รีเซต

8 เทคนิคเก็บเงิน สำหรับเฟิร์สจ็อบเบอร์ เพิ่งเริ่มทำงานต้องออมเงินยังไงให้มีเงินเยอะ!

8 เทคนิคเก็บเงิน สำหรับเฟิร์สจ็อบเบอร์ เพิ่งเริ่มทำงานต้องออมเงินยังไงให้มีเงินเยอะ!
pommypom
14 พฤศจิกายน 2563 ( 17:00 )
6.6K
1

      วันนี้เรามี 8 เทคนิคเก็บเงิน สำหรับเฟิร์สจ็อบเบอร์มาแนะนำค่ะ...เพิ่งจะเริ่มมีเงินเดือนเป็นของตัวเอง เหล่าเฟิร์สจ็อบเบอร์อย่างเราก็ต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา อยากจะได้อะไรก็ต้องได้ เพราะนั่นมันเงินของเรา เราจะใช้ยังไงมันก็เรื่องของเรา...แต่! ขอเบรกเอาไว้ก่อนนะคะ รีบตั้งสติและทบทวนการใช้เงินของเรากันก่อนดีกว่า ว่าเรากำลังใช้เงินเกินตัวจนไม่มีเงินเหลือเก็บอยู่รึเปล่า? เพราะพฤติกรรมการใช้เงินแบบนี้จะทำให้เราลำบากในอนาคตได้นะคะ ดังนั้นสิ่งที่เหล่าเฟิร์สจ็อบเบอร์หลายคนไม่ทำกัน แต่เป็นสิ่งที่ควรทำเลยก็คือ การเก็บเงินนั่นเอง!

 

 

1. เทคนิคเก็บเงิน : แยกบัญชีธนาคารไว้สำหรับเก็บเงิน

     เมื่อเริ่มทำงาน ทุกคนจะมีบัญชีเงินเดือนไว้สำหรับรับเงินในแต่ละเดือนกันใช่มั้ยล่ะคะ แต่อย่างไรก็ตามเราไม่ควรมีแค่บัญชีเดียวค่ะ เนื่องจากจะทำให้เราจัดการกับการเงินได้ยุ่งยาก ไหนจะค่ากิน-ค่าใช้ในชีวิตประจำวัน แล้วไหนจะเงินเก็บอีก ถ้าใช้บัญชีปะปนกัน เราอาจจะใช้เงินส่วนที่ต้องเก็บไปโดยที่ไม่รู้ตัวก็เป็นได้ ดังนั้นเราควรเปิดบัญชีใหม่เพิ่มอีกหนึ่งบัญชี เอาไว้สำหรับเก็บเงินโดยเฉพาะ โดยบัญชีนี้ควรจะเป็นบัญชีที่ห้ามถอนออกมาใช้โดยเด็ดขาดเลยนะคะ

 

2. เทคนิคเก็บเงิน : แบ่งเงินตามกฎ 50:30:20

     การแบ่งเงินใช้ให้เป็นสัดส่วนจะทำให้เรามีวินัยทางการเงินและทำให้สามารถเก็บเงินได้ง่ายขึ้น แถมยังไม่ทำให้เราใช้เงินเพลินจนเกินลิมิตของตัวเองอีกด้วย โดยแนะนำให้แบ่งการใช้เงินเป็น 50:30:20 ดังนี้ค่ะ

  • เงิน 50% ควรเอาไว้ใช้สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็นที่ต้องจ่ายในทุกๆเดือน เช่น ค่าเช่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าโทรศัพท์
  • เงิน 30% ควรเอาไว้สำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวันต่างๆ เช่น ค่ากิน หรือค่าไลฟ์สไตล์อื่นๆ
  • เงิน 20% ควรเก็บเอาไว้สำหรับอนาคต เช่น หากอยากซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือแต่งงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายฉุกเฉินต่างๆที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว เช่น ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น

 

3. เทคนิคเก็บเงิน : จำกัดการใช้เงินในแต่ละวัน

     เมื่อเราแบ่งการใช้เงินตามกฎ 50:30:20 แล้ว ในเงินส่วน 30% ที่เอาไว้ใช้จ่ายสำหรับค่ากินหรือค่าไลฟ์สไตล์อื่นๆนั้น ให้เรานำมาหารแบ่งเป็นวันๆไปค่ะ คล้ายกับค่าขนมที่พ่อกับแม่ให้เราไปโรงเรียน แต่ตอนนี้เราจะให้ค่าขนมตัวเองแทนค่ะ ซึ่งการแบ่งแบบนี้จะช่วยให้เราสามารถจำกัดการใช้เงินในแต่ละวันได้ ทำให้ไม่ใช้จ่ายเกินตัวจนไม่มีเงินเหลือในช่วงปลายเดือนนั่นเอง และเมื่อเราแบ่งเงินสำหรับใช้ในแต่ละวันแล้ว เราก็ควรที่จะใช้ตามโควต้าที่เรามีนะคะ บางวันเราก็อาจจะเหลือเก็บบ้าง หรือบางวันเราก็อาจจะใช้จนหมดก็ไม่เป็นไรค่ะ เนื่องจากเราแบ่งเงิน 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น และ 20% สำหรับเก็บเอาไว้แล้ว

 

4. เทคนิคเก็บเงิน : เก็บเศษเงินที่เหลือหยอดกระปุกไว้

     อย่ามองข้ามคุณค่าของเศษเงินค่ะ เพราะเศษเงินจำนวนมากก็สามารถกลายเป็นเงินก้อนโตได้ ดังนั้นหากเราจำกัดการใช้เงินในแต่ละวันแล้ว และมีเงินเหลือในแต่ละวันด้วย ให้เราเอาเงินนั้นมาหยอดกระปุกเก็บไว้ค่ะ อาจจะเป็นเศษเงินเล็กๆน้อยๆบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะเงินส่วนนี้เมื่อเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จะกลายเป็นเงินที่เราสามารถเอาไว้ใช้ซื้อของฟุ่มเฟือยที่อยากได้อย่างไม่รู้สึกผิดเลยล่ะค่ะ ซึ่งหากเศษเงินของเราเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ให้เราแบ่งเป็นหลายๆกระปุก และเขียนโน้ตติดไว้ว่ากระปุกนี้เป็นเงินสำหรับอะไร เช่น เงินสำหรับช้อปปิ้งเสื้อผ้า หรือเงินสำหรับเที่ยวนั่นเองค่ะ

 

5. เทคนิคเก็บเงิน : ทำบัญชีรายรับ - รายจ่าย

     ไม่ว่าจะเป็นเฟิร์สจ็อบเบอร์ หรือคนที่ทำงานมานานแล้ว ก็ไม่ควรเลี่ยงการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายค่ะ เนื่องจากการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายจะทำให้เราเห็นพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเองได้ชัดเจนที่สุด ซึ่งยุคนี้ถือได้ว่าสะดวกสบายสุดๆ เราสามารถโหลดแอปพลิเคชันรายรับ-รายจ่ายมาใช้ได้ง่ายๆ โดยแอปฯเหล่านี้จะสามารถบ่งบอกพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเองได้ว่าเราใช้จ่ายไปกับค่าอะไรมากที่สุดในแต่ละเดือน ทำให้เราสามารถบริหารจัดการการเงินในเดือนถัดไปได้อย่างถูกจุดด้วยการลดค่าใช้จ่ายส่วนเกินจากเดือนที่แล้วลงนั่นเอง ที่สำคัญการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายยังช่วยทำให้เรารู้ตัวอยู่เสมอและไม่ใช้จ่ายเกินตัวอีกด้วยค่ะ

 

6. เทคนิคเก็บเงิน : ระวังการใช้บัตรเครดิต

     แน่นอนว่า เมื่อเราทำงานมีเงินเดือนเป็นของตัวเอง เราก็สามารถทำบัตรเครดิตใช้ได้อย่างสะดวกสบาย เรียกได้ว่าบัตรเครดิตถือเป็นบัตรในฝันของมนุษย์เงินเดือนที่จะต้องมีไว้ครอบครองเลยล่ะค่ะ ซึ่งบัตรเครดิตนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่เราจะต้องระวังเป็นอย่างมากค่ะ เนื่องจากเจ้าบัตรเครดิตเพียงใบเดียวนี่แหละ ที่สามารถทำให้เรากลายเป็นหนี้ได้โดยไม่รู้ตัวเลยล่ะค่ะ

     ซึ่งทริคการใช้บัตรเครดิตให้ได้ประโยชน์แบบไม่เป็นหนี้ก้อนโตเลยก็คือ เราควรที่จะจ่ายค่าบัตรเครดิตแบบเต็มจำนวนในทุกๆเดือนค่ะ เพราะจะทำให้เราไม่ต้องเสียค่าดอกเบี้ยแพงๆจนเป็นหนี้ทบทวีคูณไปเรื่อยๆในระยะยาว หรือหากอยากจะผ่อนสินค้าราคาแพง ก็ควรที่จะเลือกผ่อนกับร้านที่มีโปรโมชั่นผ่อน 0% จะดีกว่ามากค่ะ...ซึ่งการที่เราจะสามารถจ่ายค่าบัตรเครดิตแบบเต็มจำนวนได้นั้น ก็คือการที่เราไม่ช้อปปิ้งแบบเกินกำลังจ่ายของเรานั่นเอง ค่อยๆช้อปของที่อยากได้ไปทีละเดือนๆ ดีกว่านะคะ อย่ารีบร้อนเลย เดี๋ยวจะกลายเป็นหนี้ตั้งแต่เริ่มทำงานจนแก้ไขไม่ทัน ทำให้ลำบากต่อไปในอนาคตได้นะคะ

 

7. เทคนิคเก็บเงิน : วางแผนการเงินสำหรับอนาคตและหลังเกษียณ

     เมื่อเราเริ่มมีเงินเดือน อย่าเพิ่งใช้เงินจนเพลิน แล้วค่อยมาวางแผนการเงินทีหลังนะคะ เพราะหากเราเริ่มต้นได้ไม่สวย มันก็จะยิ่งทำให้เราจัดการกับการเงินในอนาคตของเราลำบากค่ะ ดังนั้นสิ่งที่เฟิร์สจ็อบเบอร์หลายคนไม่ทำ แต่เป็นสิ่งที่ควรทำเลยก็คือการวางแผนการเงินสำหรับอนาคตและหลังเกษียณค่ะ

     เพราะการที่เราเกษียณ นั่นแปลว่าเราหยุดทำงานและไม่มีรายได้ในแต่ละเดือน ดังนั้นหากเราไม่เก็บเงินตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะทำให้เราลำบากตอนแก่ได้ค่ะ เราจึงควรวางแผนการเงินสำหรับอนาคตหลังเกษียณเอาไว้ด้วย โดยการคำนวณว่าหลังเกษียณเราจะมีอายุอยู่อีกประมาณเท่าไหร่ และจำเป็นต้องใช้เงินเท่าไหร่จึงจะสามารถอยู่ได้ แล้วจึงนำมาหารเฉลี่ยว่าเราจะต้องเก็บเงินเดือนละเท่าไหร่จึงจะพอสำหรับชีวิตหลังเกษียณค่ะ

 

8. เทคนิคเก็บเงิน : เพิ่มมูลค่าเงินเก็บ

     แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะพบว่ามันมากเกินไปที่เงินเดือนของเฟิร์สจ็อบเบอร์จะเก็บเงินให้ได้มากมายขนาดนี้ เพราะลำพังแค่เงินใช้จ่ายในแต่ละวันก็ไม่ค่อยจะพออยู่แล้ว อีกหนึ่งทริคคือการเริ่มศึกษาเกี่ยวกับการออมเงินหรือการลงทุนค่ะ เพราะการที่เราเก็บเงินไว้ในธนาคารเฉยๆ โดยที่ไม่ได้ดอกเบี้ยเลย ก็อาจจะเป็นการเก็บเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะเงินของเราไม่สามารถเพิ่มมูลค่าได้ในอนาคตข้างหน้า

     ดังนั้นแนะนำให้ลองฝากแบบที่ได้ดอกเบี้ยค่ะ หรือจะเลือกเป็นการลงทุนในกองทุนหรือหุ้น เพื่อให้เงินของเราเพิ่มมูลค่าในตัวมันเอง ดีกว่าฝากไว้ในแบงค์แห้งๆเฉยๆ โดยที่แม้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เงินเก็บของเราก็มีเท่าเดิม แบบนี้เรียกได้ว่ายิ่งเก็บยิ่งเหนื่อยเลยล่ะค่ะ ดังนั้นการฝากเงินแบบได้ดอกเบี้ยหรือการลงทุนในหุ้นและกองทุนต่างๆจึงเป็นอีกหนึ่งทริคแนะนำค่ะ อย่างไรก็ตามเราต้องอย่าลืมด้วยว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน” ด้วยนะคะ

 

.........................................

 

อัพเดทเทรนด์เมคอัพ แฟชั่น เคล็ดลับลดน้ำหนัก และไลฟ์สไตล์ผู้หญิงใหม่ๆ ทุกวัน

ได้ที่แอปพลิเคชัน ทรูไอดี ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!

 

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง