ปวดขามากทำยังไง วิธีการลดอาการปวดขาแบบบ้าน ๆ ที่ทดลองแล้วได้ผลจริง สวัสดีพี่น้องนักอ่านทุกท่าน วันนี้ผู้เขียนเองได้มาแนะนำวิธีการลดอาการปวดขา ที่ได้ผลดีมากสำหรับคนที่ทำงานหนัก มีอาการเมื่อยล้า และอาการอักเสบ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ต้องใช้ยา ไม่ต้องไปหาหมอ แต่คุณต้องดูแลสุขภาพ ทำตามขั้นตอนนี้ง่ายแสนง่ายถ้าหากคุณพร้อมแล้ว ไปปฏิบัติพร้อมกันเลย รับรองได้เลยว่าเพียงแค่ 1 วันคุณก็จะรู้สึกว่าตัวเองผ่อนคลายอาการปวดน้อยลง และสบายขามากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน 1. การนวดกดเส้นช่วยผ่อนคลายอาการปวดได้ วิธีง่าย ๆ ที่ได้ผลดี คือ การนวดผ่อนคลาย แต่ถ้าคุณจินตนาการว่าตัวเองนวดไม่ไหวก็ขอให้ใช้ฝ่ามือตัวเองทำเป็นกำปั้น แล้วก็ทุุบ ๆ ลงไปเบา ๆ บริเวณขาของคุณ ก็จะทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นผ่อนคลายลงโดยอัตโนมัติ วิธีนี้เป็นวิธีการกระตุ้นกล้ามเนื้อตามหลักทางการแพทย์ แต่ไม่ควรทุบแรงเกินไป แล้วช่วงเวลาที่ทำควรจะต่อเนื่องอย่างน้อย 10 นาที คุณจะรู้สึกผ่อนคลาย และสบายอย่างรวดเร็ว 2. การประคบร้อน ประคบเย็น เคล็ดลับการดูแลร่างกายและอาการปวดเมื่อยรวมถึงอาการอักเสบ แบบที่สามารถทำได้จากภายนอก คือ การประคบ ไม่ว่าจะเป็นการประคบร้อนหรือประคบเย็น ทำแบบนี้ต่อเนื่องกัน และสลับกัน จะทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดคุณทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น แล้วนอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้อาการอักเสบลดน้อยลงได้อีกด้วย ขอแนะนำให้คุณทำสลับกันประมาณ 10 นาที วิธีนี้จะทำให้กล้ามเนื้อของคุณผ่อนคลายเป็นอย่างมากอย่างแน่นอน 3. นอนยกขาสูง หายอาการเมื่อยล้าได้เป็นอย่างดี เทคนิคที่ใครหลาย ๆ คน นิยมใช้โดยเฉพาะนักกีฬา คือ การนอนยกขาสูงเพื่อไล่เลือดลม แล้วอาการอักเสบของกล้ามเนื้อส่วนใหญ่ประมาณ 80% ของนักกีฬาจะทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะว่าระบบการไหลเวียนเลือดถ้าหากถูกสูบฉีดมากจนเกินไปจะทำให้กล้ามเนื้อตึง และอาจจะเกิดอาการ เส้นกระตุก เพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บในรูปแบบนี้วิธีการยกขาสูงเวลานอน ประมาณ 30 นาทีจึงมีส่วนช่วยในการลดอาการอักเสบ และทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายได้อย่างยอดเยี่ยม แล้ววิธีนี้คุณสามารถปฏิบัติตามได้ทันที และเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว การผ่อนคลายอาการปวดขาแบบบ้าน ๆ ที่คุณสามารถทำตามได้ในครั้งนี้ ตัวเองหวังไว้ลึก ๆ ว่าจะทำให้ทุกคนสามารถผ่อนคลายได้ไม่มากก็น้อย แล้วจะหากนะอ่านท่านใดมีความคิดเห็นหรือมีวิธีอื่นที่น่าสนใจ ได้โปรด Comment ไว้ด้านล่างบทความนี้ แล้วฝากกดแชร์ด้วยนะขอขอบคุณภาพหน้าปกโดย : https://www.canva.com/ขอบคุณภาพประกอบโดยPixabay : ภาพที่1 ภาพที่2 ภาพที่3