รีเซต

How To แต่งหน้ารับปริญญาด้วยตัวเอง หวานใสในงบเบาๆ

How To แต่งหน้ารับปริญญาด้วยตัวเอง หวานใสในงบเบาๆ
Pookie Chan
24 พฤษภาคม 2558 ( 13:27 )
76.6K

 

     วันรับปริญญา ถือเป็นหนึ่งวันสำคัญที่สาวๆ ขอสวยมั่นใจให้ถึงที่สุด แต่กว่าจะเป๊ะทั้งเสื้อผ้าหน้าผมก็ต้องใช้งบมิใช่น้อย แถมยังไม่รู้จะออกมาสวยถูกใจเราหรือเปล่า การแต่งหน้ารับปริญญาเองจึงถือเป็นตัวเลือกดีๆ ที่จะทำให้เราสวยจัง ตังค์เหลือเพียบค่ะสาวๆ Women Society จึงนำเอา How To แต่งหน้ารับปริญญาแบบหวานซ่อนเปรี้ยว ของเมคอัพกูรูสาวสวย คุณ Jelly Fat Fish มาฝากกันค่ะ ใช้งบเบาๆ แต่ออกมาสวยหวานน่ารักแบบมือโปรเลยทีเดียว นอกจากรับปริญญาก็ยังแต่งออกงานต่างๆ ได้อีกด้วยนะ ใครชอบสไตล์หวานซ่อนเปรี้ยวมาแต่งตามกันเลยค่า

 

 

 


อุปกรณ์สำหรับเบสเมคอัพมีดังนี้



กันแดด MizuMi UV Water Serum SPF 50+ PA ++++ 

เบส Etude Beauty Shot Face Blur SPF 15 PA+

รองพื้น Modeling Liquid Foundation #YO02 , Make up forever HD foundation #153

ไฮไลท์เนื้อครีม YSL touche eclat

แป้งฝุ่น Candy Doll 01

บรอนเซอร์ 4U2 highlight & shading celebrity


______________________ 


หลังจากที่เราตื่นนอนมาแล้วก็ให้ล้างหน้าให้สะอาดนะคะ คราวนี้ไม่ต้องทาครีมใดๆทั้งสิ้น 


ให้เราเริ่มจากการใช้น้ำแร่ฉีดให้ทั่วใบหน้าให้ผิวชุ่มชื่นแทน 

แล้วตามด้วยกันแดด MizuMi UV Water Serum SPF 50+ PA ++++ 


เลือกครีมกันแดดสูตรเนื้อบางเบาเกลี่ยแล้วเป็นน้ำๆ เพราะไม่หนักหน้า เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบขาว 

ใครที่หน้ามันก็ใช้ได้เพราะเป็นสูตรคุมมัน ถ้าใครเหงื่อออกง่ายให้ใช้สูตรกันน้ำ 

จะช่วยให้เครื่องสำอางติดทนมากยิ่งขึ้น 


“กันแดดสำคัญมาก เพราะเราต้องเจอทั้งแดดทั้งลม ใครไม่ทาระวังหน้าดำนะน้องนะ”



ลงกันแดดเรียบร้อยแล้ว ก็ให้ตามด้วยไพร์เมอร์หรือเบสตามสภาพผิวของแต่ละคน 

จูนสภาพผิวปรกติค่อนไปทางแห้ง ก็จะเลือกใช้เบสที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว


ครั้งนี้ใช้ Etude Beauty Shot Face Blur SPF 15 PA+ เพราะมีคุณสมบัติช่วยเรื่องการถ่ายภาพ 

ให้ผิวเรียบลื่นเกลี่ยรองพื้นง่ายขึ้น ไม่มันไม่แห้ง ผิวดูนวลๆตรงกับความต้องการพอดี

วิธีการลงไม่ต้องลงหนานะคะให้ลงบางๆทั่วใบหน้า ใช้นิ้วมือกดเบาๆให้ซึมเข้าผิว 

 


ต่อด้วยการลงรองพื้น 


เราจะเลือกรองพื้นที่พอดีกับสีผิว ถ้าเป็นสาวผิวมันหรือผิวหน้าหมองระหว่างวัน 

ให้เลือกรองพื้นที่สว่างกับผิวประมาณ 1 เฉด 

ลงรองพื้นให้ทั่วใบหน้า จะใช้นิ้วมือหรือแปรงก็ได้ ตามความถนัด 

แล้วใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆ กดซับเพื่อเกลี่ยรองพื้นและเก็บส่วนเกินออก

ฟองน้ำจะช่วยให้รองพื้นซึมติดผิวหน้าได้ดียิ่งขึ้น



มาสร้างมิติให้ใบหน้ากันต่อ โดยการใช้รองพื้นสีเข้มขึ้นมาประมาณ 1-2 เฉด 

ลงที่บริเวณกรอบหน้า ไรผม ปีกจมูก แล้วเกลี่ยให้กลมกลืน(ภาพด้านขวา)

ใครที่หน้าเหลี่ยมหน้ากลม เฉดดิ้งไม่เป็น วิธีง่ายๆคือ 

ปัดยังไงก็ได้ให้รูปหน้าใกล้เคียงรูปไข่มากที่สุด เท่านี้เองค่ะ 

ใครที่ลงรองพื้นขาวกว่าผิวมากเกินไป วิธีนี้ช่วยแก้อาการหน้าขาวกว่าคอได้ด้วยนะคะ


เพิ่มความไบร์ทให้หน้าพุ่งด้วย YSL touche eclat 

บริเวณสันจมูก ใต้ตา คางและรอยหยักของริมฝีปาก

ใครที่มีรอยสิว รอยแดง รอยดำ ให้ใช้คอนซีลเลอร์สีเดียวกับผิวกลบรอยในตอนนี้ได้เลย 

 

 


เกลี่ยให้กลมกลืน แล้วเซ็ตทั้งหมดด้วยแป้งฝุ่น 

โดยจะใช้แปรงพุ่มใหญ่ๆฟูๆปัดเพียงบางๆ แค่ให้รองพื้นไม่หนึบผิวก็เพียงพอแล้ว

หลังจากนั้น ให้ดูว่ามีส่วนไหนที่ต้องการปกปิดเพิ่มค่อยใช้แป้งผสมรองพื้นสีพอดีผิว

ลงด้วยแปรงเบาๆจะทำให้ปกปิดได้ดีขึ้นและหน้าไม่ดูหนาโบ๊ะด้วยค่ะ




หลังจากลงแป้งแล้ว เราจะมาย้ำการสร้างมิติให้ใบหน้าด้วยผลิตภัณฑ์แบบฝุ่น เพื่อให้ติดทนทั้งวัน 

เฉดดิ้ง 4U2 highlight & shading celebrity

ไฮไลท์ Catrice Velvet matt eyeshadow 010 vanillaty fair


สีที่ใช้ในการเฉดดิ้งควรใช้แบบเนื้อแมทสีน้ำตาลอมเหลือง 

จะเข้ากับสีผิวสาวไทยมากกว่าสีน้ำตาลอมส้ม 

จูนชอบตัวนี้ของ 4U2 มากๆ ราคาไม่แพง สีสวย ติดทน แต่ยังไม่ถูกใจไฮไลท์ที่คู่มาด้วยเท่าไหร่ 

ถ้าไฮไลท์เป็นแบบเนื้อแมทคงจะโดนกว่านี้ ไฮไลท์ที่ชอบและตอนนี้ใช้บ่อยมากๆ

เป็นของ catrice รุ่นจริงๆเป็นอายชาโดว์ แต่เอามาทำไฮไลท์สวยมาก



สีครีมเนื้อเกือบๆแมท แอบมีชิมเมอร์สีทองละเอียดผสมเล็ดน้อยแทบมองไม่เห็น แต่ให้ออร่า 

เวลาปัดทำให้หน้าดูพุ่งแบบนวลเนียนขึ้นแบบธรรมชาติ ไม่มันย่อง

เด็กๆใช้กับงานรับปริญญา หรืองานกลางแจ้งได้สบายมาก ผิวมันก็ใช้ได้นะคะ ดีมากเลย 


 

จะเห็นในรูปว่าเมื่อคอนทัวร์หน้าแล้วหน้าจะดูมีมิติ และสีผิวด้านข้างไม่ลอยจากคอ 

แต่ในภาพนี้ยังไม่ได้ไฮไลท์นะคะ ไม่งั้นจะดูพุ่งกว่านี้อีก

จูนจะไฮไลท์ในขั้นตอนท้าย ก่อนทาลิป 

แต่ใครจะลงไปพร้อมๆกับตอนเฉดดิ้งก็ทำได้นะ ผลไม่ต่างกัน 


การไฮไลท์ เฉดดิ้ง สำคัญมากเลยกับวันที่ต้องถ่ายรูปเยอะๆ 

เพราะจะทำให้ถ่ายรูปขึ้น ดูหน้าเล็ก อยากจะวีเซฟแค่ไหนก็ทำได้ แค่เฉดดิ้ง อย่าลืมทำตามกันนะ 



มาต่อกันด้วยการเขียนคิ้ว 

 

 

 

ดินสอเขียนคิ้ว Cosluxe Slim Brow Pencil #Deep Brown 

พาเลทคิ้วชนิดฝุ่น Lola eyebrow kit Brow101 #Blonde

มาสคาร่าคิ้ว Mille 3D Brow mascara #Deep Brown


_______________



 

1 ใช้ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่น ระบายให้ทั่วทรงคิ้ว โดยยังไม่ต้องให้เป็นระเบียบมากนัก 


2 ระบายส่วนของหัวคิ้วให้เป็นดูสูงขึ้น ระบายตามทรงคิ้วเดิม จะได้ความหนาแบบธรรมชาติ ทำให้คิวนั้นดูละมุนและหน้าดูเด็กลง


3 ใช้มาสคาร่าคิ้วปัดให้เส้นขนที่หัวคิ้วตั้งขึ้นและจัดทรงให้เข้ารูป ปรับให้สีเส้นขนคิ้วดูอ่อนลงเป็นสีน้ำตาลธรรมชาติ เพื่อความกลมกลืนกับสีคิ้วแบบฝุ่น 

 

 

4 รอให้มาสคาร่าคิ้วแห้ง แล้วใช้ดินสอเขียนคิ้วเขียนระหว่างเส้นคิ้วในส่วนที่ขาดหายไป 

และเพิ่มความชัดที่หางคิ้วเล็กน้อย 




ไพรเมอร์ให้ทาบางๆ เปลือกตาสองข้างใช้ปริมาณน้อยกว่าเม็ดถั่วเขียวก็พอแล้วค่ะ 

ถ้าทาหนาจนเกินไปแทนที่สีสันจะติดทนตลอดทั้งวัน จะทำให้เกิดอาการเปลือกตามันมากยิ่งขึ้นได้ 

และทำให้เนื้อไพรเมอร์ตกร่องรอบพับเปลือกตาอายชาโดว์ละลายกลายเป็นคราบระหว่างวันด้วย 



อายแชโดว์โทนสีชมพูอมม่วง

4U2 : 4 Color Eyeshadow #05 Way-Out 


 

อายชาโดว์รุ่นใหม่ของ 4U2 มีคุณสมบัติคือเป็นอายชาโดว์เนื้อ Wet powder 

ไม่ใช่เนื้อครีมและไม่เชิงเนื้อฝุ่น จะมีความเปียกของเนื้อผลิตภัณฑ์เล็กน้อย

เวลาเบลนลงบนเปลือกตาจะแนบสนิทไปกับผิว ติดทนนานตลอดวัน 

ให้สีสันที่ชัดเจน และผงอายชาโดว์แทบไม่ร่วงลงที่บริเวณใต้ตาเลยค่ะ

ขั้นตอนแต่งตามีดังต่อไปนี้ 



 

1 ก่อนแต่งตา ทาอายไพรเมอร์ให้ทั่วเปลือกตา 


2. ทาอายชาโดว์สีชมพู (1) ให้ทั่วเปลือกตา


3. แตะอายชาโดว์สีทองอ่อน (2) ลงบริเวณกลางเปลือกตา 


4 เบลนอายชาโดว์สีม่วง (3) ลงบริเวณขอบตาให้กลมกลืน 

สีม่วงในพาเลทนี้เมื่อเบลนแล้ว จะมีสีน้ำตาลเจือมาด้วย ทำให้ดูตาซอล์ฟมากขึ้นค่ะ


5 เขียนอายไลน์เนอร์ให้ชิดขอบตา เลือกชนิดกันน้ำ จะทำให้เป๊ะทั้งวัน 


6 ลงอายชาโดว์สีบรอนซ์น้ำตาล (4) บริเวณหางตาล่าง 


7 ลงอายชาโดว์สีขาวของ cartict บริเวณหัวตาถึงกลางตาล่าง 


8 ดัดขนตาและปัดมาสคาร่าชนิดกันน้ำทั้งบนและล่าง 

และส่วนปลายของหัวมาสคาร่า แตะเบาๆที่ขอบตาล่าง แทนการเขียนอายไลเนอร์

เพราะเนื้อมาสคาร่าแบบกันน้ำจะทนมาก ไม่เลอะเปื้อนตลอดทั้งวัน

แต่ระวังต้องแตะอย่างใจเย็นนะคะ ถ้าหนักมือไปจะกลายเป็นใต้ตาเลอะได้จ้า


9 ติดขนตาปลอมแบบตัดครึ่งบริเวณหางตา ให้หางตามีความยาวกว่ากลางตาแล้วจัดขนตาให้ดูเป็นธรรมชาติ 


(บางมหาวิทยาลัยไม่ให้ติดขนตาปลอม ก็ให้ปัดมาสคาร่าที่มีเส้นไฟเบอร์ 

ช่วยเพิ่มความยาวขนตาแทนนะคะ)


เสร็จเรียบร้อยค่ะ 


 

ขนตาใช้ Cosluxe 1-07 ตัดครึ่ง แล้วใช้ด้านยาวติดหางตา จะดูหางตายาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ 

กาวติดขนตาสีใส Cosluxe ติดแน่นดี ชอบๆๆๆ

กาวสีดำ Arty ใช้ย้ำหัวและหางตากันไว้หน่อย 

เผื่อมีช็อตแอบหลับ หาว ดราม่าน้ำตาไหล จะได้อยู่ทนๆ 


__________________________________ 


มาต่อด้วยการปัดแก้ม 


 


เลือกใช้พาเลทบลัชออนเนื้อแมท 4U2 Matt Blush 05 Soul เป็นสีโทนชมพูแต่มีติดส้มมาด้วย 

เพื่อให้ใบหน้าดูไม่หวานจนเกินไป มีความสดใสของสีส้มเจือนิดๆ



ส่วนบลัชออนแบบชิมเมอร์สีชมพู 4U2 Shimmer Blush 03 Charm 

ใช้ปัดหน้าแก้ม ให้หน้าดูสดใสๆ 


แต่ถ้าใครหน้ามันมาก ให้ปัดแค่เนื้อแมทก็พอนะคะ 


 
 
 

เริ่มจากใช้บลัชออนเนื้อแมทปัดส่วนของสีชมพูในพาเลท 

แล้วนำมาปัดบริเวณหน้าแก้มด้วยจากนั้นตามด้วยสีส้มบางๆ 


ต่อด้วยปัดบลัชเนื้อชิมเมอร์มีวิ้งเล็กน้อย บริเวณกลางของแก้ม จะให้ลุกค์สดใสอ่อนเยาว์ 


 

ขั้นตอนสุดท้ายนั่นคือ การทาลิปสติกนั่นเองงง 


 

ทิ้นต์ Benefit Lolli Tint 

ลิปสติก Cosluxe Kiss me pink


การเลือกใช้สีลิปสติกสำหรับวันรับปริญญา อย่าลืมว่าเราจะต้องเน้นถ่ายรูป 

จะต้องทาสีติกให้ดูเข้มกว่าปรกติเล็กน้อย 

ไม่ได้หมายถึงสีเข้มแปร๊นนะคะ จูนหมายถึงสีลิปสติกที่ถ่ายรูปออกมาไม่ดูซีด 

นู้ดๆเป็นคนป่วย อันนั้นไม่โอเคนะ 


 

ในวันงานเราจะยุ่งมากๆจนไม่มีเวลาเติมลิปสติก จูนจะใช้เทคนิค

ทาบริเวณด้านในของริมฝีปากด้วยสีสดก่อน แล้วตามด้วยลิปสติกสีที่ชอบหรือสีธรรมชาติทับอีกครั้ง

เพื่อให้ใบหน้าดูเป็นธรรมชาติ สวยงามและสีติดทนค่ะ



 

การเลือกใช้อายไลเนอร์ ให้เลือกแบบกันน้ำและเขียนได้ง่ายถนัดมือ 


 

ส่วนตัวจูนชอบแบบปากกามากที่สุด เพราะเขียนง่าย เส้นเล็ก 

ช่วยให้การแต่งหน้าง่ายขึ้นและติดทนนานตลอดทั้งวันค่ะ 

ตอนนี้ชอบใช้ Malissa Kiss Super Black Ultra HD Eyeliner

เพราะเขียนง่าย เส้นดำสนิท ติดทนและกันน้ำ โอเคเลยนะ



 

และการติดขนตาแบบหางตายาวเล็กน้อย จะช่วยยกหางตาให้ดูสดใสไม่เหนื่อยล้า 



การแต่งหน้าสไตล์หวานใสแฝงด้วยความซุกซนเล็กๆ แบบนี้ จะช่วยเพิ่มความอ่อนเยาว์ได้ดีเลยล่ะค่ะ หากใครไม่อยากแต่งออกมาแล้วดูแก่ ก็ลองนำลุคนี้ไปแต่งตามกันดูนะคะ  



ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก 

www.jellyfatfish.comwww.facebook.com/jellyfatfish  

 

ติดตาม women.truelife.com ได้อีกช่องทางที่


  Facebook    Twitter  

 

we are women’s best friend  คลิกที่ http://women.truelife.com

 

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

แท็กยอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง