Work from Home หรือการทำงานที่บ้าน เป็นการทำงานในปัจจุบันเพราะการออกนอกบ้านต้องมีภาวะความเสี่ยงในการเผชิญกับโรคร้าย โดยเฉพาะโควิด – 19 ที่ส่งผลต่อการทำงานให้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบโดยการแบ่งงานมาทำที่บ้านแทน ในบทความก่อนหน้าผมได้แนะนำโปรแกรมที่เหมาะต่อการทำงานที่บ้าน รีวิวแอป Zoom แบบง่าย ๆ ในยุค Work from Home กดเข้าไปอ่านได้ครับ แม้ในปัจจุบันต้องทำงานที่บ้าน แต่ประสิทธิภาพของการทำงานจะลดลงไม่ได้ หลายคนนึกว่าการทำงานที่บ้านจะสบายกว่าเดิมแต่กลับกันการทำงานกลับหนักกว่าเดิม เพราะการติดต่อประสานงาน การแก้ไขงาน ตลอดจนการสร้างงานแต่ละชิ้นออกมายากกว่าตอนที่ทำงานในบริษัท หรือที่ทำงาน ผมจึงมีข้อแนะนำ 5 ข้อ มาบอกเล่าจากประสบการณ์ของตัวผมเอง มาบอกเล่าเป็นการวางแผนของการทำงานไม่ให้เสียสุขภาพ และได้งานที่มีประสิทธิภาพครับผม ภาพถ่ายโดย 200degrees 1. วางแผนการทำงานที่ชัดเจน โดยอาจต้องมีการตกลงกับทางหน่วยงานของเราเองว่าทำงาน และคุยงานกันถึงเวลาเท่าไหร่ มีประชุมเวลากำหนดเวลาของการทำงานที่ชัดเจน เช่น เวลาการทำงานเริ่ม 09.00 – 15.00 น. ทุกคนหลังจากประชุมทางแอปพลิเคชันเสร็จก็ได้รับมอบหมายชิ้นงาน และตรวจงานชัดเจน เมื่อเรารู้เวลาของการทำงานจะทำให้รู้ว่าต้องเข้างาน และมีเวลาว่างช่วงไหนบ้างในการทำกิจกรรมเพื่อผ่อนคลาย เช่น ดูหนังที่ชอบ นอนเล่น เล่นกับหมา แมว ผ่อนคลายจากการทำงานไม่ใช่การทำงานตลอดเวลา ภาพถ่ายโดย Ricinator 2. ใส่ใจอาหารการกิน เมื่อต้องทำงานที่บ้านหลายคนคงขี้เกียจออกไปซื้อกับข้าว หรืออาหารข้างนอก เมนูเด็ดที่ชอบกันก็คงหนีไม่พ้น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หากจำเป็นจริง ๆ ควรใส่ผัก หมู และปรุงรสให้หลากหลายได้ จะช่วยให้ร่างกายได้อาหารครบทั้ง 5 หมู่ ทั้งนี้ผู้เขียนมองว่าถ้าเราขี้เกียจออกไปซื้ออาหารด้านนอก หรือขี้เกียจทำอาหารเองก็สามารถสั่งทางแอปพลิเคชันได้ เช่น Grab Food, Food panda หรือเซเว่นอีเลฟเว่นบางแห่งมีบริการ 7 Delivery ส่งถึงที่ไม่ต้องไปที่ร้าน การกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ทำให้ร่างกายแข็งแรง อีกทั้งควรมีน้ำเปล่าจิบเรื่อย ๆ นะครับ เพราะน้ำจะช่วยให้เลือดเราไหลเวียนดีขึ้น ไม่ง่วงนอน มีแรงในการทำงานให้มีประสิทธิภาพได้ ภาพถ่ายโดย giant_bilker0 3. เปิดเพลงบรรเลงในการทำงาน แน่นอนว่าการทำงานต้องใช้ความคิด และบางครั้งต้องมีความเครียดการคลายเครียดที่ดีที่สุด และมีประสิทธิภาพ คือ การเปิดเพลงบรรเลง จะเป็นเปียโน กีตาร์ หรือดนตรีไทย แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ดนตรีบรรเลงจะทำให้เรารู้สึกเพลิดเพลิน เหมือนอยู่ร้านกาแฟ และช่วยเพิ่มสมาธิในการทำงาน สบายใจ ผ่อนคลายในการทำงานอีกด้วยครับ ภาพถ่ายโดย vectronom 4. งีบ ยืดเส้น ยืดสาย พอพิมพ์งานไปเรื่อย ๆ คิด อ่าน เขียน งานไม่หยุด แล้วรู้สึกว่าคิดไม่ออก มีความกังวลในเรื่องต่าง ๆ มีความไม่สบายใจ ออกมาจากงานครับสักสิบห้านาที ผมมีให้สองตัวเลือก 1) งีบครับ โดยตั้งนาฬิกาปลุกประมาณ 15 นาที หากเลือกวิธีนี้ต้องมีสติดีมาก ๆ นะครับ ห้ามเผลอหลับยาว เพราะถ้าหลับยาวเสียงานอย่างแน่นอน ตัวเลือกที่ 2 ยืดเส้น ยืดสาย โดยอาจจะเริ่มที่การนวดลำคอ คลึงบริเวณใกล้ดวงตา ขมับ เดินเล่นชมดอกไม้ หรืออาจจะใช้วิธีเอาเท้าแช่น้ำก็ได้ครับ เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการความเครียด โดยเฉพาะคนที่อยู่คนเดียวต้องดูแลตัวเองให้ดี ถ้าหากบริหารจัดการอารมณ์ไม่ได้อาจเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้า ภาพถ่ายโดย Devanath 5. จัดระเบียบ และทำความสะอาดพื้นที่ทำงาน อาจจะทำความสะอาดห้องทำงานของเราวันละครั้ง หรืออาทิตย์ละครั้ง เพื่อไม่ให้ห้องมีกลิ่นอับ ขจัดคราบสกปรก หรือฝุ่น ที่อาจมีตัวไรฝุ่น ทำให้เราเป็นโรคภูมิแพ้ หรือเป็นหวัดทำให้ร่างกายอ่อนแอลงได้ สุขภาพกายก็เสีย งานก็เสียไปด้วย ดังนั้นการจัดระเบียบ และทำความสะอาดพื้นที่ทำงานจึงมีความสำคัญ ขอแนะนำเพิ่มเติมนำครับ ว่าควรมีต้นไม้ หรือดอกไม้เล็ก ๆ สีเขียวมาวางด้วยเพื่อเป็นจุดพักสายตา หลังจากจ้องคอมพิวเตอร์นาน ๆ ภาพถ่ายโดย anuj9876 การทำงาน ต้องสัมพันธ์กับจิตใจนะครับ เพราะสุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิตใจสอดประสานกันทำให้งานออกมามีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล เชื่อเหลือเกินครับว่าหากเราดูแลร่างกายไม่ให้ทำงานหนักเกินไป และจิตใจไม่มีความเครียดสะสม สุขภาพของเราไม่เสียอย่างแน่นอน สุดท้ายก็เป็นกำลังใจให้กับทุกท่านที่กำลังสู้งาน Work from Home กันอย่างเต็มที่ในตอนนี้ครับผม ภาพถ่ายหน้าปกโดย anuj9876