เคยสงสัยกันบ้างมั้ย ทำไมคนสมัยก่อนอายุยาวกันทั้งนั้นเลย ? คุณตา คุณยายบางคนอายุเข้าสู่เลข 8 แล้ว แต่ยังไม่มีโรคภัยไข้เจ็บถามหาเลย แต่เมื่อมองมาที่วัยรุ่น เมื่อเริ่มจะก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว โรคต่าง ๆ ก็เริ่มถามหาซะแล้ว เบาหวานบ้างหละ ความดันบ้างหละ โรคนู่นโรคนี่เต็มไปหมด จริง ๆ แล้วคำตอบของคำถามนี้ไม่ได้ยากเลย ทุกคนสามารถตอบได้ด้วยตัวเองอย่างแน่นอน ถ้าเพื่อน ๆ ลองสังเกตการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ การทานอาหารของรุ่นคุณตา คุณยาย เปรียบเทียบกับสมัยนี้ บอกเลยว่าแตกต่างกันมากโดยเฉพาะของกิน เปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก ๆ ค่ะ ถ้าเป็นสมัยก่อน ก็จะเน้นปลูกผัก ตำน้ำพริก ทานกันเองในครอบครัว ทำแกงต่าง ๆ ใส่สมุนไพรที่หลากหลาย มีผลไม้ตบท้ายในทุก ๆ มื้ออาหาร ปรุงอาหารโดยไม่ใช้ผงชูรส อาศัยความอร่อยจากฝีมือล้วน ๆ ของหวานก็จะเป็นขนมไทย ๆ ใช้กะทิ ใบเตย เน้นอะไรที่เป็นธรรมชาติ แต่พอมาในยุคนี้มีอาหารที่หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นของคาวหรือของหวานมีความแตกต่างจากเมื่อก่อนค่อนข้างมาก วัยรุ่นหันมาทานอาหารฟาสฟู้ดกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพิซซ่า เฟรนช์ฟรายส์ เบอร์เกอร์ และอีกหลาย ๆ อย่าง เครื่องดื่มแต่ละอย่างในสมัยนี้ก็ทำลายสุขภาพไม่เบาเลย ชานมไข่มุกบ้างหละ น้ำอัดลมบ้างหละ โอ้โหว ไม่ต้องพูดเลยค่ะ บอกเลยว่าตอนทานอาจจะอร่อย แต่ถ้าทานบ่อย ๆ ความอร่อยที่ได้ไม่คุ้มกับสุขภาพที่เสียไปอย่างแน่นอน เราเป็นคนหนึ่งที่ติดการทานขนม หลังทานข้าวจะต้องมีขนมตบท้ายเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ทานคาวแล้วก็ต้องทานหวานต่ออะเนอะ เราชอบเราก็ทานค่ะ แต่จะเลือกทานอะไรที่มีประโยชน์แทน อย่างเช่น เราชอบทานขนมขบเคี้ยว ก็เลือกทานเป็นกราโนลา เพื่อน ๆ คนไหนที่ติดขนมขบเคี้ยวเหมือนเราก็ลองไปทานกันดูได้นะ ยิ่งเดี๋ยวนี้เค้ามีมาให้เลือกหลายรสชาติตามความชอบเลย บอกเลยว่าได้กินแล้วฟินไม่แพ้ขนมอื่นอย่างแน่นอนค่ะ หรือเวลาอากาศร้อน ๆ อยากทานอะไรเย็น ๆ แทนที่จะทานน้ำอัดลม ชานมไข่มุกก็เลือกทานเป็นโยเกิร์ตใส่นู่นใส่นี่ตามที่ชอบแทน ต้องบอกเลยว่าอาหารที่ดีต่อสุขภาพและอร่อยก็มีเยอะ อยู่ที่เราจะเลือกทานกันหรือไม่เท่านั้นเอง อยากให้เพื่อน ๆ ลองหาอาหารดี ๆ ที่ถูกใจให้เจอ แล้วเพื่อน ๆ จะทานได้อย่างมีความสุขพร้อมสุขภาพที่ดีเลยแหละค่ะ เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนที่ได้อ่านบทความนี้หันมาดูแลตัวเอง ดูแลสุขภาพให้มากขึ้นกว่าเดิม สำหรับใครที่คิดว่าการเปลี่ยนการกินเป็นเรื่องยาก เราอยากให้ลองเปลี่ยนมุมมอง ลองค่อย ๆ ปรับไปทีละนิด จากเคยกินน้ำอัดลมทุกวัน ก็ลดลงเหลืออาทิตย์ละ 3 - 4 ครั้ง แล้วค่อย ๆ ลดไปเรื่อย ๆ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทุกอย่างให้ได้ในทันที แต่ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป แล้วสุขภาพก็จะปรับไปในทางที่ดีขึ้นตาม ยิ่งใครที่สามารถออกกำลังได้ด้วย ก็จะยิ่งดีมาก ๆ เลย แต่ถ้าใครที่ไม่มีเวลาจริง ๆ ก็ไม่เป็นไร เริ่มต้นจากการเลือกทานอาหารที่ดี แล้วสุขภาพจะดีตามอย่างแน่นอนค่ะ ปล. ภาพหน้าปกและทุกภาพที่ใช้ เป็นภาพถ่ายโดยนักเขียน