เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า วันที่ 13 เมษายน คือ วันสงกรานต์และวันผู้สูงอายุ, วันที่ 14 เมษายน คือ วันครอบครัว ซึ่งคณะรัฐมนตรีจะกำหนดให้ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นวันหยุดราชการ หรือวันหยุดเชยต่อเนื่องกัน เพื่อให้ลูกหลานที่จากบ้านไปทำมาหากินต่างถิ่น ได้มีโอกาสกลับภูมิลำเนาไปเยี่ยมผู้สูงอายุและญาติพี่น้องในช่วงเทศกาลหยุดยาวดังกล่าว ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยังไม่มีวัคซีน และตัวยาในการรักษาโรคมีอยู่อย่างจำกัด จึงทำให้หลายครอบครัวชะลอการเดินทางกลับบ้านเกิด เพื่อลดการแพร่กระจายของโรคไปยังผู้สูงอายุที่บ้านเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 นี้ แม้จะยังคงมีโรคระบาด แต่ประชากรวัยแรงงานส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นกันแล้ว จึงน่าจะสร้างความมั่นใจได้ว่า จะเดินทางกลับบ้านเกิดได้อย่างสบายใจ อย่างไรก็ดี ยังคงประมาทไม่ได้ เพราะคนหนุ่มสาวที่ไม่มีโรคประจำตัว เป็นผู้มีความเสี่ยงต่ำ ในขณะที่ผู้สูงอายุที่บ้านของทุกคน เป็นผู้มีความเสี่ยงสูง เพราะสภาพร่างกายที่เสื่อมลงตามกาลเวลา ประกอบกับโรคภัยไข้เจ็บประจำตัว อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุเป็นผู้มีความเสี่ยงที่จะป่วยหนัก หรือเสียชีวิตจากโรคโควิด-19ดังนั้น การพาผู้สูงอายุไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นชนิด mRNA และการเว้นระยะห่างระหว่างกันยังคงเป็นสิ่งสำคัญเสมอ เหตุผลที่เราอยากให้ทุกครอบครัวตระหนักถึงความสำคัญของการพาผู้สูงอายุไปฉีดวัคซีน เพราะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เราพาแม่ไปพบคุณหมอที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล ด้วยอาการอาหารเป็นพิษ ซึ่งภาพที่เราได้เห็นหน้าแผนกฉุกเฉิน คือ ผู้สูงอายุจำนวนมากกำลังนอนเรียงรายอยู่บนเตียงคนไข้ รอผลตรวจโรคโควิด-19 เพื่อจะได้เข้าสู่ขั้นตอนการรักษาต่อไป บางคนใส่สายน้ำเกลือ บางคนใส่ท่อออกซิเจน ซึ่งเป็นภาพที่สร้างความสะเทือนใจอย่างมาก อีกเคสหนึ่งที่เราได้พบหน้าแผนกฉุกเฉิน เป็นคุณตาขับรถพาคุณยายมาส่งโรงพยาบาล ซึ่งทั้งสองท่านอายุประมาณ 80 ปี เมื่อเห็นผู้สูงอายุมากันสองคน เราจึงอาสาไปช่วยพยุงและเข็นรถนำส่งเจ้าหน้าที่คัดกรอง เมื่อสอบถามคุณยาย ทราบว่า รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาแล้ว 2 เข็ม แต่ก็ยังเป็นโควิด-19 มีเอกสารการตรวจ RT-PCR มาพร้อม โดยเจ้าหน้าที่คัดกรองได้แนะนำเกี่ยวกับแนวทางการตรวจรักษาเบื้องต้น สรุปได้ว่า ถ้าคุณยายเป็นผู้ป่วยสีเขียว ที่มีอาการไม่หนัก คุณหมอจะจ่ายยาให้ไปรับประทานที่บ้าน และจะมีคุณหมอติดตามอาการเป็นระยะ เมื่อได้เห็นภาพความเจ็บป่วยของผู้สูงอายุที่เป็นโควิด-19 ทำให้เราเห็นชัดมากขึ้นว่า วัคซีนสำคัญและจำเป็นมากสำหรับผู้สูงอายุ อย่างน้อยก็ช่วยทุเลาอาการหนักให้เป็นเบา และช่วยลดการสูญเสียชีวิตของผู้สูงอายุได้มาก ดังนั้น ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่หลายคนได้กลับบ้าน ขอให้พาผู้สูงอายุไปฉีดวัคซีน หากผู้สูงอายุเดินทางไม่สะดวก หรือเป็นผู้ป่วยติดเตียง สามารถประสาน อสม. ในพื้นที่ เพื่อมาให้บริการฉีดวัคซีนถึงบ้านขอให้วันผู้สูงอายุ เป็นวันที่มีความหมายสำหรับทุกครอบครัว เพราะลูกหลานจะพาผู้สูงอายุไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อให้ท่านเหล่านั้นมีภูมิต้านทานที่จะต่อสู้กับเชื้อไวรัสที่กำลังกลายพันธุ์ และอยู่เป็นขวัญ กำลังใจให้ลูกหลานต่อไปนาน ๆ นะคะเครดิตภาพประกอบภาพปกโดยแอปฯ Canva และ lifestylememory จาก Freepikภาพที่ 1 ภาพโดย tirachardz จาก Freepikภาพที่ 2 ภาพโดย pressfoto จาก Freepikภาพที่ 3 ภาพโดย dcstudio จาก Freepikภาพที่ 4 ภาพโดย lifestylememory จาก Freepik เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !