สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ผู้เขียนไปกินชาบูกับเพื่อนเก่ามาเลยนึกย้อนไปถึงตอนที่ตัวเองอ้วนที่สุดในชีวิต ตอนนั้นมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 75 กิโลกรัม ส่วนสูง 165 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์อ้วนแล้ว แต่สิ่งที่แย่กว่ารูปร่างที่หนาขึ้นด้วยชั้นไขมันนั่นคือ สุขภาพค่ะ ตอนนั้นมีอาการเหนื่อยหอบตลอดเวลา อยากจะนอนทั้งวัน ไม่มีแรงจะเดิน หัวใจเต้นช้าและอ่อนเพลีย คล้ายกับว่าจะตาย พอรู้สึกตัวแล้วเลยตั้งใจจะลดน้ำหนักเพื่อเอาสุขภาพที่ดีกลับคืนมา แต่จะลดด้วยวิธีธรรมชาติและไม่กินยาลดน้ำหนักเด็ดขาด ไม่อดข้าวด้วย จะลดด้วยวิธีไหนไปดูกันเลยค่ะ เริ่มแรกเลย ด้วยความที่เราไม่มีแรงวิ่งหรือออกกำลังกายเลยโฟกัสที่การกินก่อน เริ่มที่ทำอาหารกินเอง เพราะอยากจำกัดปริมาณน้ำมันและโซเดียม โดยที่ไม่ได้อดข้าวและไม่ได้กินแต่ผักกับไข่ต้ม แต่ลดปริมาณแป้ง น้ำมัน โซเดียมลง ซึ่งก็ได้ผลนะคะ น้ำหนักตัวเริ่มลดลง มีแรงมากขึ้น แต่ยังไม่ได้หุ่นดีอะไรมากนะคะ หลังจากนั้นประมาณเดือนกว่า ๆ ก็เริ่มมาวิ่งค่ะ ช่วงแรกที่วิ่งก็วิ่งได้ไม่กี่รอบ ประมาณสัก 5 รอบก็จอดแล้วค่ะ แล้วมาเพิ่มรอบวิ่งขึ้นเรื่อย ๆ น้ำหนักก็ค่อย ๆ ลง ช่วงนั้นวิ่งบวกกับทำอาหารกินเองก็รู้สึกว่าสุขภาพเริ่มดีขึ้น มีแรงกระปรี้กระเปร่า น้ำหนักก็ลดลง รูปร่างเริ่มดีขึ้น รู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่เลยค่ะ ฮ่า ๆๆ ทำแบบนั้นอยู่ประมาณ 5 เดือน น้ำหนักตัวลดลงมาประมาณสิบกว่าโล สุขภาพกายและสุขภาพจิตก็ดีขึ้นมาก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาใหม่คือ มีหนังหย่อนยานช่วงหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา เพราะด้วยความที่เนื้อหนังที่เคยอ้วนมาก่อนพอมวลไขมันและมวลกล้ามเนื้อบางส่วนในที่ตรงนั้นหายไปทำให้หนังบริเวณนั้นหย่อนยาน และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าฟิตเนส ช่วงตอนที่เล่นฟิตเนสก็ไม่ได้เล่นแต่เวทอย่างเดียวทุกวัน แต่เล่นสลับกันไป คือ เล่นเวท 3 วัน วิ่ง 2 วัน และหยุดพัก 2 วัน ช่วงที่เข้าฟิตเนสและยังคงทำอาหารกินเองอยู่รู้สึกได้ถึงรูปร่างที่ดีขึ้น สุขภาพดีขึ้น เห็นได้ชัดจากเวลาไปเที่ยวแบบเดินป่า ขึ้นเขา หรือในสถานที่แบบต้องเดินทางไกล ๆ จะไม่ค่อยรู้สึกเหนื่อย แข็งแรงขึ้น อึดขึ้น และที่สำคัญคือ เห็นได้จากที่คนทักว่าไปทำอะไรมา หุ่นดีขึ้นมาก หน้าตาผ่องใส โดยรวมคือช่วงนั้นแฮปปี้มากค่ะ รู้สึกมีความสุขมากขึ้นและทำอะไรได้มากขึ้น อย่างเช่น ตื่นได้เช้าขึ้น ไม่ง่วงซึม นอนหลับง่าย สบายใจค่ะ สำหรับนี่ก็เป็นรีวิวฉบับย่อสำหรับการลดน้ำหนักจาก 75 กิโลกรัมสู่ 50 กิโลกรัม แบบสุขภาพดี ไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วน และที่สำคัญไม่ต้องอดข้าว เพราะบางครั้งการอดข้าวก็ไม่ใช่วิธีการลดความอ้วนที่ดีนัก เนื่องจากร่างกายของมนุษย์ยังจำเป็นต้องรับสารอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่ อยู่ หากขาดหมู่ใดไปร่างกายก็จะขาดสมดุลและทำให้สุขภาพแย่ลง เพียงแต่ปรับสัดส่วนการกินให้พอเหมาะพอดีกับความต้องการของร่างกายก็เพียงพอต่อการลดน้ำหนักแล้วค่ะ วันนี้ก็ขอลาไปก่อนนะคะ ไว้เจอกันให้บทความหน้าจะมาเล่าเกี่ยวกับอะไรต้องคอยติดตามกันนะคะ แต่รับรองว่ามีสาระและประโยชน์ที่นำไปใช้ได้จริงแน่นอนค่ะ สำหรับวันนี้ขอลาไปกับคำคมปีศาจนะคะ น้ำหนักเป็นเพียงตัวเลข แต่สุขภาพคุณเองเป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่ค่ะ ลาไปก่อนนะคะ บายค่า