ลัทธิกาแฟ lover มีมากฉันใด..ลัทธิชาเขียว lover ก็มีมากฉันนั้น บางคนชอบดื่มทั้งคู่ แต่บางคนดื่มได้แค่เพียงกาแฟหรือบางคนอาจดื่มได้แค่เฉพาะชาเขียวเท่านั้น "ชาเขียว" เป็นเครื่องดื่มที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น ก่อนที่จะได้รับความนิยมเป็นวงกว้างและมีคนจำนวนไม่น้อยที่ชอบดื่มชาเขียวเป็นชีวิตจิตใจ ด้วยรสชาติของชาเขียวที่นุ่มนวล หอม อร่อย และยังมีชนิดของชาเขียวให้เราดำดิ่งลงไปอีกเยอะมากไม่ว่าจะเป็นเกียวคุโระ มัทฉะ บันฉะหรือเซนฉะ จริงที่ว่าชาเขียวมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่างแต่ถ้าหากเรากินชาเขียวในปริมาณมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราได้เช่นเดียวกัน ข้อเสีย โทษจากการกินชาเขียวมากเกินไปมีอะไรบ้าง มาดูกันได้เลยค่ะ รวมข้อเสียจากการดื่มชาเขียวมากเกินไป จะเกิดอะไรขึ้นหากกินชาเขียวทุกวันการดื่มชาเขียวหากดื่มในปริมาณที่เหมาะสมก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลแต่อย่างใดค่ะ แต่ในทางกลับกันถ้าเราดื่มชาเขียวเยอะมากเกินไปและดื่มติดต่อกันเป็นระยะเวลานานก็อาจสร้างผลกระทบต่อสุขภาพของเราได้ ดังนี้คาเฟอีนที่อยู่ในชาเขียวอาจส่งผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้รู้สึกกระสับกระส่าย หัวใจเต้นแรง ความดันโลหิตสูงและอาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ หลับไม่สนิท หลับยาก ดังนั้นแล้วผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับอยู่แล้วไม่ควรดื่มชาเขียวในปริมาณมาก โดยชาเขียว 1 แก้ว ปริมาณ 240 ml. ให้คาเฟอีนประมาณ 30-50 มิลลิกรัม ซึ่งปริมาณคาเฟอีนที่เราควรได้รับอยู่ที่วันละ 300-400 มิลลิกรัม การดื่มชาเขียวในปริมาณมากอาจส่งผลทำให้น้ำหนักขึ้น ชาเขียวมีหลายชนิดทั้งชาเขียวชงสด ชาเขียวพร้อมดื่มที่บางขวดอาจมีน้ำตาลมากถึง 20 กรัม หรือชาเขียวที่มีการผสมนม ไซรัป คาราเมล วิปครีม ฯลฯ ที่เมนูเหล่านี้มีปริมาณแคลอรีค่อนข้างสูงและที่สำคัญเลยก็คือมีรสชาติที่หวานอร่อย ดื่มง่าย ดื่มเพลินได้วันละหลายแก้วโดยไม่ทันรู้ตัว ดังนั้นแล้วจึงควรจำกัดปริมาณการดื่มชาเขียวอย่างระมัดระวัง ชาเขียวเข้มๆ ในปริมาณเยอะมากอาจส่งผลให้เกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินอาหาร กระเพาะอาหารหรือลำไส้ โดยเฉพาะการดื่มชาเขียวชงเข้มๆ ในขณะที่ท้องว่างเพราะในชาเขียวมีสารแทนนิน (Tannins) ที่มีคุณสมบัติเป็นกรดและอาจเป็นสาเหตุของอาการระคายเคืองท้อง ปวดท้องได้การดื่มชาเขียวในปริมาณมากอาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะและโรคไมเกรน เนื่องจากคาเฟอีนที่อยู่ในชาเขียวอาจกระตุ้นให้ผู้ดื่มชาเขียวบางรายเกิดอาการปวดหัว เวียนหัวมากขึ้นได้ การดื่มชาเขียวในปริมาณอาจทำให้ร่างกายขาดธาตุเหล็กเพราะดูดซึมธาตุเหล็กได้น้อยลง ส่งผลเสียต่อผู้ที่มีภาวะโลหิตจางหรือโรคอื่นๆ ที่เกิดขึ้นจากการขาดธาตุเหล็ก เช่น ตัวซีด อาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย มีตุ่มขึ้นที่ลิ้น ฯลฯ เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระบางตัวที่อยู่ในชาเขียวออกฤทธิ์ขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กการดื่มชาเขียวในปริมาณมากเป็นเวลานานอาจจะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อตับในระยะยาว เนื่องจากตับได้รับคาเฟอีนในปริมาณมากเกินไปและทำให้ตับเข้าสู่ภาวะเครียดจนทำงานได้ไม่เต็มที่การดื่มชาเขียวมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคเกี่ยวกับกระดูก เช่น โรคกระดูกเปราะ กระดูกพรุนหรือกระดูกเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร เนื่องจากสารประกอบบางชนิดในชาเขียวมีส่วนยับยั้งการดูดซึมแคลเซียมในร่างกาย ดื่มชาเขียวยังไงให้ไม่ทำร้ายสุขภาพ?ดื่มชาเขียวแต่พอประมาณ ถ้าแบบแก้วชงสด ชาเขียวร้อน ไม่ควรดื่มเกินวันละ 3-5 แก้ว/วัน ส่วนชาเขียวแบบขวดไม่ควรเกินวันละ 3-4 ขวด ทั้งนี้ก่อนดื่มให้เช็กปริมาณคาเฟอีนและน้ำตาลให้ดีด้วยค่ะใครที่ปวดท้องง่ายอยู่แล้วไม่ควรดื่มชาเขียวในขณะที่ท้องยังว่างเพราะอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง ระคายเคืองท้องได้ แนะนำว่าให้ดื่มชาเขียวพร้อมกับอาหารหรือหลังมื้ออาหาร ระมัดระวังส่วนผสมอื่นๆ ในเมนูชาเขียว เช่น นม น้ำตาล ไซรัป ครีม วิปปิ้ง ฯลฯ ที่มีปริมาณไขมันและแคลอรีแฝงค่อนข้างสูง หากกินมากเกินไปก็จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ แนะนำให้เลือกดื่มชาเขียวแบบหวานน้อยหรือไม่หวานเลยจะดีต่อสุขภาพมากกว่า ที่สำคัญคือเราก็ไม่ต้องมามัวนั่งพะวงกับแคลอรี น้ำตาลและไขมันส่วนเกินอีกด้วย ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ หลับยาก หลับๆ ตื่นๆ ให้งดการดื่มชาเขียวไปก่อนเพราะอาจทำให้นอนไม่หลับได้ และไม่ควรดื่มชาเขียวติดกับช่วงเวลาเข้านอนมากเกินไปเพราะจะส่งผลกระทบทำให้นอนหลับยากมากขึ้น สำหรับผู้ที่ดื่มชาเขียวเป็นประจำก็ควรกินอาหารเสริมธาตุเหล็กและแคลเซียมร่วมด้วยเพื่อช่วยเติมสารสำคัญเหล่านี้ให้กับร่างกาย เช่น ปลาตัวเล็ก นม เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผักใบเขียว ผลไม้แห้ง เป็นต้น https://women.trueid.net/detail/zJMEwG5zd1WJ https://food.trueid.net/detail/0oy7ePPJM5QDภาพหน้าปก ภาพที่1 โดย freepik จาก freepik แต่งด้วย canvaภาพในเนื้อหาทั้งหมด โดย ผู้เขียน 7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์