5 วิธีเพื่อเผชิญกับโรคซึมเศร้า โรคซึมเศร้า เป็นโรคที่หลายคนอาจเป็นโดยไม่รู้ตัวเพราะบางทีเราไม่สามารถควบคุมอารมณ์ ความคิด และการกระทำของเราได้ซึ่งบางคนอาจเป็นมากจนถึงแม้กระทั่งคิดทำร้ายตัวเอง สาเหตุส่วนใหญ่มาจากพันธุกรรม ลักษณะนิสัยของตนเองที่มองโลกในแง่ลบ คิดมาก อ่อนไหวง่าย สภาพแวดล้อมตั้งแต่เล็กจนโต หรือมีสารเคมีในสมองไม่สมดุล เป็นต้น ดังนั้นสิ่งที่จะช่วยให้เราค้นพบได้เร็วขึ้น จะได้ป้องกันหรือได้รับการรักษาได้เร็วขึ้น มีดังนี้1.การรู้จักตนเอง การกลัวหรือคิดไปเองนั้นมักจะทำให้เกิดเรื่องที่แย่ ๆตามมาได้ ดังนั้นการสังเกตตัวเองว่าตัวเองมีอาการที่แสดงถึงภาวะโรคซึมเศร้าหรือไม่ ได้แก่ การมีอารมณ์โกรธง่าย อารมณ์ซึมเศร้า รู้สึกสิ้นหวัง ไม่กล้าเผชิญปัญหา เบื่อในการทำอะไรต่างๆ ไม่มีความสุขในการทำกิจกรรมใดๆ การนอนไม่หลับ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด สมาธิสั้นลง พูดหรือทำอะไรช้าลง รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า มีความคิดอยากทำร้ายตัวเอง เป็นต้น เราต้องหมั่นสังเกตตัวเองว่าเรามีอาการหรือกำลังอยู่ในสภาวะไหน อารมณ์แบบไหน เพื่อให้เรายอมรับว่าสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ คือ การเริ่มเข้าสู่สภาวะของโรคซึมเศร้านั่นเอง2.การยอมรับ เราต้องยอมรับว่าโรคซึมเศร้า ไม่ได้น่ากลัวหรือเป็นโรคที่น่าอายกว่าที่เราคิด ถ้าเรารู้จักคิด จัดการและรู้จักแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้องเราก็จะหาทางออกเจอ แต่สิ่งสำคัญ คือ ตัวเราต้องยอมรับว่าเรากำลังเผชิญกับสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ใจเรากำลังอ่อนแอ และหาทางออกไม่เจอเราต้องได้รับการช่วยเหลือจากผู้อื่น กล้าซิ กล้าที่จะยอมรับความจริงและให้แพทย์ช่วยอย่างน้อยแพทย์คือ คนที่เข้าใจโรคที่เราเป็นและรู้วิธีการเยี่ยวยาและการรักษาที่ถูกต้อง ทุกอย่างมีทางออกเสมอเพียงแต่เรากล้าที่จะเดินไปหรือไม่ เพราะชีวิตเป็นของเรานะ เราต้องรักตัวเองให้มากเพราะยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องทำและต้องเดินต่อไป3. การคิดบวก หลายคนสงสัย มีแต่คนสอนคิดบวกและทำไมตัวเราเองถึงทำไม่ได้ สรุปการคิดบวก ต้องทำอย่างไร? อย่างแรกต้องนั่งคิดก่อนว่าทุกวันนี้ตัวเองมีความคิดเป็นอย่างไร ตั้งแต่ตื่นนอน ไปเรียน ไปทำงาน กลับมาบ้านมาคิดซิ ว่าตั้งแต่ตื่นนอนมาอารมณ์แบบไหน อาบน้ำ ทานข้าว แต่งตัว แล้วเดินออกนอกประตูไป ตัวเรามีความสุขไหม เบื่อไหม เหนื่อยไหม มีอารมณ์อยากเดินออกไปไหม นี่แค่การเริ่มต้นการใช้ชีวิตในหนึ่งวันของเรานะ เรามีความคิดแบบนี้หรือไม่ แล้วคิดว่านอกประตูนั้นเราจะเป็นอย่างไร การคิดบวก คือ การคิดเหมือนกับว่าทุกอย่าง คือ การเริ่มต้น การสร้างพลังงานให้ตัวเองเพื่อให้ใช้ชีวิตได้ในทุกๆวัน เช่น ฉันตื่นนอนวันนี้ฉันจะต้องสู้ ไม่ว่าจะเจออะไรฉันจะต้องผ่านมันให้ได้ อาบน้ำมันทำให้ฉันรู้สึกสดชื่นและพร้อมที่จะออกไปเผชิญข้างนอกแล้ว เก็บที่นอนเพื่อความเรียบร้อย ทานข้าวเพื่อเพิ่มพลังและกำลังกาย แต่งตัวให้พร้อมและก้าวออกไปด้วยความมั่นใจที่มีทั้งพลังใจพลังกาย ต่อให้วันนี้จะเจอปัญหาอะไรทุกอย่างฉันต้องเรียนรู้และข้ามผ่านให้ได้ ต่อให้ฉันทำไม่ได้ก็ถือว่าฉันทำมันดีที่สุดแล้ว กลับมาบ้านแล้วพักผ่อนเพื่อการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ……….การคิดบวก.......4.การป้องกัน เมื่อรู้จักตัวเองและเรายอมรับในสิ่งที่เราเป็นแล้ว ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องอาย ไม่ต้องคิดว่าผู้อื่นจะมองเราอย่างไร สิ่งสำคัญคือ ตัวเรา เราจะใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความสุขและหลุดพ้นจากสิ่งที่เป็นได้ อย่างแรกถ้าเราอาการไม่เยอะและยังสามารถควบคุมตัวเองได้ก็หากิจกรรมทำเพราะ โรคซึมเศร้าจะมีอาการมากขึ้นถ้ามีปัจจัยมากระตุ้น เช่น แรงกดดันจากการทำงาน เพื่อน หัวหน้าหรือคนในครอบครัว และสภาพแวดล้อมที่เราอยู่ เป็นต้น กิจกรรมที่แนะนำ เช่น หากิจกรรมที่ตัวเองชอบทำ การออกกำลังกายต่างๆ การรับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อและมีประโยชน์ การทำสมาธิ ฟังธรรมะ การมองโลกในแง่บวกคิดบวก การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ การทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น การหาคนที่ไว้ใจเพื่อระบายความคิดความรู้สึก การท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อน เป็นต้น แต่ถ้าเราไม่สามารถทำได้จริง ๆ ก็ให้ปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญอย่างน้อยก็ยังมีหนทางในการเยียวยาและทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้ในปัจจุบัน5.มองเห็นความจริง การที่เราเป็นโรคซึมเศร้า ไม่ใช่เป็นสิ่งที่น่าอาย หรือน่ารังเกลียดหรอกนะ มันอยู่ที่ตัวเรามากกว่า ว่าเราจะคิดให้มันเป็นแบบไหน ตอนนี้สังคมได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา มีเหตุการณ์ต่าง ๆมากมายที่เข้ามา ตัวเราก็ยังยืนอยู่ที่เดิม จุดเดิม ดังนั้นทุกอย่างมีหนทางออกเสมอ ไม่ต้องตั้งเป้าหมายหรือคาดหวังอะไรที่มากเกินไป ต่อให้มีก็ต้องยอมรับว่าทุกอย่างอาจไม่ได้เป็นดั่งที่เราคิดเสมอไป ทุกความพยายามของเรามันมีค่าและอยากได้ในสิ่งที่เราหวัง แต่ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะ มีสำเร็จบ้างล้มบ้างเป็นเรื่องธรรมดาต้องเผื่อใจไว้บ้าง ความสำเร็จคือรางวัลก็จริงความล้มเหลวก็คือหนึ่งบทเรียน บทเรียนที่ทำให้เราต้องพยายามมากขึ้น นี่แหละคือการคิดบวกอีกอย่างหนึ่ง จงขอบคุณทุกอย่างที่คุณเจอเพราะมันทำให้คุณได้เรียนรู้จากความผิดพลาดและเติบโตอีกก้าวหนึ่ง ไม่ว่าคุณจะร้องไห้ซักแค่ไหนหรือกำลังเผชิญกับสิ่งที่เลวร้ายหรือแย่มากแค่ไหน กำลังรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง และหาหนทางไม่เจอ อย่าลืมบอกตัวเองด้วยว่า เรารักเธอนะ เราจะไม่ทำร้ายเธอ เราจะต้องเข้มแข็ง และกล้าที่จะเผชิญกับทุกอย่าง เราต้องมีความสุข ยิ้มให้ตัวเอง และสู้ต่อไปนะ (^_^)ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.bumrungrad.com/th/conditions/depression https://med.mahidol.ac.th/ramamental/generalknowledge/general/09042014-1017 เครดิต รูปภาพ: SukanyaJ