ปกติคนเราทุก ๆ คนเมื่ออายุย่างเข้า 30 ปีขึ้นไปจะเป็นช่วงที่สำคัญในการดูแลรักษากระดูกของเราเอง เพราะเมื่อเราแก่ตัวลงกระดูกของเราก็จะบางขึ้น ซึ่งจะเป็นความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุนและกระดูกเปราะ ดังนั้นแล้วเราควรดูแลรักษากระดูกของเราเองตั้งแต่เนิ่น ๆ ตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ อย่าทันให้ถึงอายุ 30 ปีขึ้นไปแล้วเพิ่งจะนึกคิดที่จะดูแลรักษากระดูกของตนเอง ซึ่งถึงแม้ว่าบางคนอาจจะอายุ 30 ปีขึ้นไปหรือเกือบ ๆ 30 ปี ไม่ใช่ว่าจะสายเกินไปในการดูแลรักษากระดูก สำหรับวันนี้ผู้เขียนเองจะมาแนะนำ 6 วิธีธรรมชาติง่าย ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กระดูกของเราเองให้สามารถใช้งานได้จนกระทั่งแก่ชรากันเลยทีเดียว1.รับประทานผักผลไม้เยอะ ๆ ผักเป็นหนึ่งในอาหารที่ดีที่สุดที่สามารถเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกได้เป็นอย่างดีและการบริโภคผักสีเขียวและสีเหลืองสามารถช่วยเพิ่มแร่ธาตุในกระดูกของเด็กและรักษามวลกระดูกในผู้ใหญ่ได้ดีด้วยเช่นกัน ซึ่งไม่เพียงเท่านั้นผักยังมีวิตามินซีที่สามารถกระตุ้นการสร้างเซลล์สร้างกระดูก ในความเป็นจริงสารต้านอนุมูลอิสระในวิตามินซียังสามารถป้องกันเซลล์กระดูกจากความเสียหายหรือเกิดการแตกหักของกระดูกอีกด้วย จากการศึกษาวิจัยพบว่าผู้หญิงอายุ 50 ปีขึ้นไปพบว่าบรอกโคลี , กะหล่ำปลีหรือผักอื่น ๆ สามารถป้องกันความเสียหายของกระดูกได้ ดังนั้นอย่าพลาดการรับประทานผักในอาหารประจำวันของคุณในทุก ๆ วัน( Pixabay )2.เสริมสร้างกระดูกด้วยการยกน้ำหนักหนึ่งในประเภทการออกกำลังกายที่ดีที่สุดเพื่อรักษาสุขภาพกระดูกคือการออกกำลังกายกน้ำหนัก เพราะการออกกำลังกายประเภทนี้สามารถกระตุ้นให้เกิดการสร้างกระดูกใหม่และป้องกันการสูญเสียกระดูกได้ จากการศึกษาเกี่ยวกับชายและหญิงที่เข้าสู่วัยชราการฝึกยกน้ำหนักสามารถเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกและลดการอักเสบของกระดูก การออกกำลังกายประเภทนี้สามารถช่วยป้องกันกระดูกจากการสูญเสีย รวมถึงโรคกระดูกพรุนและผู้ป่วยมะเร็งเต้านม( pixabay )3.เสริมสร้างกระดูกด้วยการรับประทานอาหารจำพวกโปรตีนกระดูกประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ทำจากโปรตีน ซึ่งหากคุณต้องการให้กระดูกของคุณแข็งแรงและมั่นคงคุณต้องตอบสนองความต้องการของกระดูกโดยการรรับประทานอาหารจำพวกที่มีโปรตีนในชีวิตประจำวันของคุณ นักวิจัยเปิดเผยว่าการบริโภคโปรตีนต่ำจะทำให้ลดการดูดซึมแคลเซียมในกระดูก เป็นผลให้กระบวนการในการสร้างกระดูกถูกยับยั้งและกระดูกจะเปราะบาง แตกหักง่าย ดังนั้นตอบสนองความต้องการโปรตีนในชีวิตประจำวันของคุณด้วยการกินแหล่งโปรตีนที่ดี เช่น ปลา เนื้อสัตว์ ไข่ ชีส นมและอื่น ๆ อาหารที่มีแคลอรี่และโปรตีนสูงสามารถช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ในขณะที่รักษาระดับกระดูกด้วยเช่นกัน ( pixabay )4.รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงแคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่สำคัญที่สุดและพบมากที่สุดในกระดูก เหตุผลก็คือแร่ธาตุนี้ทำหน้าที่แทนที่เซลล์กระดูกเก่าและเซลล์ที่เสียหายด้วยเซลล์กระดูกใหม่ สำหรับปริมาณแคลเซียมที่จำเป็นสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ประมาณ 1,000 ถึง 1,100 มิลลิกรัมต่อวัน คุณสามารถเติมเต็มได้ด้วยการกินแหล่งแคลเซียม เช่น นม ชีส ไข่ บรอกโคลี ผักโขม และอื่น ๆ ( pixabay )5.รับประทานวิตามิน D และ วิตามิน Kวิตามิน D และวิตามิน K เป็นวิตามินสองชนิดที่สำคัญสำหรับการสร้างกระดูกให้แข็งแรง วิตามิน D มีประโยชน์ในการช่วยดูดซึมแคลเซียม ในขณะที่วิตามิน K มีบทบาทในการกระตุ้นโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและการพัฒนาของวิตามิน ซึ่งคุณสามารถได้รับวิตามิน D เพียงพอโดยการรับแสงแดดเป็นประจำในตอนเช้าและรับประทานอาหารที่มีวิตามิน D เช่น ปลาที่มีไขมันตับและชีส หากจำเป็นคุณสามารถทานอาหารเสริมที่มีวิตามิน D 2,000 IU ทุกวันเพื่อรักษาความหนาแน่นของกระดูกตามคำแนะนำของแพทย์ ในขณะเดียวกันวิตามิน K2 เป็นวิตามินเคชนิดหนึ่งที่ช่วยผูกแร่ธาตุในกระดูกและป้องกันการสูญเสียแคลเซียมในกระดูก ( pixabay )6.รักษาระดับน้ำหนักร่างกายของตนเองให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมพอดีนอกเหนือจากการรับประทานอาหารที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและการออกกำลังกาย การรักษาน้ำหนักของร่างกายเป็นเรื่องที่สำคัญด้วยเช่นกัน เนื่องจากหากเรามีน้ำหนักที่เยอะเกิน ร่างกายของเราก็จะรับน้ำหนักตัวเยอะและจะเป็นสาเหตุให้กระดูกของเราอ่อนแอและเสียหายได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับผู้ที่มีน้ำหนักตัวพอเหมาะกับร่างกายตนเอง( pixabay )ดังนั้นเราทุก ๆ คนควรรักษากระดูกของตนเองตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะกระดูกเป็นสิ่งสำคัญของร่างกาย ถ้าหากกระดูกเราอ่อนแอหรือเปราะปางก็จะทำให้ร่างกายของเราเสียสมดุล อาจจะปวดเมื่อยบ่อยบ้าง เป็นปัญหาโรคต่าง ๆ เกิดขึ้นได้ง่ายบ้าง ฉะนั้นเราจึงไม่ควรบ่อยผ่านปัญหาดังกล่าว เราควรที่จะรักษาดูแลกระดูกเป็นอย่างดี จากวิธีง่าย ๆ ดังกล่าว 6 วิธีที่เราสามารถทำได้ด้วยตนเองภาพหน้าปก free photo จาก pixabay