับถ่ายภาพ ซึ่งงานนี้สนุกและได้ลงหน้างานด้วย ส่วนมากลูกค้าที่จ้างงานนี้จะเป็นสถานที่ เช่น ร้านอาหาร โรงแรม ร้านกาแฟ บ้านพัก คอนโด ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งบอกเลยว่าสนุกมากแต่ก็เหนื่อยเหมือนกัน ยิ่งถ้าได้ออกต่างจังหวัดก็เหมือนไปเที่ยวไปในตัวเลย แต่ถ้าเป็นสินค้า ลูกค้าจะส่งสินค้าหรือผลิตภัณฑ์มาให้รีวิวถึงที่ มีทั้งรีวิวแบบ Video กับแบบเขียนรีวิว เขาสั่งแบบไหนก็ทำแบบนั้นทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นงานที่อ้ายฉิงทำ ก็มีทั้งรูปแบบมีนายจ้างและไม่มีนายจ้าง อย่างถ้าเป็นยูทูบเบอร์ก็ไม่มีใครมาจ้าง นายคงเป็น Google ถ้าเราอยากได้เงินจากเขาก็ต้องขยันผลิตคลิปวิดีโอให้น่าสนใจลงช่อง แต่เพราะความเบื่อง่ายและชอบทำหลายอย่าง จนบางครั้งก็รู้สึกเหนื่อยมาก ๆ จนไม่อยากทำอะไรเลย เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยเป็นเหมือนกัน ภาวะ Burnout Syndrome ซึ่งเป็นการล้าทางสภาพจิตใจ อารมณ์ ของเราเอง ทำให้หมดอารมณ์จะทำงานไปเลยความรู้สึกไม่อยากทำอะไรแบบ Burnout Syndrome เพิ่งจะมาโจมตีอ้ายฉิงเมื่อปีที่แล้วยาวมาจนถึงต้นปีนี้เลย แต่ก็ดีที่ยังพยายามประคับประคองตัวเองให้รอดมาได้ เพราะมันไม่อยากจะทำงานใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่อยากคุยกับใคร ไม่อยากเจอใครเลย ไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกแบบไหนมันล้าไปหมด ก็มีบางงานที่ยังต้องฝืนทำต่อเพราะเลี่ยงไม่ได้ ลูกค้ารออยู่และเงินในชีวิตประจำวันก็ต้องใช้ มันก็ทำให้เกิดความล่าช้าในการทำงาน มันไม่ดีเลยแบบนี้ บางอารมณ์ชั่ววูบหนึ่งจะรู้สึกเหมือน ไม่อยากอยู่ ณ จุดนั้น มันไม่ใช่แค่การไม่อยากอยู่บ้าน แต่มันคล้ายกับว่าไม่อยากอยู่บนดาวโลกนี้เลย เป็นถึงขนาดนั้นวิธีรับมือกับภาวะ Burnout Syndrome ให้ดีขึ้น คลายความอ่อนล้า ลดความเบื่อ หมดไฟให้กลับมาทำงานต้องบอกก่อนว่ามันเป็นวิธีรับมือแบบฉบับของอ้ายฉิงเอง ไม่ได้มีการไปปรึกษาแพทย์หรือใครแต่อย่างใด ความรู้สึกไม่อยากทำอะไรมันยังคงแวะเวียนมาอยู่เรื่อย ๆ แต่ ณ ตอนนี้ ปัจจุบันนี้มันดีขึ้นกว่าเดิมแล้ว ซึ่งวิธีจัดการของอ้ายฉิงมีดังนี้สิงสถิตอยู่ในการ์ตูนเรื่องโปรดแบบไม่ต้องเปิดงานทำเลย แต่เปิดการ์ตูนดู เป็นคนชอบดูการ์ตูน ดูอนิเมะ อ่านมังงะอยู่แล้ว พอได้หลุดเข้าไปในโลกนั้นมันก็ปล่อยจินตนาการไปตามเนื้อหาเลยหาหนังกับซีรีส์ดู ซึ่งก็ดีตรงที่จะมีคนคอยแนะนำหนังน่าดู ซีรีส์น่าสนใจมาให้ตลอด ก็เลือกเรื่องที่อยากดูแล้วก็เหมือนให้ชีวิตตัวเองเป็นนางเอกซีรีส์ไปเลย แบบนั้นก็พอช่วยได้ แต่พอดูจบเท่านั้นล่ะ ก็เริ่มมานั่งคิดอีกแล้วจะทำอะไรดีหว่านั่งอยู่เฉย ๆ หรือนอนอยู่เฉย ๆ ในเมื่อชีวิตต้องการความว่างเปล่า ความสงบเงียบก็ปล่อยเลย ปล่อยตัวเองนั่งอยู่แบบนั้นเฉย ๆ นาน ๆ ซึ่งอ้ายฉิงทำแบบนี้จริง ๆ ข้อความไม่ตอบ โซเชียลไม่เคลื่อนไหว ไม่ทำอะไรทั้งสิ้นไปสักระยะหนึ่งของวัน นั่งนอนไปจนพอใจแล้ว มันยังจะมีอะไรพาตัวเองออกจากตรงนั้น ซึ่งส่วนมากคือการไปเดินเล่นกับสุนัข หรือถึงเวลาต้องให้อาหารแมว เหมือนมันเป็นรูทีนไปแล้วเรื่องหมาแมวมันเลยทำได้แบบอัตโนมัติเลยออกจากบ้าน การเปลี่ยนบรรยากาศก็ทำให้จิตใจเราเปลี่ยนได้เหมือนกัน เรียกว่าอยู่บ้านนานไปมันก็เบื่อ ด้วยปกติเป็นคนชอบเที่ยว อยู่ไม่ค่อยติดบ้านอยู่แล้ว พอช่วงไวรัสมาคนต้องกักตัวกันเยอะทำให้อ้ายฉิงเองก็ไม่ค่อยได้ไปไหนเหมือนกัน แต่ก็ดีที่มีเพื่อนมาหา ชวนไปเที่ยวในวันหยุดบ้างออกเดินทางท่องเที่ยว การเที่ยวเป็นอะไรที่อ้ายฉิงชอบมาก แม้บางทริปจะเหนื่อยสายตัวแทบขาดก็ตาม มันมีความสนุก ความประทับใจในแบบของมัน แล้วอ้ายฉิงก็เริ่มออกจากบ้านบ่อยขึ้น เที่ยวบ่อยขึ้น ซึ่งมันก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาเยอะเลย จนไม่รู้สึกถึงความล้าแบบคนหมดอาลัยตายอยาก แต่มันก็มีข้อเสียตรงที่เสียเงินนี่แหละ แต่ก็ช่างมันเป็นสิ่งที่เรายอมจ่ายอยู่แล้วอยู่กับต้นไม้ เดินรอบสวนตัวเอง บางวันอ้ายฉิงก็ผละออกมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วมาขลุกอยู่ในสวนแบบตั้งแต่ตื่นยันมืดค่ำเลย เป็นความเพลิดเพลินอย่างหนึ่งในชีวิตที่สามารถทำได้แบบไม่ต้องสนใจเวลา ปลูกต้นไม้ ขยายพันธุ์ ถอนหญ้า เปลี่ยนกระถาง มันสนุกไปหมดคุยกับใครสักคนที่เราอยากคุยด้วย แล้วเขาก็พร้อมคุยกับเรา ข้อนี้มันก็มีดีตรงที่เราจะได้รับคำแนะนำบ้าง ได้ข้อคิดบ้าง ได้ลืมความล้าไปเพราะไปคิดเรื่องอื่นที่กำลังคุยอยู่ด้วย ซึ่งอ้ายฉิงก็ไม่ได้อยากจะคุยกับทุกคนที่อยู่รอบตัว อยากจะคุยแค่กับบางคนเท่านั้นในบางครั้ง คนบางคนแม้อยู่ใกล้ชิดรอบตัวเราแต่บางครั้งคุยไปก็รู้สึก toxic ก็มีเหมือนกัน ข้อนี้เลยใช้ได้เป็นบางครั้งตั้งเป้าหมายบางอย่างให้ตัวเองมีแรงบันดาลใจ ซึ่งอ้ายฉิงก็ตั้งมาได้บางอย่าง พอเราเริ่มมีเป้าหมายความคึกมันจะกลับมาจริง ๆ นะ อยากให้ทุกคนได้ลองดู มันสนุกตั้งแต่นั่งคิดวางแผนแล้วว่าเราจะมีเป้าอะไร พอได้เป้าแล้ว ก็เริ่มลงมือทำตามแผนหลัก ๆ ก็ประมาณนี้ที่ทำให้อ้ายฉิงลืมความล้าจากการทำงานไปได้ แก้ปัญหาคือการพัก พักในแบบที่เราอยากจะพักนั่นเอง งานมันทำแล้วสนุกก็จริงในบางครั้ง แต่พอต้องอยู่กับมันบ่อย ๆ ทุกวัน ก็เริ่มจะเบื่อได้เหมือนกัน คนเราจะอยู่กับอะไรซ้ำซากได้นานแค่ไหนกันเชียว การหาอะไรใหม่ ๆ ทำก็ช่วยให้กลับมามีชีวิตชีวาได้ แต่ก็ต้องบอกว่าการรับมือวิธีดังกล่าวนั้นเป็นแบบฉบับอ้ายฉิงเอง อาจใช้ไม่ได้กับคนทั้งหมดฉะนั้นก็นำไปปรับให้เหมาะกับตัวเองนะภาวะหมดไฟในการทำงาน Burnout Syndrome คืออะไร ?มาทำความเข้าใจกับภาวะนี้กันหน่อยเพราะว่าทุกคนนั้นเสี่ยงจะเป็น Burnout Syndrome ได้ทั้งสิ้น เพราะในสมัยนี้ทุกคนต้องดิ้นรน ทำงาน หาเงินกันตัวเป็นเกลียวเลย เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นข้าวของทุกอย่างแพงขึ้นหมด งานหนักขึ้นความกดดันมหาศาลหลายด้านตามมา ไม่เบื่อก็ให้มันรู้ไป ภาวะนี้สามารถเกิดกับทุกคนได้ เป็นความอ่อนล้าที่เกิดขึ้นทางอารมณ์ และจนบางครั้งส่งผลกระทบต่อร่างกายด้วยเหมือนกันพอเครียดสะสมเข้าไปมาก ๆ ความรู้สึกหมดไฟก็มาหา การอยากทำงานลดลงไปเยอะ เริ่มไม่ตอบสนองต่อการทำงาน ไม่อยากจะทำอะไรทั้งสิ้นเลย แรงจูงใจก็หมดไป ความรู้สึกลบ เสียใจ เครียด เศร้า ซึ่งภาวะนี้ก็ทางองค์การอนามัยโลก ให้อาการหลัก 3 อาการด้วยกันรู้สึกสูญเสียพลังงานเกิดภาวะอ่อนเพลียต่อต้านการทำงาน ขาดความตั้งใจระยะของภาวะหมดไฟระยะฮันนีมูน (The Honeymoon) สำหรับช่วงนี้เป็นช่วงของการเริ่มต้น คนทำงานก็จะตั้งใจ เสียสละเพื่อให้งานออกมาดีและยังต้องปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมงานระยะรู้สึกตัว ( The awakening) พอผ่านไปสักระยะ ก็เริ่มมีความคาดหวังและเริ่มรู้สึกถึงความเป็นจริงที่เป็นกับความคาดหวังที่มันไม่ตรงกัน รู้สึกถึงงานไม่ตอบสนองกับความต้องการของตน จะเหมือนว่าผิดพลาดบางอย่างในชีวิต พอจัดการกับมันไม่ได้ก็เริ่มขัดข้องในใจ แล้วเหนื่อยล้าตั้งใจกายเลยระยะไฟตก (Brownout) เป็นอาการเหนื่อยล้าแบบเรื้อรัง ส่งผลให้อารมณ์หงุดหงิดง่าย จนกระทบต่อการใช้ชีวิต จนเปลี่ยนไปแบบไม่เคยเป็นมาก่อน เช่น ใช้เงินฟุ่มเฟือย วิจารณ์องค์กรตัวเอง ติดสุรา เป็นต้น อาจมพฤษติกรรมอื่น ๆ ตามมา แล้วทำให้ชีวิตการทำงานไม่เหมือนเดิมอีกต่อไประยะหมดไฟเต็มที่ (Full scale of burnout) เป็นระยะที่ค่อนข้างน่ากังวลมากทีเดียว โดยเฉพาะใครที่รับมือไม่ไหว เพราะความสิ้นหวังสุด ๆ กำลังกัดกร่อนกิน ความล้มเหลวมาเยือน ความมั่นใจไม่มี หมดไฟแบบเต็มกำลังเลยทีเดียวระยะฟื้นตัว (The phoenix phenomenon) หากร่างกายและจิตใจได้รับการพักผ่อน ได้ผ่อนคลายอย่างดีแล้ว จะเริ่มค่อย ๆ ฟื้นตัวกลับมาเข้าสู่วงวารของการทำงานได้ เริ่มคาดหวังกับงานให้ตรงกับความจริงแล้ว บางคนก็มีแรงบันดาลใจกลับมาจากบางอย่าง มีเป้าหมายในการใช้ชีวิตและการทำงาน แบบนี้ก็คือกลับมาปกติแล้วนั่นเองภาวะนี้อ้ายฉิงเป็นบ่อยแต่ก็รับมือแล้วกลับมาปกติได้เสมอ แต่ก็ใช่ว่าจะอยากให้เกิดบ่อย ๆ เพราะมีผลกระทบกับงานโดยตรงเลย สำหรับท่านใดที่กำลังเจอกับภาวะหมดไฟอย่างรุนแรงอยู่จนพักแล้วไม่หาย พบใครก็ไม่ดีขึ้นก็ต้องหาที่ปรึกษาด้านนี้โดยเฉพาะให้การแนะนำ เพราะหากปล่อยให้ตัวเองรู้สึกหมดหวังไปนาน ๆ ก็อันตรายเหมือนกัน หากตอนนี้คุณกำลังเจอกับอาการหมดไฟไม่อยากทำงานอยู่ลองเอาวิธีของอ้ายฉิงไปปรับใช้ได้ อาจช่วยได้ไม่มากก็น้อยภาพประกอบ : ภาพประกอบ 1 (โดย 千图网), ภาพประกอบ 2 (โดย 588ku), ภาพประกอบ 3 (โดย 58pic), ภาพประกอบ 4 (โดย 58pic), ภาพประกอบ 5 (โดย 58pic), ภาพประกอบ 6 ( โดย 58pic) (ทุกภาพอ้ายฉิงซื้อภาพมาอย่างถูกลิขสิทธิ์ในเว็บ th.pngtree.com )ภาพปก : โดย 588ku , 58pic , 58pic (ทุกภาพอ้ายฉิงซื้อภาพมาอย่างถูกลิขสิทธิ์ในเว็บ th.pngtree.com )แต่งภาพปก : Canva.comข้อมูลเกี่ยวกับภาวะ Burnout Syndrome : www.rajavithi.go.th เนื้อหารีวิว : อ้ายฉิง (ผู้เขียน) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !