ปัจจุบันนี้รอบตัวของเรามีแต่ฝุ่นละอองและเชื้อโรคลอยอยู่ตามอากาศไปทั่วประเทศไทย เราอาจป้องกันตัวเองด้วยการใส่หน้ากากอนามัยเมื่อจำเป็นต้องออกไปข้างนอก แต่หากเราอยู่ในบ้านก็คงอยากที่จะอยู่บ้านแบบสบายใจ ไม่อยากให้มีอะไรปกปิดการหายใจให้อึดอัด เพราะฉะนั้นแล้ว เราควรดูแลตัวเองด้วยการกำจัดฝุ่น เชื้อโรค และแบคทีเรียภายในบ้านเพื่อให้มีอากาศรอบตัวที่สะอาดและหนึ่งในอุปกรณ์ที่เป็นตัวช่วยในการกรองฝุ่นในอากาศนั้นก็คือ "เครื่องฟอกอากาศ" นั่นเองหลายคนอาจยังไม่ทราบว่าเมื่อซื้อเครื่องฟอกอากาศมาแล้วควรนำไปวางไว้ตรงไหนของห้อง เพราะนอกจากประเภทของตัวเครื่องและประสิทธิภาพในแต่ละรุ่นที่คุณจะต้องใส่ใจแล้ว คุณยังจำเป็นต้องทราบถึงว่าตำแหน่งใดของห้องที่ควรนำเครื่องฟอกอากาศไปวางไว้มากที่สุด เราจึงมีข้อแนะนำมาแจ้งให้ทราบเพื่อให้ทุกคนได้ใช้งานเครื่องฟอกอากาศได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ- X ไม่ควรวางไว้ใต้เครื่องปรับอากาศ(ขอบคุณภาพจาก : https://www.freepik.com/free-photo/air-conditioning-decoration-interiorเชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงจะนำเครื่องฟอกอากาศไปไว้ตรงบริเวณใต้แอร์กันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากหลายๆ บ้านจะมีพื้นที่ด้านใต้ตรงเครื่องปรับอากาศค่อนข้างเยอะ ซึ่งนั่นเป็นหนึ่งในตำแหน่งที่ไม่ควรวางเด็ดขาดเนื่องจากเครื่องปรับอากาศนั้นทำหน้าที่กรองอากาศในตัวด้วยเช่นกัน และจะมีพลังในการดูดอากาศเข้ามาในตัวเครื่องค่อนข้างสูงกว่าเครื่องฟอกอากาศทั่วไป แต่ไม่สามารถกรองฝุ่นหรือเชื้อโรคได้มีประสิทธิภาพเท่าเครื่องฟอกอากาศและหากมีเครื่องฟอกอากาศตั้งอยู่บริเวณด้านใต้เครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศจะกลายเป็นตัวดูดและนำพาอากาศที่มีแต่ฝุ่นละอองเข้ามาแล้วส่งต่อให้เครื่องปรับอากาศดูดเข้าไปและปล่อยอากาศที่ไม่สะอาดออกมา จึงทำให้บุคคลที่อยู่ในสถานที่นั้นจะได้รับอากาศที่ไม่สะอาดมากกว่าปกติ- X ไม่ควรวางไว้บนหัวเตียงนอน(ขอบคุณภาพจาก : https://www.freepik.com/free-photo/black-white-bedหลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่าการนำเครื่องฟอกอากาศไปวางไว้ตรงหัวนอนเพื่อให้ได้รับอากาศบริสุทธิ์ที่ออกมาจากตัวเครื่องได้อย่างเต็มที่และรวดเร็ว แต่นั่นคือความคิดที่ผิดซึ่งจะเป็นหลักการเดียวกับหัวข้อด้านบน เครื่องฟอกอากาศจะทำการดูดอากาศที่มีฝุ่นละอองและเชื้อโรคเข้ามาเพื่อทำการกรองในตัวเครื่อง และหากวางตัวเครื่องไว้บริเวณหัวเตียงนอนหรือบริเวณใกล้เคียง จะทำให้คุณได้รับแต่ฝุ่นละอองที่ลอยมาตามอากาศซึ่งถูกดูดโดยเครื่องฟอกอากาศเข้าทางระบบหายใจของคุณก่อนที่อากาศเหล่านั้นจะถูกกรองเสียอีก และเนื่องจากลมที่ออกมาจากตัวเครื่องนั้นไม่ได้ออกมาเป็นอากาศบริสุทธิ์ 100% ในครั้งเดียวที่ถูกดูดเข้าไปในตัวเครื่อง อาจจำเป็นต้องผ่านการกรองอีก 2-3 ครั้ง จึงมีโอกาสสูงที่คุณจะได้รับอากาศที่มีฝุ่นละอองและเชื้อโรคที่ลอยอยู่หากคุณนำตัวเครื่องไปวางไว้ใกล้ศีรษะX ไม่ควรวางไว้หน้าห้องน้ำ(ขอบคุณภาพจาก : https://www.freepik.com/free-photo/modern-bathroomหากคุณมีห้องน้ำในตัวห้องนอนหรือห้องรับแขก คุณไม่ควรวางเครื่องฟอกอากาศไว้ตรงบริเวณใกล้หน้าห้องน้ำ เนื่องจากห้องน้ำนั้นเป็นห้องที่รวมแหล่งเพาะเชื้อโรคต่างๆ มากมาย ทั้งแบคทีเรียและความชื้นจะถูกดูดเข้าสู่เครื่องฟอกอากาศ แต่จะยังไม่ได้รับการกรองเชื้อโรคในตัวเครื่องทันที ดังนั้นลมที่ออกมาจากเครื่องฟอกอากาศจะยังคงเป็นอากาศที่มีเชื้อโรคและแบคทีเรียเป็นจำนวนมากในช่วงแรก ถึงแม้จะน้อยกว่าปกติ แต่เชื้อโรคเหล่านั้นก็สามารถลอยมาตามอากาศภายในห้องและเข้าสู่ระบบหายใจของคุณได้โดยง่ายแต่หากคุณมีพื้นที่ในห้องจำกัด ก็ควรปิดประตูห้องน้ำให้สนิทในระหว่างการใช้งานเครื่องฟอกอากาศ เพราะนอกจากจะไม่ดูดเชื้อโรคเข้ามาแล้ว ยังจำกัดพื้นที่ภายในห้องเพื่อกรองกาศได้แคบลง เครื่องฟอกอากาศก้จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น- ✔️ ควรวางไว้ตรงข้ามกับเครื่องปรับอากาศ(ขอบคุณภาพจาก : http://www.pngmart.com/image/89608, image/88015, https://www.freepik.com/free-photo/white-empty-roomตำแหน่งนี้คือตำแหน่งที่ควรวางเครื่องฟอกอากาศมากที่สุด เนื่องจากเมื่อเครื่องฟอกอากาศได้ทำการดูดอากาศแล้วกรองออกมาเป็นอากาศที่สะอาดแล้ว ลมสะอาดที่ออกมาจากตัวเครื่องจะถูกดูดโดยเครื่องปรับอากาศอีกที แล้วถูกปล่อยอากาศที่ดีออกมาภายนอกได้อย่างทั่วถึง และถึงแม้ว่าอากาศที่ออกมาจากเครื่องฟอกอากาศนั้นอาจจะไม่ได้สะอาดหมดจด 100% ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของแผ่นกรองในแต่ละรุ่น อากาศเหล่านี้ก็จะถูกกรองอีกครั้งโดยเครื่องปรับอากาศที่ดูดอากาศจากเครื่องฟอกอากาศเข้าไป ซึ่งจะทำให้คุณได้รับอากาศที่สะอาดบริสุทธิ์ทั่วห้องซึ่งออกมาจากทั้งเครื่องปรับอากาศและเครื่องฟอกอากาศควบคู่กัน จึงทำให้คุณนอนพักผ่อนอยู่ในห้องได้อย่างสบายใจไร้กังวลเรื่องฝุ่นละออง---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------นอกจากนั้นยังมีสิ่งสำคัญอีกอย่าง นั่นก็คือ "ไส้กรอง" ควรเปลี่ยนไส้กรองของเครื่องฟอกอากาศทุก 6 เดือน ไส้กรองทั่วไปไม่ได้มีประสิทธิภาพและอายุการใช้งานยาวนานเท่ากับตัวเครื่อง และหากยิ่งปล่อยไส้กรองไว้นานกว่าที่กำหนด เครื่องฟอกอากาศจะกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและฝุ่นมากมาย ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณควรเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดที่พอเหมาะกับห้องที่คุณจะนำไปใช้งาน ต้องตรวจสอบก่อนซื้อว่าห้องของคุณมีขนาดเท่าใดและเครื่องฟอกอากาศที่คุณจะซื้อนั้นมีกำลังในการดูดอากาศเพียงพอต่อขนาดห้องหรือไม่ เมื่อคุณปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง คุณจะมีสุขภาพที่ดีและในพื้นที่ของคุณจะปราศจากฝุ่นละอองอย่างแน่นอน(อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก นพ.จิรรุจน์ กุมารแพทย์โรคระบบหายใจ)ขอบคุณภาพหัวเรื่องจาก : http://www.pngmart.com/image/88015 และ https://www.freepik.com/free-vector/modern-interior