เชื่อว่าหลายๆคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ ต้องเคยเป็นโรคยอดฮิตโรคนี้นั่นก็ คือ โรคกระเพาะอาหารตัวผู้เขียนเองก็เคยเป็นเช่นกัน วันนี้ผู้เขียนจะพามาทำความรู้จักกับโรคนี้ให้มากขึ้น โรคกระเพาะอาหาร หรือ Dyspepsia เป็นโรคที่เกิดจากการทำงานของกรดในกระเพาะอาหารหลั่งกรดในกระเพาะอาหารมากจนเกินไป เป็นเหตุทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารของเรานั่นถูกทำลายไปด้วย เรามาดูสาเหตุกันว่ามีปัจจัยใดที่ก่อให้เกิดหรือมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระเพาะอาหารได้บ้างสาเหตุ พฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ไม่เหมาะสม เช่น ทานข้าวไม่ตรงเวลา ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลมมากเกินไป สูบบุหรี่ ภาวะเครียดการรับประทานยาจำพวกยาแก้ปวดบ่อยครั้ง เช่น แอสไพริน ไอบิวพรอเฟนการติดเชื้อแบคทีเรีย H.pylori ลักษณะอาการ อาการที่เเสดงออกขึ้นอยู่กับเเต่ละบุคคล เนื่องจากร่างกายของคนเราแตกต่างกันแสบท้อง ปวดท้องสัมพันธ์กับมื้อก่อนทานเเละหลังทานอาหารปวดท้องเป็นๆ หายๆทานอาหารแล้วรู้สึกอาหารไม่ย่อย รับประทานแล้วอิ่มเร็ว เเม้จะทานเเล้วก็มีร้องท้องคลื่นไส้อาเจียนปวด จุก เสียด แน่นบริเวณใต้ลิ้นปี่ แนวทางในการรักษาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร การใช้ชีวิตในประจำวัน โดยการทานอาหาร ให้ตรงเวลาในทุกๆมื้อทุกวัน ทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน เพื่อเป็นการช่วยลดการทำงานของกระเพาะอาหารไม่ให้ทำงานย่อยอาหารที่เราทานหนักจนเกินไป ควรเข้ารับการรักษาจากแพทย์ ทานยาตามที่แพทย์สั่ง ปฏิบัติตามเเพทย์สั่งให้สม่ำเสมอไม่เครียด พักผ่อนให้เพียงพอ หากิจกรรมทำ เช่น การออกกำลังกาย เล่นโยคะงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ น้ำอัดลมงดสูบบุหรี่งดของหมักของดองงดอาหารรสจัด รับประทานอาหารรสอ่อน อาหารที่ทานเเล้วย่อยง่าย เช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ ข้าวต้ม โจ๊ก ผลไม้ที่ช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร เช่น กล้วย มะละกอ เป็นต้น ภาพทั้งหมดโดย Sherrary โรคกระเพาะอาหารโดยส่วนใหญ่มักเกิดจากพฤติกรรมจากทานอาหารที่ไม่ตรงเวลา จนทำให้เกิดการหลั่งของกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป เป็นเหตุทำให้เนื้อเยื่อกระเพาะอาหารถูกทำลายและเป็นแผล จนแสดงอาการออกมาอย่างเห็นได้ชัด เช่น ปวดท้อง แสบท้อง สัมพันธ์กับมื้ออาหาร อาหารไม่ย่อย หรือเป็นหนักจนต้องเข้าพบแพทย์ วิธีการบรรเทาหรือรักษาให้หายจากโรคนี้ ผู้ป่วยควรเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารให้ตรงเวลามากขึ้น เลี่ยงการทานอาหารที่มีรสจัด มีกรด ทานอาหารรสอ่อน ทานผลไม้ที่ช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร เช่น กล้วย มะละกอ เพื่อเป็นการสมานแผลที่เกิดในกระเพาะอาหาร แอดเองอยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเป็นโรคนี้อยู่และดูแลตัวเองให้มากขึ้นกันนะคะถ้าชอบอย่าลืมกดไลก์ กดแชร์ กดติดตามด้วยนะคะ เรามีเกร็ดความรู้อีกหลายอย่างมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านเเละทำความเข้าใจกัน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !