รีเซต

เอาใจสาวกนาฬิกา! สยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป 2016 ที่สุดของงานแสดงนวัตกรรมนาฬิการะดับโลก

เอาใจสาวกนาฬิกา! สยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป 2016 ที่สุดของงานแสดงนวัตกรรมนาฬิการะดับโลก
Faii_Natnista
14 กรกฎาคม 2559 ( 16:04 )
3.3K

สยามพารากอน สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ตอกย้ำความเป็นศูนย์รวมแบรนด์นาฬิกาชั้นนำระดับเวิลด์คลาส แถลงข่าวการจัดงาน “สยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป 2016” (Siam Paragon Watch Expo 2016) ที่สุดของงานแสดงนวัตกรรมนาฬิการะดับโลกครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี พร้อมเผยโฉมประดิษฐกรรมเรือนเวลาชั้นเลิศและ คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์นาฬิกาชั้นนำระดับโลกกว่า 180 แบรนด์ รวมมูลค่า 350 ล้านบาท นำมาจัดแสดงภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘The Icon of Timepieces’ สุดยอดปรากฏการณ์แห่งเรือนเวลาครั้งใหม่ เอาใจนักสะสมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ด้วยการมอบส่วนลดสูงสุดกว่า 50%, พิเศษสำหรับสมาชิกบัตร เอ็ม การ์ด (M Card) และแพลตตินัม เอ็ม การ์ด (Platinum M Card) รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 8% อีกทั้งโปรแกรมผ่อน 0% นาน 10 เดือน พร้อมรับ Cash back/ on top จากบัตรเครดิตชั้นนำสูงสุด 25+20% และแลกรับ E-Voucher เพื่อใช้เป็นส่วนลดทันที ตลอดจนข้อเสนอที่คุ้มค่าที่สุด และของรางวัลมากมาย รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม – 15 สิงหาคม นี้ ณ ฮอลล์ ออฟ เฟม, วอทช์ บูติก, คริสตัล คอร์ท และ วอทช์ แกเลอเรีย, พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ชั้น M และ แฟชั่น ฮอลล์, พื้นที่ฝั่งสตาร์ โดม ชั้น 1 สยามพารากอน


 

มยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ ผู้บริหารสายงานอาวุโสการตลาด ศูนย์การค้าสยามพารากอน เผยว่า งานสยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป 2016 นับเป็นปรากฏการณ์แห่งเรือนเวลาครั้งใหม่ที่ภาคภูมิใจสำหรับสยามพารากอน ในฐานะที่เป็นศูนย์รวมของแบรนด์นาฬิกาชั้นนำระดับโลกและเครื่องประดับอัญมณีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและหนึ่งในเอเชีย ด้วยเจตนารมณ์ที่จะสร้างสรรค์เพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดในฐานะผู้จัดงานแสดงนวัตกรรมนาฬิกาที่ยิ่งใหญ่ พร้อมส่งมอบประสบการณ์ระดับโลกออกสู่สายตาคนไทยและผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก นำสุดยอดผลงานแห่งนาฬิกาเรือนเด่นทั้ง Masterpiece, Luxury และ Trend มาจัดแสดงในประเทศไทยรวมไว้ในงานเดียว พร้อมนำเสนอเทรนด์ที่สอดรับกับกระแสนิยมของวงการนาฬิกาโลก เพื่อให้คนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้มีโอกาสที่จะชื่นชมและสัมผัสนาฬิกาเรือนเด่นแห่งปีอย่างใกล้ชิดก่อนใคร รวมทั้งแลกเปลี่ยนความรู้ และร่วมเก็บเกี่ยวประสบการณ์ครั้งสำคัญ พร้อมจับจองคอลเลคชั่นล่าสุดด้วยข้อเสนอที่คุ้มค่าที่สุดภายในงาน โดยมุ่งมั่นที่จะสร้างให้ประเทศไทยเป็นอีกจุดมุ่งหมายเพื่อต้อนรับคนรักนาฬิกาจากทั่วทุกมุมโลก และเหนือสิ่งอื่นใด สยามพารากอนมีความภาคภูมิใจที่ได้บันทึกประวัติศาสตร์หน้าสำคัญในอุตสาหกรรมนาฬิกาไทยในการกระตุ้น และยกระดับภาพรวมอุตสาหกรรมนาฬิกาในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียให้ทัดเทียมสากล

 

 

“สยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป 2016 นับเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่หลงใหลในเรือนเวลาได้สัมผัสกับประสบการณ์อันมีค่า ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นเวทีใหญ่ของประเทศไทยสำหรับการจัดแสดงผลงานนวัตกรรมเวลาชั้นเลิศและเทรนด์นาฬิกาใหม่ล่าสุดแห่งปีที่มีปีละครั้งเดียวเท่านั้น โดยงานครั้งนี้จัดขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘The Icon of Timepieces’ โดยได้ร่วมมือกับแบรนด์นาฬิกากว่า 180 แบรนด์ชั้นนำของโลก เนรมิตพื้นที่กว่า 13,000 ตารางเมตร ภายในศูนย์การค้าฯ และ พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ให้เป็นสถานที่ในการจัดแสดงงานนาฬิกาครั้งยิ่งใหญ่นี้ ด้วยงบประมาณจัดงานกว่า 40 ล้านบาท” ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน กล่าว

นอกจากนี้ สยามพารากอน ยังนำเสนอความพิเศษที่เหนือกว่า เพื่อให้เป็นงานนาฬิกาที่ถ่ายทอดภาพลักษณ์และความแปลกใหม่ ซึ่งแตกต่างจากงานนาฬิกาทั่วไป โดย ไบรทลิ่ง (Breitling) ได้ต้อนรับนักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาสู่โลกของไบรทลิ่งให้สัมผัสจิตวิญญาณแห่งการบินและนวัตกรรมนาฬิกาสวิสชั้นสูงใจกลางกรุงเทพมหานคร ด้วยการเนรมิตพาร์คพารากอนเป็นสนามบินย่อยๆ โดยการนำเครื่องบินเจ็ทต้นแบบความยาวถึง 12 เมตร มาจอดที่พาร์คพารากอนเป็นที่แรกและที่เดียวในเอเชีย พร้อมทั้งจัดงานแสดงคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดส่งตรงจากสวิสเซอร์แลนด์เป็นที่แรก อาทิ เอ็กโซสเปซ บี55 (Exospace B55) นาฬิกาโครโนกราฟที่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลได้ขึ้นเรือนแรก และที่ขาดไม่ได้คือ นาวิไทเมอร์ 1884 (Navitimer 1884) นาฬิการุ่นต้นตำรับแห่งวัฒนธรรมในหมู่นักบินและผู้อุทิศตนให้กับการบินมานับตั้งแต่ปี 1884 ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1884 เรือน และจัดแสดงนาฬิกาอีกมากกว่า 10 คอลเล็คชั่นที่นำมาอวดโฉมให้กับแฟนๆ ของเหล่านาฬิกาเอ็กซ์คลูซีฟ ได้ชื่นชม

 

 

ด้าน จักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสบริหารสินค้า บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึง นาฬิกาที่น่าสนใจอื่นๆ ในงานนี้ว่า “ ปีนี้ WATCH GALLERIA พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ได้รวบรวมนาฬิการะดับเวิลด์คลาส ที่นักสะสมนาฬิกาพลาดไม่ได้ จากแบรนด์ชั้นนำที่เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ลิมิเต็ด อิดิชั่น และนาฬิกา ที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนรักนาฬิกา ที่น่าจับตามองคือ นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ หรือนาฬิกาอัจฉริยะ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากทั่วโลก เนื่องจากราคาไม่สูงสามารถจับต้องได้ และเป็นนาฬิกาที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยนาฬิกาสมาร์ทวอทช์มีความสามารถพิเศษมากกว่าการบอกเวลา และมีความสามารถในหลายๆ ด้าน นอกจากนี้ ผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำหลายแบรนด์ได้นำนาฬิการุ่นคลาสสิคที่เคยได้รับความนิยมในอดีต และรุ่นยอดนิยมมาผลิตอีกครั้ง เพื่อให้นักสะสมได้เลือกสรรในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายมากขึ้น ส่วนวัสดุที่ได้รับความนิยมในปีนี้เป็น สตีลและไทเทเนียม โดยสีที่มาแรง คือ สีฟ้า สีเขียว สีเยลโล่โกลด์ และสีโรสโกลด์

ทั้งนี้ สำหรับแบรนด์นาฬิกาชั้นนำของโลกกว่า 180 แบรนด์ ที่ร่วมนำเสนอเรือนเวลาภายในงาน ได้แก่ BREITLING, BAUME&MERCIER, CORUM, FREDERIQUE CONSTANT, GRAHAM, GUCCI, GLASHUTTE ORIGINAL, HUBLOT, MAITRES DU TEMPS, MONTBLANC, NOMOS GLASHUTTE, LONGINES, ORIS , PERRELET, TAG HEUER, ZENITH และอีกมากมาย

สำหรับการจัดงานครั้งนี้รวบรวมนาฬิกากว่า 30,000 เรือน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ Masterpiece, Luxury และ Trend ที่ปีนี้มีการนำนวัตกรรมนาฬิกาทั้งนาฬิการุ่นพิเศษที่หายากเกือบทุกแบรนด์ และนาฬิกาที่ควรค่าแก่การสะสมและการลงทุน ในราคาพิเศษ โดยเฉพาะนาฬิกาหลายแบรนด์ดัง ได้ร่วมฉลองความสำเร็จแห่งการสร้างเกียรติประวัติอันยาวนานของ
แบรนด์โดยออกคอลเลคชั่นพิเศษสำหรับรุ่น Best Seller อาทิ Mont Blanc ครบรอบ 110 ปี, Tudor ครบรอบ 90 ปี , SEIKOครบรอบ 135 ปี, ROLEX ครบรอบรุ่น day-date 60 ปี และ ครบรอบรุ่น oyster 60 ปี, Jaeger- Le Coultre ครบรอบรุ่นREVERSO 85 ปี , TAG HEUER ครบรอบรุ่น Monza 40 ปี และ CITIZEN ครบรอบรุ่น ECO DRIVE 40 ปี เป็นต้น และสำหรับผู้ที่มองหานาฬิกาแฟชั่นชั้นนำ ภายในงานได้มีการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่, รุ่นเอ็กซ์คลูซีฟจาก แบรนด์นาฬิกาให้ชมตลอดระยะเวลาการจัดงาน

นอกจากนี้ภายในงานยังมีนิทรรศการสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากเหล่าแบรนด์นาฬิกาชั้นนำระดับโลก ที่รับประกันได้ว่าจะเป็นประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับคนไทย โดยนำเอาคอนเซ็ปต์การจัดนิทรรศการที่งาน Basel World 2016 มาจัดแสดงภายในงาน ประกอบด้วย แกรนด์ ไซโก้ (Grand Seiko) กับนิทรรศการ Grand Seiko Avant-Garde Exhibition ที่เชื่อมโยงศิลปะและพลังวิเศษแห่งการสร้างสรรค์ ที่ได้นำเอาคอนเซ็ปท์นิทรรศการเดียวกันกับที่จัดขึ้นในงาน BASEL WORLD 2016 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มาจัดแสดงกับภาพถ่ายโดย 2 ช่างภาพร่วมสมัยชื่อดังชาวญี่ปุ่น Mr. Daido Moriyamo และ Mr. Nobuyashi Araki ที่กลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ศิลปะแห่งเครื่องบอกเวลา รุ่น Black Ceramic และ กุชชี่ (GUCCI) จัดงานนิทรรศการยิ่งใหญ่แห่งปี Travelling Exhibit นับเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ Gucci Timepiece จะเปิดคลังมหาสมบัติแห่งงานศิลป์อันทรงคุณค่า “Cabinet of Curiosity” โชว์ความหรูหราของทุกคอลเลคชั่นในเมืองไทยและสะท้อนถึงภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ ภายใต้การสร้างสรรค์ของ Creative Director คนใหม่ อเลสซานโดร มิเคเล่ ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดยนิทรรศการจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 25 ก.ค.- 15 ส.ค. ศกนี้ ณ ฮอลล์ ออฟ เฟม ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน”

 

 

สำหรับบรรยากาศของงานแถลงข่าวครั้งนี้เต็มไปด้วยความคึกคัก พร้อมได้รับเกียรติจากผู้บริหารนาฬิกาแบรนด์ดัง ได้แก่ ยูมิ เคียงศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท เพนดูลัม จำกัด , ณิชยา ธรรมาวรานุคุปต์ เอครพานิช ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท พีเอ็มที เดอะ อาวร์ กลาส จำกัด , ตุนท์ มหาดำรงค์กุล ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายการตลาด บริษัท โทรคาเดโร ไทม์ จำกัด , ศาศวัต ตัณมานะศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที เอส แอล (อินเตอร์เนชั่นแนล) จำกัด ภาณุ ณรงค์ชัยกุล กรรมการบริหาร บริษัท ไทม์ เดคโค จำกัด และ แคทลียา ชัยตันติพงศ์ ผู้จัดการแบรนด์อาวุโส มงต์บลองค์ มาร่วมพูดคุยถึงสุดยอดนวัตกรรมเรือนเวลาที่ส่งตรงมาจากบาเซิลเวิลด์ 2016 และ SIHH จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมได้จัดให้มีแฟชั่นโชว์นาฬิกาไฮไลท์ประจำปี 2016 โดยได้รับเกียรติจากบุคคลที่มีชื่อเสียง อาทิ มธุนาฏ ซอโสตถิกุล,จินณ์ปภัชร์ พงษ์นฤสรณ์, กฤตย์ โอสถานุเคราะห์ และ ต่อสวัสดิ์ สวัสดิ์-ชูโต มาร่วมสร้างสีสันอวดโฉมสุดยอดนาฬิกาไฮไลท์แห่งปีทั้งกลุ่มMasterpiece, Luxury และ Trend

 

 

Masterpiece ประดิษฐกรรมชิ้นพิเศษ ที่รังสรรค์ขึ้นจากกลไกจักรกลคุณภาพสูง เน้นการทำงานของเทคโนโลยีที่เข้ากับดีไซน์ที่งดงาม ถ่ายทอดเอกลักษณ์และคุณค่าของแบรนด์ระดับโลก นำโดย Breitling EXOSPACE B55 (ไบรทลิ่ง เอ็กโซสเปซ บี55) สมรรถนะคือแนวทางหลักของไบรทลิ่งในการสร้างแต่ละก้าวของความก้าวหน้าทางเทคนิค และยังเป็นพลังขับเคลื่อนหลักสำหรับแบรนด์ในการพัฒนานาฬิกาโครโนกราฟเชื่อมต่อเป็นรุ่นแรกขึ้น โดยการเปลี่ยนนาฬิกาให้กลายเป็นอุปกรณ์ที่สามารถขยายการเชื่อมต่อไปยังสมาร์ทโฟน แต่ยังคงมีประสิทธิภาพสูง และมีฟังก์ชั่นโครโนกราฟที่ยังคงเป็นหัวใจหลักของนาฬิกา ขณะที่การเชื่อมต่อนั้นออกแบบมาเพื่อปรับปรุงฟังก์ชั่นให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การสื่อสารแบบสองทางจึงทำให้อุปกรณ์ทั้งสองชิ้นนี้กลายเป็นอุปกรณ์คู่ที่สามารถเติมเต็มการทำงานซึ่งกันและกัน โดยแต่ละชิ้นก็จะทำหน้าที่ที่ตนทำได้ดีที่สุด และเพราะคุณสมบัติหลักสำคัญของสมาร์ทโฟนคือการใช้งานได้สะดวกและมีประสิทธิภาพ ผ่านหน้าจอ และจุดสัมผัสหรือตัวประสาน ดังนั้น เจ้าของ เอ็กโซสเปซ บี55 จึงยังสามารถใช้โทรศัพท์ของพวกเขาในการปรับตั้งฟังก์ชั่นต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ

ถัดมา คือ GLASHÜTTE ORIGINAL รุ่น Panomatic Lunar (กลาสฮุตเตอร์ ออริจินอล รุ่น พาโนมาติก ลูน่าร์)ตัวเรือนแสตนเลสสตีลขนาด 40 มม. กลไกออโตเมติก in-house มาพร้อมช่องบอกวันที่ขนาดใหญ่ และช่องแสดงข้างขึ้นข้างแรม แสดงเวลาที่หน้าปัดและหน้าปัดย่อยในตำแหน่งเยื้องศูนย์ อันเป็นลักษณะเฉพาะของแบรนด์ กระจกแซฟไฟร์คริสตัล ฝาหลังเผยให้เห็นการทำงานของตัวเครื่อง มาพร้อมสายหนังจระเข้นูบัค

และ นาฬิกา HUBLOT Classic Fusion Tourbillon Skull (อูโบลท์ รุ่น คลาสสิก ฟิวชั่น ทูร์บิญอง สกัล) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ อูโบลท์ สกัล (Hublot Skull) ที่มาพร้อมความพิเศษของกลไกทูร์บิญอง ผสานรูปแบบของงานดีไซน์ตัวเรือนและฟังก์ชั่นต่างๆ ได้อย่างโฉบเฉี่ยวและร่วมสมัย โดยใช้วัสดุอลูมิเนียมเคลือบด้วยเซรามิกสีดำเสริมสร้างลุคที่ดูหรูหราและโดดเด่น ก่อนที่จะมีการนำมาขัดแต่งขึ้นลายแบบด้านด้วยมือ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเรือน ซึ่งมีการจัดอันดับความแข็งที่สูงถึงประมาณ 1000 วิคเกอร์ โดยมีคุณสมบัติพิเศษสามารถต้านทานต่อการกัดกร่อนและแรงเสียดทานได้เป็นอย่างดี และยังมีน้ำหนักเบาเป็นสองเท่าของเซรามิกด้วย คลาสสิกฟิวชั่น ทูร์บิญอง สกัล บรรจุกลไก ไขลาน ทูร์บิญองแบบสเกเลตัน สำรองพลังงานได้นานถึง 5 วัน ผลิตขึ้นมาเพียง 50 เรือน พร้อมหมายเลขกำกับตัวเรือนเบอร์ 9 ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในเมืองไทย

 

 

Luxury เรือนเวลาอันหรูหราสง่างามด้วยวัสดุตัวเรือนล้ำค่า และการคัดสรรอัญมณีชิ้นงามมาบรรจงตกแต่งบนเรือนนาฬิกา โดย GUCCI DIAMANTISSIMA (กุช ชี่ รุ่น ไดอามานทิชชิม่า) หนึ่งในคอลเลคชั่นนาฬิกาอันเลื่องชื่อของแบรนด์แฟชั่นระดับเวิล์ดคลาส ที่สร้างปรากฎการณ์ครองใจแฟชั่นนิสต้าทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ด้วยแรงบันดาลใจจาก “ไดอามานเต” (Diamante) แพทเทิร์นที่เรียบง่ายด้วยการเรียงตัวของสี่เหลี่ยมแบบไขว้สลับกันอย่างสวยงาม เหมือนดั่งเหลี่ยมมุมของเพชร อันเป็นไอคอนเด่นของแบรนด์กุชชี่ MAURICE LACROIX MASTERPIECE SKELETON (มอริส ลาครัวซ์ รุ่น มาสเตอร์พีซ สเกเลตัน) นาฬิกาเรือนนี้จะพาให้เพลิดเพลินไปกับภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจของสปริงหลัก ชุดจักรกรอก แกนไขลาน ตลอดจนชิ้นส่วนๆ อื่นๆ ของกลไกอีกมาก ด้วยกลไกไขลานด้วยมือนี้มีสะพานจักรที่ทำเป็นลาย Grand Colimaçon (ก้นหอย) และพ่นทราย โดยเลือกได้ว่าจะเอาเป็นแบบทองคำดำหรือน้ำเงินเคลือบผิวแบบ CVD TAG HEURE CARRERA-CALIBRE HEURE 01 (แทค ฮอยเออร์ รุ่น คาร์เรร่า คาลิเบอร์ ฮอยเออร์ 01) นาฬิกาที่ทำงานด้วยระบบกลไกโครโนกราฟที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ โดยใช้ชื่อว่า “Heure 01” การดีไซน์ใหม่ที่ออกแบบมาให้ดูโปร่ง เผยให้เห็นรายละเอียดของระบบกลไกการทำงานของโครโนกราฟ พร้อมด้วยหน้าต่างแสดงวันที่แบบเปลือยบนหน้าปัด ฝาหลังเปลือย แสดงให้เห็นคอลัมวีลสีแดง ลูกตุ้มโปร่งและสะพานชุดจับเวลาสีดำ ที่สามารถดึงดูดสายตาให้มองลึกลงไปถึงระบบกลไกภายในที่ซับซ้อนและผลิตขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน

 

 

ในขณะที่ Trend นาฬิการุ่นล่าสุด ล้ำสมัย นำเทรนด์จากแบรนด์ดังทั่วโลกมานำเสนอก่อนใคร อาทิ ORIS El HIERRO LIMITED EDITION (โอริส รุ่น เอล แอร์โร ลิมิเต็ด เอดิชั่น) ผลิตจํานวนจํากัด 2,000 เรือนทั่วโลก และมีเพียง 50 เรือนในประเทศไทย เป็นนาฬิกาไดฟ์เวอร์รุ่นล่าสุดที่ได้แรงบันดาลใจจากภูเขาไฟใต้น้ำ เลียนแบบหินภูเขาไฟด้วยสีดําและเทา โดยสีแดงถูกนําไปใช้ที่ขีดบอกเวลาเป็นนาทีของขอบวงแหวนบนหน้าปัด เปรียบเสมือนการไหลของลาวา, SEIKO Zimbe Limited Edition (ไซโก รุ่นจิมเบ ลิมิเต็ด เอดิชั่น) ผลิตจํานวนจํากัดเพียง 1,299 เรือนในประเทศไทย ด้วยหน้าปัดสีเทาที่ได้แรงบันดาลใจจากสีของฉลามวาฬ มาพร้อมกับเทคโนโลยี AIR DIVER’S ปกป้องตัวเรือนจาก Helium Gas เมื่ออยู่ใต้ท้องทะเลลึก และสามารถกันน้ำลึกได้ถึง 200 เมตร SEVENFRIDAY KUKA II (เซเว่นฟราย์เดย์ รุ่น กูก้า ทู) นาฬิกาที่มีการติดตั้งฝังชิป NFC อยู่ภายในตัวเรือน เพื่อจัดเก็บข้อมูลและรับประกันพร้อมยืนยันว่าเรือนเวลาเหล่านี้เป็นของแท้ ตัวเรือนสเตนเลสสตีล พร้อมเคลือบด้วยเทคนิค PVD ป้องกันตัวเรือนอย่างดีด้วยยางซิลิโคนคงทนและยืดหยุ่นสูง กระจกหน้าปัดมิเนอรัลกลาสป้องกันรอยขีดข่วนและลดแสดงสะท้อนมาพร้อมสายหนังรับเบอร์คุณภาพสูงสีส้มสดใส สามารถกันน้ำได้ถึง 30 เมตร

 

 

ทั้งนี้สยามพารากอนยังได้เตรียมมอบโปรโมชั่นสุดพิเศษและของรางวัลมากมาย ถึง 9 ต่อ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็น ส่วนลดพิเศษสูงสุดกว่า 50% พิเศษสำหรับสมาชิกบัตร เอ็ม การ์ด (M Card) และแพลตตินัม เอ็ม การ์ด (Platinum M Card) รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 8% พร้อมรับสิทธิลดเพิ่ม 12.5% เมื่อใช้คะแนนสะสม M Point เท่ากับยอดซื้อ อีกทั้งโปรแกรมผ่อน 0% นาน 10 เดือน พร้อมรับ Cash back/ on top จากบัตรเครดิตชั้นนำสูงสุด 25+20% นอกจากนี้เมื่อช้อปฯ นาฬิกาภายในงานครบตามเงื่อนไข รับบัตรจอดรถ Siam Paragon ฟรี 1 ปี พร้อมกันนี้ยังแลกรับ E-Voucher สูงสุด 10,000 บาทผ่าน www.facebook.com/watchgalleria เพื่อใช้เป็นส่วนลดทันที และรางวัลอื่นๆ มากมาย ตลอดจนข้อเสนอชั้นสุดพิเศษอีกมากมายที่นำมามอบให้เฉพาะงานนี้เท่านั้น

“สยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป 2016” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม – 15 สิงหาคม ศกนี้ ณ ฮอลล์ ออฟ เฟม, วอทช์ บูติก ,คริสตัล คอร์ท และ วอทช์ แกเลอเรีย พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ชั้น M และแฟชั่น ฮอลล์, พื้นที่ฝั่งสตาร์ โดม ชั้น 1 สยามพารากอน นอกจากนี้ เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ที่ วอทช์ แกเลอเรีย ที่ เดอะมอลล์ ทุกสาขา ดิ เอ็มโพเรียม และพารากอน ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์ ยังมอบโปรโมชั่นลดสูงสุด 50% จนถึงวันที่ 30 กันยายนนี้ สอบถามรายละอียดเพิ่มเติมโทร. 0-2610-8000

 

ติดตาม women.truelife.com ได้ที่

FacebookTwitterInstagram

We are women’s best friend.

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

แท็กยอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง