เครดิตภาพจาก https://pixabay.com/images/id-2125043/ สวัสดีครับวันนี้พบกันอีกแล้วครับท่านผู้อ่านทั้งหลาย ผู้เขียนจะขอนำเสนอเกี่ยวกับเรื่องของความงามครับ ความงามในที่นี้ไม่ใช่การแต่งตัวสวย รูปร่างหน้าตาดี ฐานะดี ชาติตระกูลดีเท่านั้นนะครับ แต่ที่ผู้เขียนจะนำเสนอในวันนี้คือ ความงามในทางธรรมครับ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง 1. งามในศีล มีคำกล่าวที่ว่า “ไม่มีกลิ่นของ ของหอมใดในโลกนี้ จะหอมเท่ากับกลิ่นของศีล” จริงหรือไม่ครับ..มีเรื่องที่บันทึกไว้ในพระไตรปิฎกตอนที่พระนางเขมาเกิดซึ่งเป็นธิดาเกิดในราชสกุลตระกูลกษัตริย์ พระบิดาพระนามว่า พระเจ้ามัททราช กรุงสาคละ แคว้นมัททะ พระนางทรงมีพรรณะดั่งทอง มีพระฉวีเสมือนทอง พอเจริญวัยก็ได้อภิเษกสมรสกับพระเจ้าพิมพิสาร ครั้งเมื่อพระศาสดาประทับอยู่ ณ พระราชวังเวฬุวัน ก็ยังเป็นผู้มัวเมาในพระรูปพระโฉมตนเอง และทรงเกรงว่าพระพุทธเจ้าจะทรงแสดงโทษในรูป จึงไม่เสด็จไปเฝ้าพระศาสดาต่อมาพระเจ้าพิมพิสารทรงออกอุบายให้พระนางเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าจึงพรรณนาถึงความงามของพระวิหารเชตะวันให้พระนางฟัง จนพระนางใจอ่อนอยากที่จะเที่ยวชม จึงยอมที่จะเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าเมื่อไปถึงพระพุทธเจ้าทรงเนรมิตหญิงคล้ายนางเทพอัปสรด้วยฤทธิ์ให้ถือพัดใบตาลถวายงานพัดอยู่ พระนางเขมาเทวีทรงเห็นหญิงนั้น จึงคิดว่าหญิงนั้นช่างงดงามอะไรเช่นนี้ต่อจากนั้นพระพุทธเจ้าทรงนิมิตให้เห็นหญิงนั่นก็ล่วงปฐมวัย มัชฌิมวัย ถึงปัจฉิมวัยแล้วฟันหัก ผมหงอก หนังเหี่ยว ล้มกลิ้งลงพร้อมกับพัดใบตาล จนสุดท้ายพระนางทรงเห็นโทษในวัฏฏะสงสารต่อมาจึงออกบวชเป็นภิกษุณีบำเพ็ญเพียรรักษาศีลบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ เครดิตภาพจาก https://pixabay.com/images/id-1822571/ เห็นไหมละครับความงามแรก คือ ความงามในศีล มีคำกล่าวที่ว่า “คนเราจะสูงได้ด้วยศีล” ศีล 5 หากปฏิบัติได้จะงามด้วยกาย วาจา และใจ = ศีล 5 เหมือนกันครับว่าคนที่มีศีลย่อมได้รับการนับถือ ได้รับความเกรงใจจากบุคคลอื่น ๆ อย่างเรา ๆ ท่าน ๆ หากจะงามก็ขอให้วัดกันที่ศีล วัดกันที่ความดีครับเหล่านี้เป็นความงามที่ยั่งยืนกว่าความงามในการแต่งหน้าหรือทำศัลยกรรม... เครดิตภาพจาก https://pixabay.com/images/id-885111/ 2. งามในธรรม หมายถึง งดงามในความเป็น “ธรรม” ธรรมตัวนี้ผู้เขียนให้ความหมายว่า ธรรมชาติ ความงามตามธรรมชาติ หมายถึง งามตามช่วงวัยของแต่ละคน เช่น คนหนุ่มสาว ก็งามในกริยา วาจา การทำความดีแบบคนหนุ่มสาว คนวัยกลางคนก็งามในกริยา วาจา การทำความดีแบบ คนวัยกลางคน คนปัจฉิมวัยก็งามในกริยา วาจา การทำความดีแบบคนช่วงวัยนี้ผู้เขียนเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ท่านสรุปประโยคทองไว้ประโยคหนึ่งว่า “การตื่นมามีลมหายใจทุกเช้า นั่นคือความงดงามของการมีชีวิตอยู่” นั่นก็หมายความว่า การที่ได้ตื่นมาทำประโยชน์ตน เผื่อแผ่ไปถึงคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นสังคม ชุมชน โลก ตามกำลัง และความสามารถของแต่ละช่วงวัยนี้เหล่านี้คือความงามตาม “ธรรม” เครดิตภาพจาก pixabay.com/images/id-1175310/ 3. งามในการทำประโยชน์ มีพุทธโอวาทก่อนปรินิพพานบทหนึ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ก่อนปรินิพพานที่ติดตรึงใจ และเป็นสัจจะธรรมแม้จะเป็นเวลาล่วงเลยมาแล้วไม่น้อยกว่า 2,500 ปี ได้ตรัสไว้ว่า “หันทะทานิ ภิกขะเว อามันตะยามิ โว วะยะธัมมา สังขารา อัปปมาเทนะ สัมปาเทถะ” “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันว่าสังขารทั้งหลาย ย่อมมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังกิจทั้งปวงอันเป็นประโยชน์ของตน และประโยชน์ของผู้อื่นให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด” เครดิตภาพจาก https://pixabay.com/images/id-1314708/ หัวใจหลักของพุทธโอวาทในข้อนี้ คือ ความงามในการทำประโยชน์ตน บุคคลอื่น ด้วยความไม่ประมาท สรุปง่าย ๆ คือ งามในที่นี้คือ งามในการทำประโยชน์ของตน +เผื่อแผ่ประโยชน์ถึงบุคคลอื่น+ด้วยความไม่ประมาท = ความงาม... เห็นไหมหละครับว่าความงาม 3 ประการที่ผู้เขียนนำเสนอมา 3 ประการนี้หากเรา ๆ ท่าน ๆ นำมาใส่ใจ และสามารถนำมาปฏิบัติได้ผู้เขียนรับรองเลยว่า...ไม่จำเป็นต้องแต่งหน้า เสริมสวย ทำศัลยกรรม หรือชาติตระกูลดี (สิ่งเหล่านี้เป็นแค่น้ำจิ้มครับ) แต่ความงามที่ว่านี้เป็นความงามที่เป็นเนื้อแท้...สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ...