นาฬิกาปลุก ตัวช่วยสำหรับการตื่นนอน เพื่อให้ตื่นไปเรียน ไปทำงาน หรือภารกิจได้ทันเวลา ไม่ไปสาย แต่เชื่อว่าหลายคนไม่ได้ตื่น ลุกขึ้นจากที่นอนในครั้งเดียวที่ได้ยินเสียงปลุกของนาฬิกา ต้องมีแอบขออีก 5 นาที .. 10 นาที กันบ้าง ก็จะมีการตั้งปลุกแบบย้ำ ที่เรียกว่า Snooze ซึ่งหลายคนอาจยังไม่รู้ว่าการปลุกแบบนี้ ส่งผลเสียต่อร่างกาย !! Snooze คือ ระบบการปลุกให้ตื่นเป็นระยะๆ ห่างกัน 10 นาทีบ้าง 20 นาทีบ้าง ตั้งเพื่อไม่ให้เผลอหลับยาว และหลายคนคิดว่าตั้งปลุกแบบนี้ ร่างกายจะได้ค่อยๆตื่น ในระหว่างที่ขอนอนต่ออีกนิดหน่อย เวลาตื่นจริงๆจะได้สดชื่น แต่รู้หรือไม่ว่า จริง ๆ แล้วส่งผลเสียกับการทำงานของฮอร์โมน ที่ปกติจะควบคุมการทำงานระบบต่าง ๆ ในร่างกายอยู่แล้ว โดยช่วงกลางคืนร่างกายจะหลั่งสารที่เรียกว่า เมลาโทนิน (Melatonin) หรือ ฮอร์โมนเพื่อการนอนหลับออกมา จึงทำให้รู้สึกง่วง ซึ่งเมื่อง่วงเราก็ควรนอน และก่อนที่เราจะตื่นขึ้นใน 1 ชั่วโมง ระบบต่าง ๆ ในร่างกายก็จะมีการเตรียมความพร้อม ค่อย ๆ ปรับฮอร์โมนให้สูงขึ้นและเริ่มหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) เพื่อให้ร่างกายเกิดการตื่นตัวออกมา ดังนั้นการตั้งปลุกแบบ Snooze จึงเป็นการรบกวนวงจรการนอนหลับ เพราะการตื่นขึ้นมาแล้วนอนต่อ ก็เหมือนการทำให้ร่างกายกลับเข้าสู่กระบวนการนอนอีกครั้ง และ เมื่อนาฬิกาปลุกซ้ำ ก็จะเป็นการขัดขวางการนอนหลับ ยิ่งแอบนอนต่อแล้วปลุกซ้ำ ๆ ก็จะทำให้เกิดการหลับ ๆ ตื่น ๆ และการที่เราหลับ ๆ ตื่น ๆ จะส่งผลให้การเตรียมระบบในร่างกายเพื่อตื่นขึ้นมาไม่เป็นไปในแบบปกติ ตรงนี้แทนที่จะตื่นขึ้นด้วยความสดชื่นแจ่มใส ก็จะกลายเป็นรู้สึกเหนื่อยล้า ไม่กระปรี้กระเปร่า ไม่สดชื่นอย่างที่ควรเป็น นี่แหละที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ จริง ๆ เราสามารถตื่นได้โดยไม่ต้องพึ่งนาฬิกาปลุก หากเราทำให้การเข้านอนทุกคืนและตื่นนอนในทุกเช้าเป็นเวลา สม่ำเสมอในทุก ๆ วัน ไม่เว้นแม้แต่วันหยุด เพราะเมื่อร่างกายของเราคุ้นกับการนอนหลับและตื่นนอนตรงเวลา ระบบต่าง ๆ ในร่างกายก็จะทำงานเป็นไปตามธรรมชาติ ทีนี้ก็ไม่ต้องพึ่งนาฬิกาปลุกอีกต่อไป แถมตื่นมาก็ร่างกายก็จะรู้สึกสดชื่น สุขภาพดีอีกด้วย ภาพและเรื่องโดย เป๋าเป้ เรียบเรียงจาก https://www.kidteung.com