Say Hi ค่ะทู๊กกกกคนวันนี้จะมาขอรีวิวผ่าต่อมทอนซิล การผ่าตัดครั้งแรกในชีวิตกันค่าา ขอเกริ่นก่อนน้า...บัวเป็นมนุษย์คนนึงที่มีปัญหากับต่อมทอนซิลมาตลอดทั้งชีวิต รู้จักการกินยาปฏิชีวะตั้งแต่ประถม เพราะต่อมทอนซิลอักเสบ พอเป็นบ่อยเข้าปีละหลายรอบ ทอนซิลมันก็โตขึ้นและขรุขระ แล้วก็มีกลิ่นในคอ แล้วมันก็ชอบมีเหมือนก้อนออกเหลืองเขียวออกมา เพิ่งมารู้ว่ามันเรียกว่าทอนซิลสโตนค่ะ ไอ้เจ้าตัวเนี่ยตัวดีเลย กลิ่นบรรลัยมาก บัวรู้ตัวนะว่าเวลาพูดอะมันจะมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา จะกลิ่นแรงมากหรือน้อยแล้วแต่ช่วงแต่ก็มีกลิ่นอะ หาสารพัดวิธีมาแก้ ไม่หาย จนเลิกแก้ และหันมาเป็นคนที่พกยาอม และสเปรย์ดับกลิ่นปาก แต่เพื่อน ๆ คะ มันก็ดับได้แค่ชั่วครู่ พอยิ่งอายุมากขึ้น เรายิ่งไม่มั่นใจเวลาพูด ทำให้รู้ตัวเลยว่า พูดในคอ พูดเสียงเบา จริง ๆ เรากลัวคนอื่นเหม็นปากเราค่ะ จุดเริ่มต้นที่ทำให้ต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลจริงจัง คือ เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ทอนซิลเป็นหนองหนัก และบวม เวลามองเข้าไปในคอ เหลือช่องนิดเดียว แล้วเราหายใจไม่ค่อยสะดวกค่ะ โดยเฉพาะเวลานอน กินยาปฏิชีวนะที่เรียกว่า Amoxy ที่เคยกินแล้วไม่หาย ไปหาหมอคลินิก ก็โดนยาที่แรงกว่า Amoxy มากิน บวกกับฉีดยาด้วย หนองยุบค่ะทุกคน แต่พอยาหมด มันกลับมาเป็นอีก เริ่มเครียดว่าทำไมไม่หาย อาจดื้อยาแล้ว เวรกรรม เลยตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา (สิทธิประกันสังคม) หมอก็ให้ยา แต่เปลี่ยนชนิดของยาแล้วก็นัดมาดูอาการ ปรากฏว่าดีขึ้น แต่หมอก็ถามเราว่าเป็นบ่อยมั้ย เราก็เล่าให้หมอฟัง จนบทสรุป เราได้ผ่าทอนซิลเจ้าปัญหาออกไปจากชีวิตเราซักทีหมอทำนัดให้ และนัดเรามาโรงพยาบาลเพื่อตรวจเลือด เอกซเรย์ปอด และพบหมอเพื่อดูว่าทอนซิลเป็นไงบ้าง หนองเรายุบไปแล้วค่ะ แล้วก็ไม่ได้มีหนองอีกตลอดเวลาที่กินยาหมอ แต่ต่อมยังคงโตหมอให้เรายาปฏิชีวนะเรามาอีก 1 เซต สำหรับกิน 7 วัน ก่อนถึงวันผ่าตัดณ โรงพยาบาล วันผ่าตัดทางโรงพยาบาลนัด Admit 8.00 น. เค้าจะให้เราไปที่ห้องดูแลสิทธิ ยื่นใบนัด และบัตรประชาชน พี่เค้าจะใส่สายรัดข้อมือผู้ป่วย แล้วจะมีเจ้าหน้าที่พาไปขึ้นรถกอล์ฟหน้าโรงพยาบาล พาไปตึกเก่า ชั้น 4 ห้องผู้ป่วยศัลยกรรมหญิง 20 เตียง พัดลม มีพัดลมตั้งให้ข้างเตียงด้วยค่ะเพื่อน ๆ ฮาตาริเย็นสดชื่นพี่พยาบาลจะมาวัดไข้ วัดความดัน และออกซิเจนในเลือด พร้อมซักประวัตินิดหน่อย ให้ชุดไปเปลี่ยนในห้องน้ำ ถอดเครื่องในออกหมด ยกเว้น ถ้าอยู่ระหว่างเป็นประจำเดือนให้แจ้งพี่พยาบาลค่ะ พอเปลี่ยนชุดเสร็จ พี่พยาบาลจะมาเจาะสายน้ำเกลือที่มือ ให้น้ำเกลือ แล้วเราก็รอยาว ๆ ไป เราโชคดีมากเลยอะ รู้สึกว่าพี่เค้ามือเบา เราไม่เจ็บเลย หรือเราตายด้านกับเข็มไปแล้ว ฮ่า ๆในระหว่างรอ มีวัดความดันอีก 2 รอบ และพอเวลาประมาณเที่ยงครึ่ง พี่พยาบาลก็ถามว่าไปห้องน้ำมั้ย เพราะห้องผ่าตัดตามแล้ว เราก็เข้าห้องน้ำ รอซักพักก็มีเตียงมารับ เราออกจากศัลยกรรมหญิง ตอน 12.45 น. เข็นไปห้องผ่าตัด รอซักพัก ก็เข้าห้องผ่าตัด ก็จะมีพี่พยาบาลเอาอะไรมาแปะตามตัว แล้วก็มีให้ดมออกซิเจน แล้วเราก็ภาพตัดค่ะ ฮ่า ๆ ๆ มาโผล่อีกที ก็นอกห้องผ่าตัด พอเราเริ่มมีสติ พอลืมตาได้ คุยรู้เรื่อง เราก็ย้ายเตียง กลับมาศัลยกรรมหญิง พอเรากลับมา เราก็นอนเป็นตาย ในระหว่างนั้น ก็จะมีวัดความดัน กะออกซิเจนในเลือด สถิตอยู่ที่แขนเรา แล้วเครื่องมันก็จะวัดเรื่อย ๆ แล้วพี่พยาบาลก็จะมาวัดไข้อีกเป็นรอบๆThis is อาหารมื้อแรกค่ะ เราได้อาหารเป็นของเหลวเย็น เราเรียกอาหารเหลวเย็นนี้ว่า "น้ำเชื่อม" เราก็ไม่รู้นะคะว่ามันคืออะไร แต่มันหวาน ๆ หอม ๆ ดีคืนแรกผ่านไป โชคดีที่อากาศไม่ได้ร้อนมาก เช้าวันต่อมาเราตื่นมาเราอาบน้ำ ตอนแรกกะจะเช็ดตัว แต่เราร้อน เหงื่อออก ที่นี่ มีฝักบัว อาบสบายเลยค่ะ มีอ่างล้างหน้า มีสบู่เหลวล้างมือ มีกระดาษทิชชูมีชุดให้เปลี่ยนวันละ 1 เซต จากปกติที่อาบน้ำวันละ 2 ครั้ง พอมีสายน้ำเกลือพ่วงเลยโอเค วันละครั้งพอ ฮ่า ๆ เลือกเอาเลยค่ะจะอาบเช้าหรือเย็น แต่บัวอาบเช้า เพราะถ้าไม่อาบเช้าไม่ไหวจริง ๆ มันเหนอะหนะในระหว่างวันพี่พยาบาลก็จะเอา Cold Pad มาให้ประคบคอค่ะคืนแรกเป็นคืนที่ทรมานที่สุดเลยค่ะ เพราะบัวหายใจทางจมูกไม่ได้เลย ต้องหายใจทางปาก เสมหะเต็มจมูกเต็มคอไปหมด คุณหมอบอกให้กินน้ำจิบ ๆ เรื่อย ๆ แล้วก็ให้ยาขับเสมหะค่ะ วันที่ 2 ก็เหลวเย็นเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือนมโฟโมสต์บัวอยู่โรงพยาบาลทั้งหมด 2 คืน (ขึ้นอยู่กับการประเมินแผลของคุณหมอนะคะ) แล้วคุณหมอก็ให้กลับบ้านได้ค่ะ ยาที่ได้กลับมาก็จะมียาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวด/ลดไข้ และยาละลายเสมหะค่ะพอกลับมาบ้าน ก็ใช้ชีวิตแบบคนไม่มีแรง หิวข้าวมากกก แต่ก็กินของเหลวเย็นต่อไป ฮึบบบบบบพอเข้าวันที่ 4 หลังผ่าตัด เราก็เริ่มกินไข่ตุ๋นค่ะ ไข่ตุ๋นเซเว่น สีฟ้ากะเหลืองอร่อยดี อย่ากินอันที่มันเป็นเกล็ด ๆ เนื้อ ๆ น้าา กินแค่ไข่ก่อนและวันที่ 5 เรากินโจ๊ก โจ๊กหม้อไอซ์ ฮ่าาา โจ๊กแช่แข็งของเซเว่นนี่อร่อยมาก ณ เวลานั้น (ปล. โจ๊กคัพที่มันเป็นผง ๆ มาอะค่ะ บัวไม่แนะนำอะ เพราะเนื้อสัมผัสมันจะสาก ๆ เกล็ด ๆ มาก ตอนทำให้มันเย็น กินโจ๊กแบบเวฟเอาดีกว่าเนอะ เนื้อจะละมุนกว่า บัวลองมาทุกโจ๊กละ ฮ่าๆ )อีกอย่างนึงที่ประทังหิวได้ดีเลย คือ เต้าฮวยมะพร้าวอ่อนของเซเว่นค่ะ อร่อยดี กินแต่เนื้อเต้าฮวยกับน้ำของมันก่อนน้า เนื้อมะพร้าวยังไม่ได้ ฮรือ ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดบัวใช้สิทธิประกันสังคม ผ่าตัดทอนซิลรอบนี้ก็จ่ายไปปัดกลม ๆ ก็ 1,800 บาทค่ะ บัวไม่ได้เสียส่วนต่างค่าห้อง เพราะเลือกนอนห้องผู้ป่วยศัลยกรรมหญิง เป็นห้องรวม 20 เตียง (พัดลม) ซึ่งห้องพักเนี่ยมี 3 แบบให้เลือกนะคะ1. ห้องพิเศษ อันนี้รู้สึกว่าจะ 4,000 บาท/คืน และต้องมีญาติมาเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ2. ห้องรวม (พิเศษ) ราคา 2,000 บาท/คืน 3. ห้องรวม (พัดลม) <<< ซึ่งถ้าเลือกข้อนี้ ก็ประกันสังคมออกค่าห้องให้ได้แบบไม่ต้องจ่ายเพิ่มค่ะ คือ คืนละ 700 บาทเรื่องราคาห้องพัก และสิทธิต่าง ๆ สอบถามศูนย์สิทธิ รพ.ม.บูรพาได้นะคะ สิ่งที่(บัวคิดว่า)ต้องเตรียมมา1. อุปกรณ์อาบน้ำ เครื่องใช้ส่วนตัว ผ้าขนหนู (เอาผืนเล็ก ๆ ก็พอค่ะ เอาแบบพอพาดกับราวเตียงได้)2. แก้วเยติ + น้ำแข็งฝากญาติซื้อมา แล้วฝากพี่พยาบาล แช่ตู้เย็นไว้ค่ะ3. ทิชชู ทิชชูเปียก4. สเปรย์แอลกอฮอล์5. ถุงผ้า เอาไว้ใส่ผ้าเปื้อน/ใส่ของไปอาบน้ำ6. ชุดสำหรับใส่กลับบ้าน7. น้ำเกลือ ไว้สำหรับบ้วนปากแทนการแปรงฟันค่ะ / เอาแก้วน้ำมาด้วยนะคะ สุดท้ายนี้ขอขอบคุณคุณหมอ พี่ ๆ พยาบาล ทุกคนที่ช่วยดูแลน้องคนนี้เป็นอย่างดีค่ะ ดีใจที่รอดชีวิตมาได้ หลังจากนี้จะตั้งใจใช้ชีวิตที่เหลือให้สนุก ๆ แล้วจะมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังน้าาาGood Bye Tonsil, I feel reborn.ภาพหน้าปกโดยผู้เขียน ตกแต่งด้วย Canvaภาพประกอบที่ 1 โดย Freepikภาพประกอบที่ 2,3,4,5,6 โดยผู้เขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !