หลายคนคงเคยได้ยินมาว่า "การนอนหลับ" สำคัญมาก แต่รู้หรือไม่ว่า "การนอนหลับลึก" นั้นสำคัญยิ่งกว่า! จากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียน เคยมีช่วงหนึ่งที่นอนน้อย นอนไม่หลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลต่อทั้งร่างกายและจิตใจ รู้สึกอ่อนเพลีย อารมณ์แปรปรวน สมองล้า ทำงานไม่ไหวยกตัวอย่าง ช่วงนั้นผู้เขียนตื่นเช้าไปทำงาน แต่เข้านอนดึก รู้สึกเหมือนนอนไม่เต็มอิ่ม ตื่นนอนมาแล้วรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง สมองล้า คิดอะไรช้าลง ทำงานผิดพลาดบ่อย อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย จนกระทั่ง ได้ลองปรับพฤติกรรมการนอน เน้นการนอนหลับลึกให้มากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือ รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า สมองแล่น อารมณ์ดี ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้วการนอนหลับลึก กี่ชั่วโมง ถึงจะดี?ผู้ใหญ่ทั่วไป ควรนอนหลับ 7-9 ชั่วโมงต่อวันช่วงเวลาการนอนหลับลึก ควรอยู่ที่ 13-23% ของเวลาที่นอนตัวอย่างเช่น หากนอน 7 ชั่วโมง ควรนอนหลับลึก 55-97 นาทีวิธีเพิ่มการนอนหลับลึกเข้า-ออกนอนเป็นเวลา : การเข้านอนและตื่นนอนเป็นเวลา จะช่วยปรับนาฬิกาชีวภาพของร่างกายให้คุ้นเคย ทำให้ร่างกายรู้ว่าถึงเวลาต้องนอนและตื่นสร้างบรรยากาศห้องนอนให้น่าหลับ : ปรับอุณหภูมิห้องให้เย็นสบาย ปิดไฟให้มืดสนิท เลือกที่นอนและหมอนที่รองรับสรีระหลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนนอน : คาเฟอีนจะกระตุ้นระบบประสาท ทำให้ร่างกายตื่นตัว นอนหลับยากงดเล่นมือถือ ดูทีวี ก่อนนอน : แสงสีฟ้าจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือและทีวี จะรบกวนการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้นอนหลับออกกำลังกายสม่ำเสมอ : การออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย นอนหลับง่ายเพิ่มเติม:การนอนหลับลึก จะช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ฟื้นฟูระบบต่างๆ ของร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันการนอนหลับไม่เพียงพอ หรือนอนหลับไม่ลึก ส่งผลเสียต่อร่างกายหลายอย่าง เช่น อ่อนเพลีย อารมณ์แปรปรวน สมองล้า ทำงานไม่มีประสิทธิภาพการปรับพฤติกรรมการนอน เพียงเล็กน้อยน้อย ก็สามารถช่วยเพิ่มการนอนหลับลึกได้ลองปรับพฤติกรรมการนอน เน้นการนอนหลับลึกให้มากขึ้น รับรองว่าคุณจะรู้สึกดีขึ้นอย่างแน่นอน!ภาพปก โดย Niels Zee จาก Pixabayภาพ 1 โดย Jess Foami จาก Pixabayภาพ 2 โดย Jess Foami จาก Pixabayภาพ 3 โดย Pexels จาก Pixabayภาพ 4 โดย Luisella Planeta LOVE PEACE 💛💙 จาก Pixabayอยากผอมหุ่นดี อยากมีซิกแพค หาอินสปายลดน้ำหนัก เข้าร่วมด่วนที่ฟิตแอนด์เฟิร์มคอมมูนิตี้