เมื่อพูดถึงกระเจี๊ยบเขียว คุณผู้อ่านก็คงจะนึกออกถึงลักษณะที่เป็นฝักสีเขียว รูปทรงยาวคล้าย ๆ กับนิ้วมือ ซึ่งฝักของกระเจี๊ยบนี้จะเป็น จะมีสันเป็นเหลี่ยมตามยาวห้าเหลี่ยม บริเวณฝักก็จะมีขนอ่อน ๆ เล็ก ๆ อยู่ทั่วฝัก คนส่วนใหญ่นิมนำกระเจี๊ยบมาทำอาหารเพื่อรับประทาน กระเจี๊ยบนำมาประกอบอาหารรับประทานได้หลายเมนูไม่ว่าจะเป็น ผัดใส่ไข่หรือลวกจิ้มกับน้ำพริก ก็ช่วยให้เมนูนั่น ๆ อร่อยมากยิ่งขึ้น แล้วคุณผู้อ่านรู้หรือไม่คะว่า เมือกที่อยู่ในกระเจี๊ยบเขียวนั้นมีสรรพคุณในการรักษาโรคได้เป็นอย่างดี อยากรู้ว่าเมือกของกระเจี๊ยบเขียวมีสรรพคุณอะไรบ้างตามไปอ่านพร้อมกันเลยค่ะสรรพคุณของเมือกกระเจี๊ยบ1. แก้ร้อนในเมือกใส ๆ ที่อยู่ในฝักของกระเจี๊ยบเขียวนั้น เวลาที่เรานำกระเจี๊ยบมาประกอบอาหาร เวลาที่เราหั่นกระเจี๊ยบนั้นจะสังเกตได้เลยว่ามีเมือกใส ๆ อยู่ในฝักของกระเจี๊ยบ ซึ่งเมือกเหล่านั่นล่ะค่ะที่ช่วยแก้อาการร้อนในได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะนำกระเจี๊ยบมาประกอบอาหารรับประทานจะเป็นประเภทผัดหรือลวกจิ้มน้ำพริกก็ช่วยแก้อาการร้อนในให้เป็นอย่างดีค่ะ เมือกที่อยู่ภายในกระเจี๊ยบนั้นเมื่อเรารับประทานเข้าไปแล้ว เมือกที่อยู่ในกระเจี๊ยบนี้จะไปช่วยปรับสมดุลอุณหภูมิในร่างกายให้อยู่ในระดับปกติ โดยสามารถควบคุมอุณหภูมิที่ร้อนเกินไป แต่ไม่ได้หมายถึง อาการร้อนที่เกิดจากไข้หวัดหรือเป็นไข้ แต่หมายถึง อาการร้อนในทั่วไปซึ่งอาจเกิดได้กับทุกคนไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในวัยทอง ซึ่งอุณหภูมิของคนในวัยทอง จะมีความแปรปรวนค่อนข้างมากกว่าคนปกติเพราะว่าเพิ่งผ่านการหมดประจำเดือน ดังนั้นกระเจี๊ยบเขียวเป็นพืชที่สามารถรับประทานได้ทุกเพศทุกวัย แต่ถ้าจะให้เด็กรับประทาน ก็ควรจะทำการหั่นหรือสับให้ละเอียด กว่าคนโตรับประทานจะดีกว่าค่ะ2. เคลือบแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้คุณสมบัติของเมือกกระเจี๊ยบ ที่หลาย ๆ คนอาจจะไม่ชอบหรือมองข้าม จริง ๆ แล้วเมือกกระเจี๊ยบนี้มีประโยชน์ในการรักษาแผลในกระเพาะอาหารและแผลในลำไส้ได้ยินดีได้เป็นอย่างดี ในบางครั้งที่เรารู้สึกปวดท้อง อาจจะเกิดจากการรับประทานอาหารที่ไม่ตรงต่อเวลา นั่นคือสัญญาณเตือนว่ากระเพาะอาหารของเราได้เกิดแผล ซึ่งเกิดจากกรดของน้ำย่อย ที่ได้กัดกระเพาะอาหารของเรา ทำให้เกิดการระคายเคืองจนเกิดอาการปวดท้อง ดังนั้นถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ชอบรับประทานพวกยาเคลือบกระเพาะ ที่มีกลิ่นที่คุณไม่ชอบหรือ ไม่ชอบรับประทานยาเคลือบกระเพาะต่าง ๆ คุณสามารถไปหาซื้อกระเจี๊ยบมาประกอบอาหารรับประทานให้ได้ในทุก ๆ วัน ทดแทนได้ เพราะเมื่อคุณได้ทานรับประทานกระเจี๊ยบเข้าไปแล้ว เมือกของกระเจี๊ยบจะเข้าไปเคลือบแผลที่มีอยู่ในกระเพาะอาหาร ที่เป็นสาเหตุในการปวดท้องรวมถึงแผลที่ลำไส้ได้เป็นอย่างดี คุณจะสังเกตได้เลยว่าหลังรับประทานกระเจี๊ยบ เป็นเวลา 7 วัน เมื่อผ่านไปเป็นเวลา 7 วัน อาการปวดท้องต่าง ๆ จะทุเลาเบาบางลงอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อทุเลาแล้วก็ไม่ควรหยุดรับประทาน ควรจะรับประทานต่อเนื่องอย่างน้อย 2 - 3 เดือนและหลังจากนั้นจึงควรเว้นบ้าง จึงจะเป็นการรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้อย่างเห็นผล วิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ง่าย ๆ ไม่ต้องเสี่ยงต่อการใช้สารเคมีที่มีอยู่ในยารักษาโรค มีผลข้างเคียงที่มีอยู่ในยาทั่วไป ซึ่งอาจทำให้เราแพ้ในรสชาติของยาเหล่านั้นได้ค่ะ3. เป็นยาระบายอ่อน ๆเมือกของกระเจี๊ยบมีสรรพคุณ เป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยในการทำงานของระบบขับถ่ายให้ดีขึ้น ถ้าคุณเป็นคนที่ท้องผูกเป็นประจำขับถ่ายยาก ให้คุณหาซื้อกระเจี๊ยบที่มีขายอยู่มากมายตามท้องตลาด มาปรุงอาหารรับประทานบ่อย ๆ จะเป็นการช่วยรักษาโรค ท้องผูกขับถ่ายยากได้เป็นอย่างดี เพราะเมือกของกระเจี๊ยบ เมื่อคนมีอาการท้องผูกได้รับประทานกระเจี๊ยบเข้าไปแล้ว เมือกของกระเจี๊ยบมีความลื่น จะเข้าไปหล่อเลี้ยงในลำไส้ โดยเฉพาะลำไส้ใหญ่ แล้วเวลาขับถ่ายออกมาจะ ทำให้ลื่นไหลสามารถขับถ่ายออกมาได้ง่ายกว่าปกติค่ะเป็นอย่างไรกันบ้างคะกับสรรพคุณของเมือกกระเจี๊ยบ ที่ผู้เขียนได้นำเสนอในวันนี้ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านทุกท่านนะคะ กระเจี๊ยบหาซื้อมารับประทานง่ายอร่อยและยังมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย คุณผู้อ่านทุกท่านก็อย่าลืมที่ซื้อกระเจี๊ยบนี้มาปรุงอาหาร รับประทานกับครอบครัวนะคะ เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีค่ะภาพประกอบทั้งหมด : โดยนักเขียน