ทุกวันนี้เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในเชิงของการดำเนินธุรกิจและดำรงชีวิตเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสาร การขนส่ง การสั่งอาหาร แต่ในวันนี้เราจะมาพูดถึงธุรกิจการดูแลสุขภาพ ซึ่งอาจจะกำลังปรับเปลี่ยนเข้าสู่ยุค New Normal ที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อความสะดวกมากยิ่งขึ้น ดังนี้1) การพบแพทย์ผ่านโทรศัพท์มือถือ (Telemedicine)ในอนาคตอันใกล้ เราอาจไม่ต้องนั่งรอคิวที่โรงพยาบาลนาน ๆ เพื่อรอพบหมอแค่ 5 นาทีเพราะภูมิแพ้กำเริบ แถมระหว่างนั่งรอคิวยังเสี่ยงที่จะติดเชื้ออื่น ๆ ในโรงพยาบาลอีก โรงพยาบาลสามารถทำ application ขึ้นมาให้ผู้ป่วยสามารถนัดและพบแพทย์ในเวลาที่สะดวก อีกทั้งทางโรงพยาบาลยังสามารถจ่ายยาให้ผู้ป่วยทางไปรษณีย์ได้อีก อะไรจะสะดวกขนาดนี้นะ!2) การเก็บข้อมูลสุขภาพของแต่ละบุคคล (Big Data) แพทย์สามารถบันทึกอาการของผู้ป่วยหลายล้านคนลงในระบบที่สามารถเก็บข้อมูลจำนวนมากได้ โดยที่ไม่ต้องเขียนลงบนกระดาษแบบทุกวันนี้ นอกจากนี้ยังนำข้อมูลของผู้ป่วยมาวิเคราะห์ด้วยระบบ Artificial Intelligence หรือ AI ซึ่งมีความแม่นยำและรวดเร็วในการวิเคราะห์โรครักษาผู้ป่วยอีกด้วย3) อุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาสวมใส่เพื่อประมวลผลสุขภาพ (Wearable Medical Devices) โดยปกติแล้วมนุษย์เราคงไม่อยากไปโรงพยาบาลหรอกจริงไหม แม้ว่าจะเป็นการตรวจสุขภาพปีละครั้งก็เถอะ จะดีกว่าไหมถ้ามีอุปกรณ์ที่เราสามารถใส่ ติดหรือแปะไว้ที่ร่างกายของเรา แล้วอุปกรณ์นั้นๆสามารถเชื่อมโยงกับ application และประมวลผลสุขภาพของเราได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ การวัดน้ำตาลในเลือด การวัดระดับออกซิเจนในเลือด และยังสามารถประมวลผลการออกกำลังกายของเราได้อีกด้วย นอกจากนี้ หากพบความผิดปกติหลังจากการวิเคราะห์ข้อมูลโดยอุปกรณ์เหล่านี้แล้ว ระบบยังสามารถส่งข้อมูลไปที่โรงพยาบาลเพื่อส่งให้รถโรงพยาบาลมารับถึงที่บ้านได้เลย เราคงเห็นแล้วว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตของคนเราเป็นอย่างมาก เราต้องถามตัวเองแล้วแหละว่า เราพร้อมที่จะเข้าสู่ยุค New Normal ในการดูแลสุขภาพแล้วหรือยัง ยุคที่อะไร ๆ ก็จะสะดวก รวดเร็วและปลอดภัยต่อการดำรงชีวิตมากยิ่งขึ้น ขอบคุณรูปภาพหน้าปก : Canvaขอบคุณภาพประกอบ : ภาพประกอบที่ 1/ ภาพประกอบที่ 2 / ภาพประกอบที่ 3