เห็นผ่านตากันมาหลายบทความกับคุณประโยชน์ที่แสนโดดเด่นของมะนาว มีผลการศึกษาหลายชิ้นที่ชี้ให้เห็นว่าการกินน้ำมะนาวในปริมาณที่พอเหมาะนั้นมีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการดื่มน้ำอุ่นใส่มะนาวในยามเช้า หรือจะทำมะนาวดองน้ำผึ้งไว้กินตอนที่เป็นไข้หรือไม่สบายตัว แต่เหรียญย่อมมี 2 ด้านเสมอเพราะหากเราดื่มมะนาวเยอะมากเกินไปจากประโยชน์ก็จะเปลี่ยนมาเป็นสร้างโทษกับร่างกายของเราได้ ข้อเสียจากการดื่มน้ำมะนาวมากเกินไปมีอะไรบ้าง? เราควรระมัดระวังเกี่ยวกับการดื่มน้ำมะนาวอย่างไร? บทความนี้มีคำตอบค่ะรวม 6 ข้อเสียจากการดื่มน้ำมะนาวมากจนเกินไป1.โรคกระเพาะอาหาร แผลในกระเพาะอาหารข้อนี้ตรงตัวที่สุดค่ะเพราะมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรด เมื่อเรากินเยอะเกินไปก็จะทำให้ระบบย่อยอาหารของเราที่เป็นกรดอ่อนๆ อยู่แล้ว มีสภาพเป็นกรดมากยิ่งขึ้น หากใครที่เป็นแผลในกระเพาะอาหารหรือเป็นโรคกระเพาะอาหารเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็อาจจะทำให้ปวดท้องขึ้นมาได้โดยง่ายมากๆ เราเองเป็นคนที่ท้องไส้ไม่ค่อยจะแข็งแรงเท่าไหร่ค่ะประกอบกับมีโรคลำไส้อักเสบเป็นแพ็กเกจติดตัว (555+) เวลากินของเปรี้ยวๆ อย่างเช่นน้ำมะนาว ยำ มะม่วง ของดองเยอะๆ จะปวดท้อง มวนท้องขึ้นมาได้ง่ายมากและบางครั้งก็ทำให้เกิดอาการท้องเสีย ถ่ายเหลวเลยก็มีเพราะฉะนั้นเราจะระมัดระวังเวลาเลือกดื่มน้ำมะนาวเป็นอย่างดี 2.กระตุ้นความรุนแรงของโรคกรดไหลย้อนเรื่องนี้เกี่ยวกับชาวกรดไหลย้อนอีกแล้วค่ะ เพราะฤทธิ์เปรี้ยวปรี๊ดและค่าความเป็นกรดของน้ำมะนาว เวลาเราที่กินน้ำมะนาวเยอะๆ ก็ทำให้เกิดการกัดกร่อนระบบทางเดินอาหาร หลอดอาหารและเมื่อมีอาการกรดไหลย้อนหลังกินน้ำมะนาวเยอะๆ จะทำให้เกิดอาการแสบร้อนหน้าอก เจ็บคอ มีอาการไอและระคายคอมากกว่าเดิมได้ 3.ทำให้สารเคลือบฟันเสื่อม ฟันกร่อน ฟันผุ ฟันเหลืองง่าย รวมถึงทำให้แผลในปากหายช้าลง การดื่มน้ำมะนาวหรือกินน้ำมะนาวที่อยู่ในอาหารเพียงเล็กน้อยอาจไม่ส่งผลเสียต่อฟันค่ะ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเน้นดื่มน้ำมะนาวตามสูตรสุขภาพต่างๆ ในปริมาณมากเป็นเวลาต่อเนื่องกันนานๆ ก็อาจส่งผลให้สารเคลือบฟันของเราเสื่อมตัวลงเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ส่งผลให้เกิดปัญหาฟันเหลือง ฟันผุได้ง่ายมากขึ้น วิธีแก้คือหลังจากดื่มน้ำมะนาวเสร็จให้กลั้วปากด้วยน้ำสะอาดเพื่อทำความสะอาดฟันหรืออาจใช้หลอดดูดน้ำมะนาวแทนเพื่อลดการสัมผัสระหว่างน้ำมะนาวและผิวฟัน 4.ดื่มน้ำมะนาวเยอะๆ อาจสร้างภาระให้กับไต จริงอยู่ว่าคุณประโยชน์ของน้ำมะนาวที่น่าสนใจคือช่วยป้องกันการเกิดก้อนนิ่วในไตด้วยการเข้าไปสลายผลึกที่ตกค้างบริเวณไต แต่อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ป่วยโรคไตหรือในกลุ่มเสี่ยงไม่ควรดื่มน้ำมะนาวในปริมาณมากเพื่อหวังผลการรักษา เพราะน้ำมะนาวนั้นมีโพแทสเซียมอยู่ค่อนข้างเยอะ หากผู้ป่วยโรคไตดื่มน้ำมะนาวในปริมาณมากก็กลายเป็นการเพิ่มภาระให้กับไตและสร้างอันตรายถึงชีวิตได้ 5.กระตุ้นอาการไมเกรนให้กำเริบสำหรับบางคนการได้กินผลไม้รสเปรี้ยว ผลไม้ตระกูลส้มหรือมะนาว อาจทำให้รู้สึกสดชื่นและหายปวดหัวได้ แต่ทั้งนี้ก็อาจมีผู้ป่วยไมเกรนบางรายที่หากกินน้ำมะนาวมากเกินไปก็อาจทำให้รู้สึกปวดหัวไมเกรนขึ้นมาได้อย่างฉับพลัน เนื่องจากในมะนาวหรือผลไม้รสเปรี้ยวมีสารออคโทพามีน (Octopamine) ซึ่งสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการไมเกรนได้ 6.ปัสสาวะบ่อยขึ้นและอาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ ด้วยสภาพความเป็นกรดของน้ำมะนาวจึงส่งผลออกฤทธิ์ให้กระเพาะปัสสาวะทำงานมากขึ้นเพื่อปรับสมดุลในร่างกายให้กลับสู่สภาวะปกติ ดังนั้นแล้วการดื่มน้ำมะนาวเยอะมากๆ จะส่งผลให้เราปัสสาวะบ่อยและเกิดภาวะร่างกายขาดน้ำแทนได้ จึงควรดื่มน้ำมะนาวในปริมาณที่พอเหมาะ แค่วันละ 1-2 ผลก็เพียงพอและแน่นอนว่าควรดื่มน้ำเปล่าให้ได้อย่างน้อย 1.5-2 ลิตรต่อวันด้วยเสมอ สำหรับตัวเราก็เชื่อในประโยชน์และสรรพคุณของน้ำมะนาวค่ะ เพราะใช้น้ำมะนาวเพื่อบรรเทาอาการเจ็บคอ และใช้น้ำมะนาวผสมน้ำอุ่นดื่มตอนเช้าเพื่อช่วยดีท็อกซ์ร่างกายอยู่เป็นประจำ แต่ทั้งนี้เราก็จะไม่ได้ดื่มน้ำมะนาวตลอดทุกวันเป็นเวลานาน แต่จะดื่มเฉพาะช่วงที่ต้องการเท่านั้นค่ะเพื่อป้องกันการกินมะนาวมากเกินไปจนสร้างอันตรายต่อสุขภาพแทน นอกจากนี้สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการกินน้ำมะนาวเพื่อรักษาโรคอยากให้ระวังสักนิดค่ะ ไม่ควรดื่มน้ำมะนาวเพื่อใช้เป็นยาเลยแต่ให้ใช้เป็นตัวช่วยทางเลือกดีกว่า ทั้งนี้หากมีโรคประจำตัวเช่น เบาหวาน โรคไต ความดัน ไขมันสูง ฯลฯ ก็ควรปรึกษาและขอคำแนะนำจากแพทย์ก่อนดื่มน้ำมะนาวเสริมด้วยเพื่อความปลอดภัยที่สุด เราเคยได้ยินมาเยอะเหมือนกันค่ะเกี่ยวกับคนที่กินน้ำมะนาวเยอะๆ เพื่อหวังรักษาโรคแต่สุดท้ายเจอว่าสุขภาพแย่กว่าเดิมเพราะว่ากินน้ำมะนาวมากเกินไป ภาพหน้าปก ภาพที่1 โดย start08 จาก canva แต่งด้วย canvaภาพในเนื้อหา ภาพที่1,2,4 โดย ผู้เขียน / ภาพที่4 โดย benzoix จาก freepikเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !