สวัสดีเพื่อนๆชาวโลกมัว ถ้าเพื่อนรู้สึกว่าเราอยู่กับโลกมัวๆเบลอมานานเกินไปแล้ว เราอยากพาเพื่อนไปรู้จักโลกใหม่ โลกที่ทุกอย่าFull HDไปด้วยกัน เริ่มกันเลย!! เราเป็นคนที่สายตาสั้น 450+ (สองข้างไม่เท่ากันด้วย) และเอียงข้างละ100และตาเริ่มแห้งจากการใส่คอนแทคเลน์มาเกือบ10ปี เลยตัดสินใจทำเลสิก เราก็หารีวิวเยอะมาก และถามเพื่อนที่เคยทำเลสิกเยอะมากๆ จนตัดสินใจทำเลสิกที่ TRSC (จ่ายเอง) หวังว่าประสบการณ์ของเราจะเป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆที่กำลังหารีวิวแบบอัพเดต(ปี2565)จะช่วยได้นะคะ เริ่มติดต่อจองคิวตรวจตาและผ่าตัดตาช่องทางการติดต่อมีหลากหลายมาก สามารถดูข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ที่เราแปะมาให้ได้เลย >> https://www.trsclasik.com/contactusเราติดต่อTRSCทาง Line: TRSCOfficial ในการปรึกษาเบื้องต้น สอบถามราคา และนัดวันตรวจตาหลังจากคุยเราตัดสินใจทำแบบRelex SMILE (สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่) โดยราคาจุกๆอยู่เหมือนกัน (เราสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ท้ายกระทู้นะคะ) เราเลือกทำเลสิกกับคุณหมอเอกเทศ โดยคิวตรวจตาของคุณหมอคือวันจันทร์กับวันอังคาร และจะผ่าเฉพาะวันพุธ *หมายเหตุ: คิวของคุณหมอเอกเทศค่อนข้างแน่นมากๆ ถ้าตัดสินใจจะทำควรรีบจองล่วงหน้า และไม่เหมาะกับคนรีบทำ การเตรียมตัวก่อนวันตรวจสภาพตา-สำหรับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์แบบsoft lens ควรงดใส่อย่างน้อย 3 วัน เรางดใส่ไปเผื่อๆ 7 วันเลย -หยุดยาบางประเภท-งดดื่มแอลกอฮอลก่อนวันตรวจ1วัน วันตรวจสภาพตาอย่าลืมนำบัตรประชาชานไปด้วย เพราะต้องใช้ในการลงทะเบียนและอย่าขับรถมาเองนะ เพราะหลังจากหยดตาขยายม่านตา ตาเราจะไม่ชัดไป2-3ชั่วโมง ดังนั้นให้คนมารับมาส่งเราดีกว่า เมื่อถึงตึกอือจือเหลียง เราก็ขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น 6 ออกมาก็จะเจอเคาน์เตอร์ลงทะเบียน ก็แจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามาตรวจตา เขาก็จะขอบัตรประชาชน ถ่ายรูปและลงทะเบียนให้เรา และจะมีการคัดกรองโควิด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะพาเราไปตรวจATKที่ตู้ตรงบริเวณด้านนอก โดยมีเจ้าหน้าที่เป็นคนแยงจมูกให้เราเมื่อผลออกว่า Negative เจ้าหน้าที่จะพาเราไปดูวีดีโอข้อมูลการรักษาแต่ละแบบ ข้อดีข้อเสีย ความเสี่ยง ประมาณ 20-30นาทีเมื่อเราดูวีดีโอเรียบร้อยเราก็แจ้งเจ้าหน้าที่อีกทีว่าเราเลือกการเลสิกด้วยวิธีไหน โดยเราเลือกRelex เพราะเป็นนวัตกรรมที่ใหม่สุด แผลเล็กที่สุด และพักฟื้น1วัน สามารถเปิดตาวันรุ่งขึ้นหลังจากผ่าได้เลย และเป็นวิธีที่สามารถรักษาสาตาสั้นและเอียงพร้อมกันได้เลย แล้วเจ้าหน้าที่จะพาไปตรวจสภาพตาด้วยเครื่องมือต่างๆ ได้แก่ สายตาสั้นเอียง ความดันตา ความหนาของกระจกตา การรวมแสง และจะพาไปยังโซนหยอดตาขยายม่านตา โซนนี้นึกว่าสปา เป็นห้องส่วนตัว เป็นเก้าอี้นวดระหว่างเรารอยาขยายม่านตาออกฤทธิ์ สบายมากเลย หลังจากขยายม่านตาเรียบร้อย เราจะถูกพาไปวัดสายตาอีกรอบพอเสร็จสิ้นกระบวนการตรวจตากับเครื่องมือต่างๆ เราก็จะได้พบที่ปรึกษาส่วนตัว คนนี้จะเป็นคนมาอธิบายเรื่องดวงตาและการเข้ารับการรักษาของเราทั้งหมด และจะเป็นคนที่เราสามารถติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมงหากมีปัญหาหรือมีคำถามเพิ่มเติม รวมไปถึงจะเป็นคนที่ดูแลการนัดตรวจตาในครั้งต่อๆไปอีกด้วย และในขั้นตอนสุดท้าย คือ การพบแพทย์ผู้จะผ่าตัดตาของเรา คุณหมอก็จะตรวจตาของเราอีกที ดูความหนาของกระจกตา ว่าพอที่จะทำเลสิกไหม ของเราความหนาอยู่ที่ 535 ซึ่งหนาพอและสามารถทำเลสิกด้วยวิธีRelexได้ เราเลยทำการนัดหมอผ่าในวันพุธต่อเลย เพราะผลตรวจนี้อยู่ได้แค่ 3 เดือน ถ้าเกิดเลย3เดือนแล้วจะต้องทำการตรวจตาใหม่ก่อนเข้ารับการรักษาอีก เวลาทั้งหมดในการตรวจตาคือ 3 ชั่วโมงกว่าๆ ก่อนวันผ่าตัดในการผ่าตัดเราต้องมี ‘ผลตรวจHIV’ ดังนั้นอย่าลืมไปตรวจก่อนวันผ่าตัดนะ เจ้าหน้าที่แนะนำโรงพยาบาลBNHเพราะอยู่ใกล้ๆ สามารถแจ้งโรงพยาบาลได้เลยว่ามาตรวจHIVสำหรับทำเลสิกค่ะ พยาบาลก็จะพาเราไปเจาะเลือดและออกใบรับรองแพทย์ว่าผลเป็นNegative วันผ่าตัดเราแนะนำว่าให้เลือกการผ่าตัดช่วงบ่าย กลับบ้านไปจะได้นอนเลย เพราะถ้าผ่าช่วงเช้าเดียวกลับบ้านไปไม่มีอะไรทำ ส่วนการแต่งกาย ให้ใส่เสื้อที่เป็นกระดุมด้านหน้า เพราะเราต้องครอบตาหลังผ่าตัด เวลาถอดเสื้อจะได้ไม่ติดที่ครอบตา พอมาถึงเราก็เซ็นเอกสารยินยอมเข้ารับการผ่าตัด วัดความดัน กินยาลดความตื่นเต้น หลังจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่เชิญไปเปลี่ยนชุดคนไข้ แล้วเจ้าหน้าที่จะพาเราไปโซนหยอดยาก่อนผ่าตัด โดยเจ้าหน้าที่จะหยอดยาชา ยาปฏิชีวนะ หลายรอบมาก เราก็มีหน้าที่นอนกระพริบตาไป พอยาเริ่มออกฤทธิ์คุณหมอจะมาคุยเรื่องรายละเอียดของการผ่าตัดและให้เราทำอะไรเช่น หมอจะสั่งให้มองตามไฟ ก็ให้เรามองตามนั้นนะ ได้เวลาขึ้นเขียงแล้ว…. เจ้าหน้าที่จะพาเราไปที่เตียง หมอจะมีเครื่องถ่างตา ทำให้เราไม่ต้องกังวลว่าเราจะถ่างตายังไงให้ได้นาน จากนั้นหมอจะบอกให้เรามองไฟ ส่วนหมอจะทำการยิงเลเซอร์ข้างละ 30 วินาที มันจะขาวๆ แล้วพยาบาลจะพาเราเดินไปอีกเตียง หมอจะให้เราจ้องไฟเหมือนเดิม แล้วเขาจะคีบบางส่วนของเลนส์ออก มันไม่เจ็บเลยนะ ขอย้ำอีกทีว่าไม่เจ็บเลยสักกะนิดเดียวพอเสร็จเรียบร้อบตาเราจะฟุ้งๆ เหมือนมีหมอก แล้วคือเราก็ตกใจไงเพราะตอนแรกคือว่าทำปุ๊ปมันจะชัดเลย แต่เจ้าหน้าที่บอกว่ามันจะฟุ้งอย่างงี้แหละ แล้วจะค่อยๆชัดขึ้นทีละนิด พรุ่งนี้เช้าจะชัดประมาณ 80% แล้วเจ้าหน้าที่ก็ครอบตาแบบไอ้มดแดงและบอกวิธีปฏิบัติตัว และอธิบายถุงยา ประกอบไปด้วย ยาหยอดตาฆ่าเชื้อ(ยังไม่ให้เราเปิดตาหยอดเองในคืนแรก แต่เขาให้เราติดมาด้วยเผื่อฉุกเฉิน)ยาแก้ปวด(ถ้ามีอาการปวดก็ให้กิน) ยานอนหลับ (เรากินเพราะเราบังคับให้ตัวเองรีบนอนไม่ได้ เลยกินไป1เม็ด)เทปกาว เผื่อที่ครอบตาหลุดหรือไม่แน่น เราจะได้แปะเพิ่มหลังจากนั้นก็จ่ายเงินค่าเลสิกและออกใบนัดตรวจตาคืนนั้นให้รีบนอนตาจะได้พักเยอะๆ แล้วจะได้ไม่เคืองตา วันเปิดตาพอเช้ามาตาเราก็คือค่อนข้างชัดจากการมองผ่านรูไอ้มดแดงแล้วเราก็มาที่TRSCอีกครั้งเพื่อตรวจตากับคุณหมอ คุณหมอก็จะเปิดที่ครอบดูแผลว่าปิดสนิทไหม ตาโดยรวมเป็นยังไง ตาแห้งไหม ก่อนกลับบ้านเจ้าหน้าที่ก็จะนำถุงยามาให้ ประกอบด้วย...-ที่ครอบตา ไว้ครอบตอนนอน 3 คืน เพื่อกันเราไปขยี้ตาตอนนอน-เทปกาวแปะที่ครอบตา-น้ำตาเทียมรายวัน 1 กล่อง ช่วงแรกให้หยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ ทุกชั่วโมง เพราะตาจะแห้ง-ยาหยอดตาฆ่าเชื้อ ให้หยอดยา 4 ครั้ง ( เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน) เป็นเวลา 7 วัน-สำลีและน้ำเกลือ ไว้เช็ดหน้า เพราะห้ามน้ำโดนตา 3 วันแรก หลังจาก3วันก็อาบน้ำสระผมได้ตามปกติ-คอตตอนบัต จุ่มน้ำเกลือแล้วเช็ดขี้ตาเบาๆเวลาตอนเช้า การตรวจตาหลังผ่าที่TRSCจะนัดเราตรวจตาหลังผ่าตัดบ่อยมาก และทุกครั้งไม่มีค่าใช้จ่ายโดยจะนัดหลังผ่า 1 วัน, 1สัปดาห์, 1เดือน, 3เดือน, 1ปี*หมายเหตุ: ถ้าผ่ากับคุณหมอเอกเทศ คุณหมอจะตรวจเอง 1วันและ1สัปดาห์หลังจากผ่าตัด หลังจากนั้นจะเป็นคุณหมอคนอื่นที่มาตรวจตาเราแทน อาการหลังผ่าตัดเลสิกเราคือตาแห้งในช่วง3เดือนแรก เราคือหยอดน้ำตาเทียมจนเรียกว่าอาบก็ได้ หลังจากการนัดตรวจรอบ 3 เดือนตาเราก็ไม่แห้งแล้ว การมองเห็นทุกอย่างปกติ ตาชัดแจ๋วอ้อ! แล้วความรู้จากพี่ที่ปรึกษาส่วนตัว พี่เขาบอกว่าไม่ควรใช้น้ำตาเทียมรายเดือนที่เป็นขวดๆ เพราะเขาจะใส่สารเสียลงไป เขาแนะนำว่าให้ใช้เป็นรายวันดีกว่า เพราะมีไม่มีสารกันเสียและมีอายุ1วันหลังจากเปิด ข้อดี-ข้อเสียของที่TRSCมาเริ่มที่ข้อดีกันก่อนดีกว่า...-น่าเชื่อถือมากและเชี่ยวชาญ เพราะเป็นผู้นำเข้าเลสิกเจ้าแรกของประเทศไทย-พนักงานดูแลดีมากๆๆ อุ้มเราได้เขาคงอุ้มไปแล้ว และยังมีที่ปรึกษาส่วนตัวที่เราสามารถทักสอบถามเขาได้ตลอดเผื่อมีอะไรฉุกเฉินเกิดขึ้นกับเรา-สถานที่ดูทันสมัยและสะอาด มีพนักงานเช็ดความความสะอาดตลอดๆ อุ่นใจปลอดภัยจากโควิด-เดินทางสะดวก ใกล้บ้านสำหรับข้อเสีย มีเพียงข้อเดียวที่อยากมอบให้คือ แพง แพงมาก แพงกว่าที่อื่นเกือบเท่าตัว แต่เรายังคงเลือกที่นี้นะ เพราะความเชี่ยวชาญ การดูแล การเติมฟรีเลเซอร์ในอนาคต ความมั่นใจจากการที่คนรอบตัวเราเลือกทำที่นี้ และโลเคชั่นใกล้บ้านเดินทางสะดวก เพื่อนๆที่สนใจทำเลสิกอาจจะต้องไปชั่งน้ำหนักดูว่าข้อดีต่างๆมันคุ้มค่าสำหรับเพื่อนๆไหมที่จะจ่ายในราคาที่สูงกว่าที่อื่น สำหรับเพื่อนที่มีคำถามต่อว่าแล้วทำกับคุณหมอเอกเทศดีไหม? เรารู้สึกว่าคุณหมอเก่งมากกกกก มันคุ้มที่จะซื้อความเชี่ยวชาญในระดับเซียน ในราคาที่สูงกว่านิดหน่อย แต่ข้อเสียเดียวที่เรารู้สึกคือการตรวจตาครั้งหลังๆคุณหมอเอกเทศไม่ได้เป็นคนตรวจ แต่เป็นคุณหมอคนอื่นตรวจแทน เราเจอคุณหมอคนใหม่ทุกรอบซึ่งเขาก็ไม่ได้ดูเคสเราตั้งแต่ผ่าตัดอาจจะขาดความต่อเนื่อง แต่ด้วยเพราะผลลัพธ์การผ่าตัดตาของเราเป็นไปอย่างราบรื่น การที่ตรวจตากับคุณหมอคนอื่นเลยไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเรา สรุปค่าใช้จ่ายRelexกับอาจารย์เอกเทศ ซันซื่อ ราคา 165,000 บาท Relex กับทีมแพทย์TRSC ราคา 145,000 บาท นอกจากค่าผ่าตาตามราคาด้านบนแล้ว จะมีค่าใช้จ่ายๆอื่นๆดังนี้+ ค่าตรวจตา 3,500 + ค่าATK 300แล้วหลังจากนี้ไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว มาตรวจตาFollow upอีกหลายครั้งก็ไม่มีต้องเสียแล้ว*หมายเหตุถ้ามีชื่อคนไข้เก่าสามารถแจ้งได้เพื่อรับส่วนลดค่าตรวจ 10% (ลดเหลือ 3,150 บาท) และลดค่าผ่า 5,000 บาทเพิ่มเติมสำหรับคนที่สายตาสั้นขึ้นในอนาคต สามารถมาเติมเลเซอร์ได้ฟรี มีค่าใช้จ่ายเพิ่มในส่วนของค่ายาและเวชภัณฑ์ในราคารวมหลักหมื่นต้นๆ (เราจำตัวเลขไม่ได้ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ได้เลย) สำหรับรายละเอียดและค่าใช้จ่ายการเลสิกประเภทอื่นๆ สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ https://www.trsclasik.com/examinationandsurgicalfeesหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ และขอยินดีล่วงหน้ากับการมองโลกแบบFUll HDค่ะ :)*ภาพทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !