ภาพโดย ผู้เขียนบทความ อาหารไทยมีหลากหลายและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อาหารไทยส่วนใหญ่จะมีพืชเป็นส่วนประกอบและพืชเหล่านี้มีทั้งที่เป็นประโยชน์และมีโทษหากรับประทานไม่ระวัง หรือปรุงไม่เป็น ในขณะที่มีพืชบางชนิดห้ามรับประทานโดยเด็ดขาดเนื่องจากเป็นพิษรุนแรงต่อร่างกายซึ่งหากรับประทานเข้าไปอาจส่งผลร้ายจนถึงแก่ชีวิตได้ พืชมีพิษมีหลายชนิด คนโบราณรู้จักนำพืชมาปรุงอาหารบางชนิดรับประทานได้ในบางส่วนของต้น หรือบางชนิดรับประทานได้ทุกส่วนแต่ต้องรู้จักวิธีการทำรับประทาน พืชที่มีอันตรายมีหลายชนิด บางชนิดสัมผัสก็เกิดอันตรายแล้ว แต่บางชนิดต้องรับประทานเข้าไปจึงจะเกิดอันตราย และอันตรายนั้นก็จะมาจากหลากหลายส่วนของต้นพืช บางชนิดอันตรายจากยาง บางชนิดอันตรายจากราก ใบ เมล็ด หรือบางชนิดอันตรายจากก้านและลำต้นก็มี พิษจากพืชแต่ละชนิดก็ส่งผลต่อร่างกายแตกต่างกัน ตามแต่องค์ประกอบทางเคมีของพืชแต่ละชนิด ที่จะเอามาเล่าสู่กันฟังในวันนี้คือบอนพิษที่เรียกว่าโหรา เกิดจากการที่ผู้เขียนฟังข่าวเกี่ยวกับการรับประทานแกงที่ใส่บอนเป็นส่วนประกอบและปรากฏว่าบอนชนิดนั้นเป็นบอนพิษ ส่งผลให้ผู้รับประทานได้รับพิษเข้าไป ต้องหามส่งโรงพยาบาลในบางรายอาการโคม่าเข้าขั้นวิกฤต เลยนึกถึงตัวเองขึ้นมา ตัวเราเองนั้นก็ชอบรับประทานแกงที่ใส่บอนเป็นส่วนประกอบเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นแกงส้ม แกงกะทิ เพียงแต่บอนที่เรากินนั้นเป็นบอนที่กินได้ บอนชนิดที่กินได้มีคำเรียกขานในภาษาถิ่นที่หลากหลาย ในภาษาใต้เรียก อ้อดิบ ออกดิบ โชน ในภาษากลางเรียกคูน ภาษาเหนือเรียกกระดาดขาว จัดเป็นพืชตระกูลบอนที่กินได้ ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะปลูกไว้รับประทานกันในครัวเรือน จัดอยู่ในประเภทพืชริมรั้วกินได้ ภาพบอนอ้อดิบ ซึ่งเป็นบอนที่รับประทานได้ ชาวบ้านนิยมปลูกไว้ริมรั้วเพื่อรับประทาน ภาพโดย ผู้เขียนบทความ บอนอ้อดิบจะมีใบที่ค่อนข้างกลมขนาดไม่ใหญ่มีสีเขียวอ่อนใบจะบางและมีนวลที่ใบคล้ายแป้ง ก้านก็จะมีนวลแป้งขาว ส่วนบอนชนิดมีพิษภาคใต้เรียกว่าโหรา อ้อลาย ออกลาย ส่วนในภาคกลางเรียกกระดาดดำ บอนโหราจะไม่มีใครปลูกแต่จะขึ้นเองตามทางน้ำไหล ตามข้างทางหรือตามคูดินที่อยู่ริมถนน แต่ด้วยความที่มีพืชตระกูลบอนทั้งที่กินได้และทั้งที่เป็นพิษ มีลักษณะของต้นที่คล้ายคลึงกันมาก บางคนแยกไม่ออกนำมาแกง ยิ่งในตลาดพ่อค้าแม่ค้าบางคนจะตัดเฉพาะก้านเป็นท่อน ๆ วางขายถ้าดวงไม่ดีเจอเอาก้านบอนโหราที่เป็นพิษเข้าไปก็ยากที่จะแยกออก แม้แกงเสร็จเรียบร้อยแล้วยังแยกไม่ออกเลยด้วยซ้ำ จะแยกออกก็ต่อเมื่อรับประทานเข้าไปค่ะ เพราะบอนโหรานั่นพิษที่มีจะเป็นรูปผลึกเข็มที่ไม่ละลายน้ำ แค่ตักน้ำแกงชิมผลึกเข็มเล็ก ๆ จำนวนมากก็จะทำร้ายตลอดทางเดินอาหารของคุณอย่างรุนแรงที่สุด ทั้งเจ็บทั้งปวดก็ลองนึกภาพตามดูว่าถ้าเรากินเข็มจำนวนมากกลืนลงคอเข้าไป ทั้งลิ้นหลอดอาหารกระเพาะลำไส้ของเราจะเป็นอย่างไรใช่มั้ยล่ะคะ ภาพบอนโหรา ซึ่งเป็นบอนมีพิษ ภาพโดย ผู้เขียนบทความ บอนโหรา วิธีสังเกต ใบจะหนาเรียวใหญ่และหนากว่าบอนอ้อดิบและมีสีเขียวเข้มและมีความมันเงาไม่มีนวลแป้งที่ใบและก้าน ภาพบอนโหรา มักขึ้นเองตามริมคูที่เป็นทางน้ำไหล ภาพโดย ผู้เขียนบทความ เคยมีผู้มีประสบการณ์ตรงในการรับประทานบอนโหราได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่ได้รับประทานแกงใส่บอนโหราโดยไม่ได้ตั้งใจซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวผู้ประสบเหตุได้เล่าว่าปกติบอนอ้อดิบที่บ้านของผู้ประสบเหตุจะปลูกไว้รับประทานเอง ประมาณเป็นพืชที่ปลูกไว้ริมรั้ว แต่ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดอย่างไม่น่าจะเกิด เนื่องจากตัวของผู้ประสบเหตุเองวันนั้นได้ทำอาหารและต้องการนำต้นอ้อดิบที่ปลูกเอาไว้หลังบ้านมาประกอบอาหารซึ่งปกติที่บ้านก็จะแกงใส่บอนอ้อดิบกินกันประจำอยู่แล้วจึงไปตัดบอนอ้อดิบที่กอที่ตัดกินอยู่ประจำเพื่อมาใส่ในแกง ตอนที่ไปตัดก็ยังเห็นร่องรอยต้นที่โดนตัดไปแกงก่อนหน้านี้จึงไม่ผิดสังเกตใด ๆ จนเมื่อรับประทานเข้าไปถึงพบว่าได้กินบอนโหราเข้าไปแล้ว เพราะเจ็บปวดทางเดินอาหารมากเหมือนโดนเข็มเล็ก ๆ แทง ต้องเข้าโรงพยาบาลนอนรักษาตัวอยู่หลายเดือน ตอนหลังมาดูจึงพบว่าในกออ้อดิบที่บ้านได้มีบอนโหรางอกแทรกอยู่ด้วย และตอนที่ไปตัดอ้อดิบตอนนั้นเป็นเวลาใกล้ค่ำแล้ว จึงทำให้มองต้นไม่ชัดอีกทั้งบอนโหรายังเป็นต้นเล็กทำให้ดูกลมกลืนไปกับต้นบอนอ้อดิบ คาดว่านกน่าจะไปกินเมล็ดของบอนโหราแล้วมากินเมล็ดของบอนอ้อดิบอีกทีจากนั้นได้ขับถ่ายมูลไว้ที่กออ้อดิบทำให้บอนโหรางอกแทรกอยู่ในกออ้อดิบได้ ดังนั้นเรื่องนี้นับเป็นอุทาหรณ์ใครที่ชอบรับประทานแกงบอนอ้อดิบหรือจะใช้บอนอ้อดิบไปประกอบอาหารชนิดต่าง ๆ ยิ่งต้องใช้ความระมัดระวังสังเกตให้มากเป็นพิเศษนะคะ หากไม่แน่ใจควรหลีกเลี่ยงการซื้อแกงสำเร็จรูปเพราะเราไม่รู้เลยว่าบอนที่อยู่ในแกงนั้นเป็นอ้อดิบหรือโหราจนกว่ารับประทานเข้าไปแล้วถึงรู้ค่ะ วิธีแก้พิษเบื้องต้นหากรับประทานบอนโหราเข้าไป ให้รีบรับประทานนมตามลงไปให้เร็วที่สุดเพื่อให้นมเคลือบทางเดินอาหาร ห้ามรับประทานน้ำเด็ดขาดเพราะจะทำให้พิษกำเริบรุนแรงขึ้น และที่สำคัญห้ามทำให้อาเจียนเพราะจะทำให้ผลึกเข็มพิษยิ่งย้อนกลับมาทำร้ายทางเดินอาหารมากยิ่งขึ้น จากนั้นให้รีบไปโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์ให้เร็วที่สุดนะคะ