ในชีวิตประจำวันของเรา บางคนมีอาการปวดตาอยู่บ่อยๆ แต่พอไม่ปวดก็ไม่สนใจ กลับรู้สึกว่าอาการปวดตาเป็นเรื่องเล็กน้อย คิดซะว่าไม่เป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งคิดผิด อาการปวดตาที่ไม่ควรละเลย อาการปวดตานอกจากจะส่งผลกระทบต่อชีวิตและหน้าที่การงานแล้วยังส่งผลเสียต่อดวงตาของเราอีกด้วย พูดถึงเรื่องนี้ เพื่อนๆ หลายคนถามว่า ปวดตาเกิดจากอะไร? ปวดตาบ่อย แก้อย่างไรให้ได้ผลเร็ว? มาดูพร้อมๆ กัน!สิ่งที่ทำให้ปวดตาบ่อยๆอาการปวดตาแท้จริงแล้วเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับดวงตาของเรา สาเหตุของอาการปวดตา ได้แก่ การติดเชื้อแบคทีเรีย การระคายเคืองดวงตาอย่างรุนแรง หรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ สาเหตุภายนอกเท่านั้นที่ทำให้เกิดอาการปวดตา อาการปวดตา อาจเกิดจากแบคทีเรียบางชนิดเข้าสู่จมูกและไซนัส ทำให้เกิดการติดเชื้อ อาการปวดตาจึงมีหลายอาการ และสาเหตุก็ค่อนข้างซับซ้อนวิธีแก้อาการปวดตาให้หายเร็วๆ1. ให้ความสำคัญกับการพักผ่อนมากขึ้นเมื่ออาการปวดตาปรากฏขึ้น เวลานี้เตือนให้คุณใส่ใจกับการพักผ่อนมากขึ้น เพื่อนๆ หลายคนมีอาการปวดตาเพราะจ้องคอมหรือมือถือบ่อยๆ และรังสีทั้ง 2 อย่างก็ทำให้ปวดตาได้ ขอแนะนำให้ออกกำลังกายดวงตามากขึ้นเพื่อให้ดวงตาได้รับการพักผ่อน2.อย่าอยู่ในที่แสงจ้าเป็นเวลานานหากคุณอยู่ในที่แสงจ้าบ่อย ๆ ตาของคุณจะเจ็บ ในเวลานี้ คุณสามารถเลือกไปที่ห้องมืด ๆ เพื่อพักผ่อนชั่วขณะหนึ่ง หากยังปวดตาอยู่ ควรไปโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมตามอาการ3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตาให้มากขึ้นเมื่อเกิดอาการปวดตา คุณควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตาให้มากขึ้น เช่น แครอท ผักโขม ฟักทอง วูลเบอร์รี่ ดอกเก็กฮวย งา ฯลฯ เป็นอาหารที่ดีต่อดวงตาเป็นพิเศษ ไม่เพียงแต่สามารถเสริมวิตามินและแร่ธาตุเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความต้านทานของร่างกายอีกด้วยในช่วงที่โทรศัพท์แบบจอใหญ่ๆ ระบบแอนดรอยออกมาใหม่ๆ ผู้เขียนซึ่งเป็นคนในยุค 90 ก็รู้สึกตื่นเต้นกับที่โทรศัพท์ที่สามารถดูหนัง ฟังเพลงหรือเล่นเกมได้ และด้วยความที่ไม่เคยใช้สมาร์ทโฟนทำให้ในวันหนึ่งๆ ผู้เขียนเล่นโทรศัพท์เป็นเวลาหลายชั่วโมง จนมีอาการน้ำตาไหลและแสบตา ซึ่งในช่วงแรกก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพราะเห็นเป็นเรื่องธรรมดา หยุดการใช้งานโทรศัพท์ไปสักระยะหนึ่งอาการก็หายเป็นปกติ แต่อาการกลับมากำเริบอีกครั้งและหนักกว่าเดิมมาก ก็คือในช่วงที่ผู้เขียนติดซีรี่ย์ ซึ่งใช้เวลาดูเป็นเวลาหลายชั่วโมง ยิ่งในช่วงกลางคืนก่อนนอน ผู้เขียนก็นำโทรศัพท์มานอนดูด้วย ทั้งที่ปิดไฟเตรียมตัวนอนแล้ว ด้วยแสงจ้าจากหน้อจอของโทรศัพท์ส่องเข้าดวงตาเป็นเวลานาน จึงทำให้ผู้เขียนรู้สึกว่าน้ำตาไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ตาก็แสบ การมองเห็นภาพก็พร่ามัวลง และปรากฎเส้นเลือดฝอยจำนวนมากที่ตาขาว เมื่อผู้เขียนส่องกระจกดูก็ตกใจมาก จึงตัดสินใจรีบไปหาหมอ หลังจากการตรวจแล้ว คุณหมอบอกว่าให้หยุดพฤติกรรมการใช้สายตาที่ผิด โดยการลดชั่วโมงการจ้องมองโทรศัพท์เป็นเวลานานต่อเนื่องลง มิเช่นนั้นถ้าอาการรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อาจจะทำให้ตาบอดได้ในอนาคต ด้วยความกลัวว่าตนเองจะตาบอด ผู้เขียนจึงปฏิบัติตามที่คุณหมอบอกอย่างเคร่งครัด ในปัจจุบันอาการปวดตาก็ไม่มีขึ้นแล้ว เหลือเพียงแค่สายตาของผู้เขียนสั้นเพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อนก็เท่านั้นเองภาพประกอบภาพปก โดย Brigitte Werner จาก Pixabay ภาพ 1 โดย agnes จาก Pixabay ภาพ 2 โดย Ivan Dsouza จาก Pixabay ภาพ 3 โดย Hans จาก Pixabay ภาพ 4 โดย paulsaa จาก Pixabay ภาพ 5 โดย Daniel Hourtoulle จาก Pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !