ออฟฟิศซินโดรม หรือที่เรียกว่า "ความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อและกระดูกที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในที่ทำงาน" หรือ "ความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อ และกระดูกจากการทำงาน" เป็นคำที่ใช้อธิบายปัญหาสุขภาพชุดหนึ่งที่เกิดขึ้นเนื่องจากกิจกรรมที่ยืดเยื้อ และซ้ำซากในสำนักงาน กิจกรรมเหล่านี้อาจรวมถึงการนั่งเป็นเวลานาน การใช้คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ การทำงานซ้ำๆ และการใช้ท่าทางที่ไม่ดี (พนักงานออฟิศรู้กันดี) ซึ่งถ้าเพื่อนๆ ถามว่า "ทำไมเราถึงปวดเมื่อย?" ให้ลองนึกถึงข้อข้างบนนี้กันดูนะครับออฟฟิศซินโดรมสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพร่างกาย และจิตใจของบุคคล เนื่องจากอาจส่งผลให้เกิดความรู้สึกไม่สบาย ปวดเมื่อย ประสิทธิภาพการทำงานลดลง และคุณภาพชีวิตลดลง อย่างไรก็ตาม มีวิธีป้องกัน และจัดการกับอาการออฟฟิศซินโดรม เช่นการปรับเปลี่ยนบริบทตามหลักสรีรศาสตร์: กล่าวคือให้เราตรวจสอบให้แน่ใจว่าเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน รวมถึงเก้าอี้ โต๊ะทำงาน และหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ และปรับอย่างเหมาะสมเพื่อส่งเสริมท่าทางที่ดีในการทำงานการหยุดพักเป็นช่วงๆ : การหยุดพักเป็นประจำเพื่อยืนขึ้น ยืดเส้นยืดสาย และเคลื่อนไหวไปรอบๆ สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการนั่งเป็นเวลานาน และปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องการออกกำลังกาย และกิจกรรมทางกาย: การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดิน การยืดกล้ามเนื้อ และการฝึกความแข็งแรง สามารถช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ปรับปรุงท่าทาง และลดความเสี่ยงของอาการออฟฟิศซินโดรมท่าทางที่เหมาะสม: การจัดท่าทางที่ดีขณะนั่ง และใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สามารถช่วยลดความเครียดที่คอ หลัง และไหล่ได้การดูแลดวงตา: การหยุดพักเป็นประจำเพื่อพักสายตา กระพริบตาบ่อยๆ และจัดตำแหน่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ในระยะและมุมที่เหมาะสมสามารถช่วยลดอาการปวดตาได้การจัดการความเครียด: การฝึกเทคนิคการจัดการความเครียด เช่น การออกกำลังกายเพื่อการผ่อนคลาย การเจริญสติ และการบริหารเวลา สามารถช่วยลดความเครียดที่เกี่ยวข้องกับงานในสำนักงานได้ซึ่งโดยสรุปแล้ว ออฟฟิศซินโดรมเป็นคำที่ใช้อธิบายความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อ และกระดูกที่อาจเกิดขึ้นจากกิจกรรมที่ยืดเยื้อ และซ้ำซากในสำนักงาน การปฏิบัติตามหลักสรีรศาสตร์ การหยุดพักอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกาย การรักษาท่าทางที่ดี และการจัดการความเครียด บุคคลสามารถลดความเสี่ยงของอาการออฟฟิศซินโดรม และส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีต่อสุขภาพ แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อการวินิจฉัย และการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีอาการออฟฟิศซินโดรมด้วยครับจากวิธีข้างต้นจะเห็นว่าผู้เขียนได้เน้นเรื่องของวิธีการแก้ปัญหาที่ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของการปรับปลี่ยนบริบทการทำงานตามหลักสรีรศาสตร์อย่างเช่นการใช้เฟอร์นิเจอร์สำนักงาน รวมถึงเก้าอี้ โต๊ะทำงาน และหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งของเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราชาวออฟฟิศต้องอยู่กับมันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงเป็นที่มาของส่วนที่ผู้เขียนจะนำเสนอเรื่องของการจัดโต๊ะทำงานเพื่อให้ถูกหลัก Ergonomic โดยการนำหลักการยศาสตร์มาปรับใช้กับโต๊ะทำงาน เก้าอี้ หรือปรับลักษณะท่านั่งให้เข้ากับสรีระของเราให้มากยิ่งขึ้น เพื่อทำให้เข้ากับลักษณะการทำงานในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การนั่งทำงานออฟฟิศเป็นต้น และวิธีการจัดการกับโต๊ะทำงานของเรานั้นมีดังนี้การปรับโต๊ะผู้เขียนมองว่าโต๊ะที่ดีควรมีขนาดให้พอเหมาะกับการทำงาน และให้พอดีกับคอมพิวเตอร์ทั้งแบบตั้งโต๊ะ และแบบแล็ปท็อป ส่วนของบนโต๊ะไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเอกสารไปถึงของตกแต่งนั้นไม่ควรปล่อยให้เยอะ และรกจนเกินไปเพื่อไม่ใช่แค่หลักสรีรศาสตร์เท่านั้น แต่รวมทั้งสุขภาพจิตของเราด้วยการเลือกโต๊ะชนิดที่สามารถปรับระดับได้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญทางหลักสรีรศาสตร์อีกด้วย ตรงนี้เราจะสามารถปรับตามลักษณะท่าทางในการทำงานของเราได้ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเก้าอี้ที่สามารถปรับระดับให้เราสามารถยืนทำงานได้ อันนี้ผู้เขียนมองว่ามีประโยชน์เป็นอย่างมากเพราะส่วนตัวแล้วเมื่อการนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ อาจจะรู้สึกเมื่อยบ้าง แต่เมื่อเรายืนแล้วมันเหมือนเราได้ยืดกล้ามเนื้อไปด้วย (ถ้าไม่เชื่อลองยืนหลังจากที่นั่งอยู่แต่หน้าคอมนานๆ ดู)การจัดหน้าจอคอมพิวเตอร์การวางระดับหน้าจอคอมพิวเตอร์ควรเป็นตำแหน่งที่ไม่ต่ำเกินไปจนต้องก้ม หรือห่อไหล่ และไม่สูงเกินไปจนต้องยืดคอ ถ้าเป็นแล็ปท็อปเนี่ยผมจะแนะนำว่าให้อยู่ในระยะสายตาที่หนึ่งช่วงแขน และอยู่ในระดับที่ไม่ต้องก้มต่ำเกินไป และไม่สูงจนเกินไป หน้าจอคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะก็เช่นกันการจัดเมาส์การใช้เมาส์คอมพิวเตอร์อาจส่งผลให้เกิดโรคออฟฟิศซินโดรมหรือความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อ และกระดูกที่เกี่ยวข้องกับการทำงานได้ การใช้เมาส์คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน และซ้ำๆ บวกกับการจัดท่าทาง และสรีระศาสตร์ที่ไม่ดี อาจทำให้กล้ามเนื้อ และข้อต่อในมือ ข้อมือ แขน และไหล่ตึง ทำให้รู้สึกไม่สบาย และเจ็บปวดได้อาการทั่วไปอย่างหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการใช้เมาส์คือโรคคาร์พัลทันเนล เป็นการเคลื่อนไหวซ้ำๆ และการวางตำแหน่งข้อมือที่เกี่ยวข้องกับการใช้เมาส์คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานสามารถกดดันเส้นประสาทมัธยฐานที่ข้อมือ นำไปสู่อาการต่างๆ เช่น ปวด ชา และรู้สึกเสียวซ่าที่มือ และนิ้วเพื่อป้องกันหรือลดความเสี่ยงของโรคออฟฟิศซินโดรมที่เกิดจากเมาส์ สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามหลักสรีรศาสตร์ และท่าทางที่ดีขณะใช้เมาส์คอมพิวเตอร์ เช่น ใช้เมาส์ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์: เลือกเมาส์ที่ออกแบบมาเพื่อลดความเมื่อยล้าของมือ และข้อมือ เช่น เมาส์ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ซึ่งช่วยให้วางตำแหน่งมือได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ใช้แผ่นรองเมาส์ที่มีที่รองข้อมือ: แผ่นรองเมาส์ที่มีที่รองข้อมือแบบกันกระแทกสามารถช่วยลดแรงกดที่ข้อมือ และปลายแขนได้ ยืดกล้ามเนื้อและออกกำลังกาย: ยืดเหยียดมือ ข้อมือ และปลายแขนเป็นประจำ และออกกำลังกายเพื่อช่วยลดความตึงเครียดเพื่อนๆ สามารถลดความเสี่ยงของอาการออฟฟิศซินโดรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้เมาส์ เพียงแค่ส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีต่อสุขภาพได้ด้วยการฝึกการยศาสตร์ที่ดี การหยุดพักอย่างสม่ำเสมอ และใส่ใจกับท่าทางขณะใช้เมาส์คอมพิวเตอร์การจัดคีย์บอร์ดคีย์บอร์ดก็เป็นอุปกรณ์สำนักงานที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่อาจส่งผลต่อโรคออฟฟิศซินโดรมหรือความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อ และกระดูกจากการทำงานได้ การใช้แป้นพิมพ์ซ้ำๆ เป็นเวลานาน บวกกับการจัดท่าทาง และสรีระศาสตร์ที่ไม่ดี อาจทำให้กล้ามเนื้อ และข้อต่อในนิ้ว มือ ข้อมือ แขน และไหล่ตึง ทำให้รู้สึกไม่สบาย และเจ็บปวดได้เพื่อป้องกันหรือลดความเสี่ยงของอาการออฟฟิศซินโดรมที่เกี่ยวข้องกับแป้นพิมพ์ สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามหลักสรีรศาสตร์ และท่าทางที่ดีขณะใช้แป้นพิมพ์ ผมขอยกตัวอย่างดังนี้ ใช้แป้นพิมพ์ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์: เลือกแป้นพิมพ์ที่ออกแบบมาเพื่อลดความเครียดของนิ้วมือ มือ ข้อมือ และแขน เช่น แป้นพิมพ์ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ซึ่งช่วยให้วางมือ และข้อมือได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น อย่างที่เห็นกันในปัจจุบันว่ามีคีย์บอร์ดที่มีที่รองข้อมือกันแล้ว ใช้ที่พักข้อมือ: ต่อเนื่องกันจากข้อที่แล้วคือ ที่พักข้อมือสามารถให้การสนับสนุน และกันกระแทกข้อมือ ช่วยลดความเครียดที่ข้อมือ และปลายแขน ถ้าไม่มีก็สามารถหาของทดแทนอย่างผ้าที่เราสามารถนำมาพับเพื่อรองแขนได้ครับทั้งนี้เพื่อนๆ สามารถลดความเสี่ยงของอาการออฟฟิศซินโดรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้แป้นพิมพ์ และส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีต่อสุขภาพได้ด้วยการ การหยุดพักอย่างสม่ำเสมอ และให้ความใส่ใจกับท่าทางขณะใช้แป้นพิมพ์การเลือกเก้าอี้สิ่งที่ผู้เขียนมองว่าสำคัญไม่แพ้กัน และอาจจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเลยนั่นคือ "เก้าอี้" เก้าอี้เป็นองค์ประกอบสำคัญของการทำงานของสำนักงาน และอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อโรคออฟฟิศซินโดรมหรือความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อ และกระดูกที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ซึ่งการนั่งนานๆ บนเก้าอี้ที่ไม่สบายหรือออกแบบมาไม่ดี บวกกับการจัดท่าทางที่ไม่ดี อาจทำให้ปวดเมื่อย และรู้สึกไม่สบายในส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงหลัง คอ ไหล่ สะโพก และขา อันนี้จะมีผลกระทบตามมาอีกเยอะมากๆ เพื่อป้องกันหรือลดความเสี่ยงของอาการออฟฟิศซินโดรมที่เกิดจากเก้าอี้ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกเก้าอี้ที่เหมาะกับสรีระ และฝึกท่านั่งที่ดีเช่น เลือกเก้าอี้ที่เหมาะกับสรีระ: มองหาเก้าอี้ที่ให้การรองรับบั้นเอวแบบปรับได้ ส่งเสริมท่าทางที่ดี และช่วยให้ปรับได้ เช่น ความสูงของที่นั่ง ความลึกของที่นั่ง การเอียงพนักพิง และความสูงของที่วางแขน นั่งด้วยท่าทางที่เหมาะสม: นั่งหลังตรง ไหล่ผ่อนคลาย เท้าราบกับพื้น หลีกเลี่ยงการนั่งไขว่ห้างเป็นเวลานาน และใช้ที่วางเท้าหากจำเป็นเพื่อรักษาแนวขา และสะโพกที่เหมาะสม พักเป็นบ่อยๆ : หลีกเลี่ยงการนั่งในท่าเดิมเป็นเวลานาน หยุดพักเป็นประจำเพื่อยืน ยืดเส้นยืดสาย และเคลื่อนไหวไปรอบๆ เพื่อลดความเสี่ยงของกล้ามเนื้อตึง ปรับเก้าอี้ของคุณ: ต้องให้แน่ใจว่าเก้าอี้ของเพื่อนมีระบบการปรับให้เหมาะสมกับร่างกาย อย่างเช่นการปรับความสูงของที่นั่ง ความลึกสูงของที่นั่ง การเอียงพนักพิง และความสูงของที่วางแขน (ใครยังนั่งเก้าอี้งานวัดทำงานต้องเปลี่ยน!) ใช้การรองรับเพิ่มเติม: พิจารณาใช้การรองรับเพิ่มเติม เช่น หมอนรองเอวหรือหมอนอิงเพื่อให้การสนับสนุนเพิ่มเติมที่หลังส่วนล่างของคุณ และส่งเสริมการจัดแนวกระดูกสันหลังที่เหมาะสมด้วยการใช้เก้าอี้ที่เหมาะกับสรีระ ฝึกท่าทางที่ดี หยุดพักเป็นประจำ และปรับเปลี่ยนเก้าอี้ตามความจำเป็น เพื่อนๆ จะสามารถลดความเสี่ยงของอาการออฟฟิศซินโดรมที่เกิดจากการนั่งเป็นเวลานาน และส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีต่อสุขภาพได้บทความนี้ผู้เขียนอยากให้พวกเราตระหนักถึงเรื่องของผลกระทบของอุปกรณ์สำนักงาน เช่น จอ เมาส์ แป้นพิมพ์ และเก้าอี้ ที่มีต่อออฟฟิศซินโดรมหรือความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อ และกระดูกที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน การใช้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นเวลานาน และซ้ำๆ บวกกับการยศาสตร์ และท่าทางที่ไม่ดี อาจทำให้รู้สึกไม่สบาย และปวดเมื่อยตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บทความเน้นว่าเมาส์ แป้นพิมพ์ หรือเก้าอี้คอมพิวเตอร์ที่ออกแบบไม่ถูกต้องสามารถนำไปสู่สภาวะต่างๆเพื่อป้องกันหรือลดความเสี่ยงของอาการออฟฟิศซินโดรม บทความนี้ผู้เขียนจะแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ที่เหมาะกับสรีระ ฝึกการยศาสตร์ และท่าทางที่ดี รวมทั้งพักสมองเป็นประจำ และปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น การใช้เมาส์ และคีย์บอร์ดที่เหมาะกับสรีระ รักษาตำแหน่งข้อมือที่เป็นกลาง การเลือกเก้าอี้ที่เหมาะกับสรีระ การนั่งในท่าที่เหมาะสม ซึ่งวิธีเหล่านี้ได้ช่วยลดอาการปวดหลังของผู้เขียนได้เป็นอย่างดีในระหว่างที่ต้องทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานานๆ (รวมทั้งการเขียนบทความนี้ด้วย ยาวมาก ฮ่าๆ) และโดยปกติแล้วผู้เขียนจะพบปัญหาเรื่องของการปวดหลังบ่อยมากๆ นี่ถ้าไม่มีเก้าอี้เพื่อสุขภาพต่างๆ นาๆ มาใช้เนี่ยผู้เขียนคงได้ลงเอยที่ร้านนวด หรือไม่ก็โรงพยาบาลไปแล้ว เครดิตขอขอบคุณภาพจาก freepik, pixabay และ Pexelsภาพปกโดยผู้เขียน immark | ภาพปก (ภาพประกอบภาพปก จาก freepik)ภาพที่ 1 จาก freepik | freepik และ ภาพที่ 2 จาก pressfoto | freepik ภาพที่ 3 โดย Pexels, ภาพที่ 4 โดย Memin Sito, ภาพที่ 5 โดย Hebi B., ภาพที่ 6 โดย Martin Vorel, ภาพที่ 8 โดย tookapic | Pixabayภาพที่ 7 โดย Oladimeji Ajegbile | Pexelsอ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมแนะนำดนตรีเพราะๆ ดนตรีเพื่อสมาธิ สำหรับทำงาน, เรียน และเขียนบทความแนะนำ 10 พอดแคสต์จากช่อง YouTube น่าฟังที่จะพาคุณพัฒนาชีวิตทั้งด้านความคิด การงาน การเงิน และความรักคีย์บอร์ดสุดฮิต (อาจจะ) เป็นตัวจบของใครหลายๆ คน ตอบโจทย์คนเขียนบทความได้นะ7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์