สวัสดีค่ะ :) เพื่อน ๆ เคยสงสัยไหมคะว่าทำไมบางคนถึงชอบเข้าวัด ทำวัตรเช้า หรือ ทำวัตรเย็นกัน ก่อนอื่นเรามารู้จักกันก่อนดีกว่าว่า “ทำวัตร” นั้นคืออะไรทำวัตร หมายถึง การทำกิจที่พึงทำตามหน้าที่ หรือตามธรรมเนียม เป็นคำย่อมาจากคำว่าทำกิจวัตรประจำอันเป็นธรรมเนียมปกติ เรียกการไหว้พระสวดมนต์ของพระสงฆ์ตามปกติในตอนเช้าและตอนเย็นหรือตอนค่ำว่า ทำวัตรเช้า และ ทำวัตรเย็น นั่นเองค่ะ และไม่ใช่แค่พระสงฆ์เท่านั้นนะคะที่จะทำวัตรได้ แต่พุทธศาสนิกชนอย่างพวกเราก็สามารถทำวัตรได้ค่ะเพื่อน ๆ ได้รู้จักความหมายของการทำวัตรไปแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่า “ทำวัตรแล้วได้อะไร?” เป็นการบริหารปอดปอดเป็นอวัยวะที่ใช้แลกเปลี่ยนแก๊สออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเราจำเป็นต้องใช้อ็อกซิเจนไปเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างพลังงานมาใช้ในกระบวนการเมตาบอลิซึมต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งการเปล่งเสียงออกมา เป็นการขยับขยายปอดของเรา ให้มีโอกาสในการแลกเปลี่ยนแก็สทั้ง 2 ชนิดนี้มากขึ้น เพิ่มโอกาสให้อ็อกซิเจนเข้ามาในร่างกายผ่านปอด ยิ่งปอดทำงานได้ดี ยิ่งได้มีการแลกเปลี่ยนมากขึ้น และการสวดมนต์ยังมีส่วนช่วยในการขยายปอดให้ความจุของปอดมากขึ้น ทำให้ไม่เหนื่อยง่ายค่ะ ฝึกกำหนดลมหายใจในการนั่งทำวัตร นอกจากจะมีการสวดมนต์ไหว้พระแล้ว ยังมีการนั่งสมาธิภาวนาให้ตัวเองและสิ่งอื่น ๆ ที่อยู่บนโลกทั้งสิ่งมีชีวิต หรือสิ่งไม่มีชีวิตก็ตาม เทคนิคกำหนดลมหายใจที่เบสิคมาก ๆ นั้นก็คือ “หายใจเข้า กำหนดว่า พุท และ หายใจออก กำหนดว่า โธ” นั่นเองค่ะ หรือบางคนอาจจะกำหนดว่า “ยุบหนอ พองหนอ” ก็ได้ค่ะ ซึ่งการกำหนดลมหายใจนี้ยังเป็นการขับเคลื่อนให้อวัยวะภายในนั้นทำงานประสานกันอย่างเป็นปกติค่ะ เช่น กล้ามเนื้อซี่โครง กระบังลม และปอด เป็นต้นค่ะ ทำให้ไม่ฟุ้งซ่านการทำวัตรยังเป็นการช่วยฝึกสติ ฝึกสมาธิให้อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่ฟุ้งซ่านไปกับสิ่งนอกกาย หรือสิ่งที่พยายามมาก่อกวนจิตใจ หากต้องการตัดสินใจเรื่องใด ก็จะตัดสินใจเรื่องใดก็แน่วแน่ คิดเรื่องใดก็รอบคอบ ลดความลังเลใจ จดจ่ออยู่กับปัจจุบัน ปล่อยวางเรื่องในอดีต และพร้อมจะก้าวไปในอนาคตอย่างราบเรียบค่ะ ทำให้ปล่อยวางจากเรื่องไม่ดีการทำวัตรได้นั่งสมาธิเหมือนการใช้จิตจดจ่ออยู่กับตนเอง ได้ทบทวนตัวเองในสิ่งที่เกิดขึ้น ได้ปล่อยว่างเรื่องไม่ดีออกไปจากตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร หนักหนาแค่ไหนมาทำร้ายก็จะมีภูมิคุ้มกันทางจิต มีจิตใจที่เข้มแข็งพร้อมที่จะต่อสู้กับเรื่องร้าย ๆ เหล่านั้น สามารถก้าวข้ามสิ่งที่ไม่ดีได้ เพื่อที่จะเปิดรับแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต สุขภาพกายดีเพื่อน ๆ อาจสงสัยใช่ไหมคะว่า การทำวัตรนั้นทำให้สุขภาพกายดีได้อย่างไร การที่เราได้กราบไหว้ลงไปบนพื้น นั่นคือการกราบแบบ เบญจางคประดิษฐ์ นั้นจะะทำให้เราได้บริหารทั้งกล้ามเนื้อลำตัว กล้ามเนื้อหลัง กล้ามเนื้อส่วนลำคอ และส่วนอื่น ๆ ค่ะ การขยับกราบไหว้เพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ นั้นก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายแล้วค่ะ สุขภาพจิตดีแน่นอนอยู่แล้วค่ะ ว่าการทำวัตร การทำบุญ นั่งสมาธินั้นเป็นการฝึกบริหารจิตใจ ให้คิดแต่สิ่งที่ดีงาม สิ่งที่ไม่ดีก็ไม่เอาจิตใจเข้าไปยุ่งเกี่ยว ยิ่งฝึกการบริหารจิตใจบ่อย จะทำให้เป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ใส่ใจผู้อื่น มีเมตตา และพร้อมที่จะให้อภัยผู้อื่นอยู่เสมอ ซึ่งการให้อภัยนั้นถือว่าเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่มาก เมื่อเรารู้จักการให้อภัย รู้จักการปล่อยวาง จะทำให้เรามีความสุขและสุขภาพจิตดีมากขึ้นค่ะ แก้ไขอาการสมาธิสั้นและข้อสุดท้ายนี้ได้ผลจริง ๆ ค่ะ ในปัจจุบันเราอาจนั่งเล่นมือถือกัน ท่องโลกออนไลน์กันเป็นส่วนใหญ่ จากคนที่ใจเย็นก็กลายเป็นคนที่ใจร้อน อยู่นิ่งได้ไม่นาน การนั่งสมาธิ ทำวัตร จะเป็นอีกทางหนึ่งที่ข่มตัวเองไว้ ช่วงแรกอาจจะรู้สึกอึดอัดสักหน่อย แต่พอฝึกไปเรื่อย ๆ รับรองว่าเห็นผลชัดเจนค่ะว่าอาการสมาธิสั้นนั้นลดลง หากใครที่มีลูกน้อย หรือมีเด็ก ควรฝึกให้น้อง ๆ รู้จักการนั่งสมาธิ การทำวัตรนะคะ จะทำให้น้องไม่เป็นคนที่สมาธิสั้น แถมยังเป็นการปลูกฝังน้องให้มีจิตใจอ่อนโยนอีกด้วยค่ะ ประโยชน์ของการทำวัตรนั้นมีมากมายเลยใช่ไหมล่ะคะ นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เราเชื่อว่าประโยชน์ของการทำวัตรนั้นมีมากกว่านี้มาก หากเพื่อน ๆ สงสัยข้อไหน เพื่อน ๆ ก็สามารถพิสูจน์ได้ง่าย ๆ ด้วยการทดลองทำค่ะ หากเพื่อน ๆ ได้ ลองทำวัตรแล้ว ไม่ว่าจะที่บ้าน หรือที่วัด ไปกับเพื่อน กับครอบครัว หรือกับตัวเอง รับรองว่าเพื่อน ๆ ต้องมีความสุขมากค่ะ และอาจจะทำให้เพื่อน ๆ หลงรักการทำวัตรเลยก็ได้นะคะ :) ภาพประกอบจาก ผู้เขียน