Visceral Fat คืออะไร ? หากพูดถึง Fat หลายคนเข้าใจว่ามันคือไขมัน แต่ไขมันก็มาในรูปแบบที่แตกต่างกันไป และมีความอันตรายต่อร่างกายแตกต่างกัน ไขมันที่คนส่วนมากรู้จักคือ ไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งไขมันชนิดนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่มีไขมันที่อันตรายและน่ากลัวกว่าที่คิด นั่นก็คือ Visceral Fat วันนี้เราจะมาพูดถึง Visceral Fat ไขมันอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมีความอันตรายต่อร่างกายอย่างมาก มันคือไขมันบริเวณภายในช่องท้อง เป็นไขมันที่อยู่ลึกลงไปในช่องท้องของเรา ซึ่งไขมันพวกนี้จะเข้าไปเกาะตามอวัยวะภายในร่างกาย ไขมันจำพวกนี้เป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรค หลายคนอาจจะเคยได้ยินภาะวะไขมันเกาะตับ ภาวะไขมันเกาะหัวใจ ภาวะไขมันในหลอดเลือด ฯลฯ ซึ่ง Visceral Fat เกิดจากการที่เราทานอาหารจำพวกไขมันเป็นจำนวนมาก แล้วร่างกายไม่สามารถเผาผลาญได้หมดเกิดการสะสมไขมัน นอกจากการทานไขมันเป็นจำนวนมาก เกิดเป็นภาวะสะสมไขมันแล้ว น้ำตาลและแป้งก็ส่งผลให้เกิด Visceral Fat ได้เช่นกัน เนื่องจากน้ำตาลและแป้งที่ทานเข้าไปสามารถเปลี่ยนเป็นไขมันได้นั่นเอง ภาพถ่ายโดย macrovector / freepik.com แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ามี Visceral Fat ? Visceral Fat สามารถวัดได้จากการเจาะเลือด การชั่งเครื่องชั่งดิจิตอล หรือคำนวณค่าจากสายวัด วันนี้เราจะมาแนะนำการหาค่า Visceral Fat จากการคำนวณค่าจากสายวัดกัน มีวิธีตรวจสอบอย่าง่ายว่าคุณมี Visceral Fat มากเกินไปหรือไม่ วิธีนี้เรียกว่า Waist-to-Hip Ratio Measurement วิธีนี้ใช้เพียงสายวัด จุดแรกให้วัดที่เอว โดยห้ามแขม่วท้อง จุดที่สองให้วัดที่ส่วนที่กว้างที่สุดของสะโพก จากนั้นนำค่าที่ได้มาคำนวณ ดังนี้ ค่า Waist-to-Hip Ratio = รอบเอว ÷ รอบสะโพก ในผู้ชาย ถ้าค่าที่ได้ มากกว่า 0.95 แสดงว่ามี Visceral Fat มากเกินไป ในผู้หญิง ถ้าค่าที่ได้ มากกว่า 0.80 แสดงว่ามี Visceral Fat มากเกินไป ภาพถ่ายโดย spukkato / www.freepik.com อย่าใช้เงินไปกับการกินผิด ๆ แล้วนำเงินที่หามาได้มารักษาตัวเองในอนาคต แต่จงใช้เงินกับการกินสารอาหารที่ดี เพื่อมีเงินเก็บในอนาคต ภาพถ่ายโดย sunapple / www.freepik.com แล้วเราสามารถแก้ปัญหา Visceral Fat ที่เกินได้อย่างไร ? เราสามารถแก้ปัญหาการเกิด Visceral Fat ได้ โดยเริ่มต้นที่สาเหตุของปัญหา นั่นคือ อาหารที่เราทาน เนื่องจาก Visceral Fat เกิดจากการสะสมของไขมันจากการที่ร่างกายเผาผลาญไม่หมด ดังนั้นต้องเริ่มจากการเลือกทาน ทานอาหารที่ได้สารอาหาร แคลลอรี่ต่ำ เช่น โปรตีนที่ได้จากพืช แป้งไม่ขัดสี วิตามิน เกลือแร่ ที่เพียงพอต่อร่างกายต้องการ และไขมันดี การเลือกทานสารอาหารที่เพียงพอและครบถ้วนนั้น จะทำให้ระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การอดอาหารหรือการทานน้อยจนเกินไป นั่นหมายถึง การที่ร่างกายต้องปรับการเผาผลาญให้เท่าพลังงานที่ร่างกายได้รับ หากเราทานมากกว่าปกติ จะทำให้ระบบเผาผลาญพัง ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญพลังงานได้สมบูรณ์ เกิดการกักเก็บไขมัน เกิดเป็น YOYO Effect นั่นเอง และส่งผลให้เกิด Visceral Fat ตามมา นอกจากการเลือกทานแล้ว การออกกำลังกายก็มีช่วยเผาผลาญไขมันและเปลี่ยนไขมันเป็นกล้ามเนื้อได้เช่นกัน แต่ต้องศึกษาการออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อเพิ่มเติม ภาพถ่ายโดย rawpixel.com / www.freepik.com นี่ก็เป็นข้อมูลดี ๆ ที่เราอยากแนะนำ หากคุณกำลังใช้ชีวิตเต็มที่กับการกิน ลองหันมาเลือกกินสารอาหารที่ดี แค่นี้ก็ทำให้คุณมีความสุขกับสุขภาพที่ดีและใช้ชีวิตกับการกินได้อีกนาน หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับการดูแลสุขภาพของคุณ ภาพหน้าปกโดย Piyaporn.Jan